16 เมษายน พ.ศ. 2557 ‘เรือเซวอล’ อับปาง ขณะเดินทางไปเกาะเชจูโศกนาฏกรรมคร่าชีวิตชาวเกาหลีใต้กว่า 304 คน

ในวันนี้เมื่อ 9 ปีก่อน ได้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่สะเทือนใจคนทั้งโลก โดยเฉพาะชาวเกาหลีใต้ นั่นก็คือ โศกนาฏกรรม ‘เรือเซวอล’ อับปาง ที่คร่าชีวิตไปกว่า 304 คน โดยส่วนใหญ่เป็นนักเรียนมัธยม

โดยเหตุการณ์นี้ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 (ค.ศ. 2014) เรือเซวอลกำลังมุ่งหน้าจากเมืองอินชอนสู่เกาะเชจูตามตารางเวลาที่กำหนด โดยบนเรือส่วนใหญ่เป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมของโรงเรียนดันวอน ที่กำลังออกไปทัศนศึกษา

เมื่อรวมจำนวนผู้โดยสารและลูกเรือแล้ว เรือลำนี้บรรจุผู้โดยสารกว่า 476 ชีวิต ซึ่งเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของน้ำหนักผู้โดยสาร ที่เจ้าของเรืออ้างว่าเซวอลสามารถบรรทุกได้

ในวันเกิดเหตุ กัปตันอีจุนซอก วัย 69 ปี ผู้กุมชะตาชีวิตคนบนเรือเกือบ 500 คน กลับไม่ได้อยู่ในห้องควบคุมเรืออย่างที่ควรจะเป็น แต่กลับสั่งให้ลูกเรือเป็นผู้ดำเนินการทุกอย่างแทน ซึ่งเมื่อเรือเข้าสู่ช่องแคบ ที่เต็มไปด้วยโขดหินและคลื่นแรงใต้ทะเล ลูกเรือที่ไม่มีประสบการณ์มากพอก็ตัดสินใจผิดพลาดได้หันหัวเรือกะทันหัน และกระปุกพวงมาลัยเรือที่ทำงานขัดข้อง จึงเป็นปัจจัยแรกที่ทำให้เซวอลศูนย์เสียการทรงตัว

นอกจากความหละหลวมในการทำหน้าที่ของเขาแล้ว เรือลำนี้ยังบรรทุกสินค้าที่ไม่สมดุลและเกินน้ำหนักมาตรฐาน คอนเทนเนอร์สินค้าที่จัดวางอย่างไม่รัดกุม รวมถึงน้ำอับเฉาที่มีน้อยกว่าที่ทางการกำหนด โดยเรือเซวอลนั้น แท้จริงแล้วเป็นเรือมือสองที่ซื้อต่อมาจากบริษัทญี่ปุ่น ซึ่งบริษัทชองแฮจินของเกาหลีใต้ ได้ซื้อมาเพื่อใช้งานต่อเมื่อปี 2012

หลังจากนั้น บริษัทชองแฮจินของเกาหลีใต้ ได้มีการปรับปรุงเรือและทำการต่อเติม เพื่อให้รองรับผู้โดยสารได้มากกว่าเดิม ซึ่งจุดนี้เองจึงกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมในครั้งนี้ เพราะการต่อเติมเรือ ทำให้ศูนย์ถ่วงเรือมีปัญหา ยิ่งไปกว่านั้นทางบริษัทฯ ยังได้ยื่นขอบรรทุกสินค้าเกือบ 2,000 ตัน ซึ่งต่อมากรมทะเบียนเรือ ได้ปรับลดน้ำหนักบรรทุกสินค้าของเซวอลลงเหลือครึ่งหนึ่ง และกำหนดให้ต้องบรรทุกน้ำอับเฉาถึง 2,000 ตัน เพื่อให้เรือสามารถทรงตัวอยู่ได้

และดูเหมือนว่าโศกนาฏกรรมในครั้งนี้ เกิดจากความประมาทของตัวกัปตันและความเห็นแก่ได้จากทางบริษัทเจ้าของเรือเซวอล ที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสาร แต่ยิ่งไปกว่านั้นเหตุการณ์บนเรือยิ่งสร้างความสลดใจ เพราะหลังจากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเหล่านี้แล้วแทนที่กัปตันอีจุนซอก จะลำเลียงผู้โดยสารไปยังเรือชูชีพ แต่กลับออกคำสั่งให้ทุกคนอยู่ประจำที่รอคำสั่งต่อไป ขณะที่เรือประมงและเรือพาณิชย์ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงก็ทยอยเข้าให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารบริเวณดาดฟ้าเรือและผู้โดยสารที่กระโดดลงทะเลเพื่อเอาชีวิตรอด

ส่วนกัปตันอีจุนซอกและลูกเรืออีกจำนวนหนึ่ง ก็เลือกที่จะสละเรือและหลบหนีออกมา ทำให้คนที่ยังติดค้างอยู่ภายในตัวเรือชั้นต่างๆ รวม 304 รายเสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งในจำนวนนี้ ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 5 ที่กำลังจะไปทัศนศึกษา แต่กลับต้องมาพบจุดจบอันน่าเศร้า สร้างความสะเทือนใจให้กับชาวเกาหลีทั้งประเทศ รวมถึงคนที่ทราบข่าวทั่วโลก

วันที่ 15 พฤษภาคม กัปตันอีจุนซอก หัวหน้าวิศวกรประจำเรือ และลูกเรืออีก 2 คนถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตาย ขณะที่ ลูกเรืออีก 11 คนถูกตั้งข้อหาละสละเรือละทิ้งหน้าที่ และเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ศาลได้ตัดสินให้กัปตันอีจุนซอกรับโทษจำคุก 36 ปี หัวหน้าวิศวกรรับโทษจำคุก 30 ปี ส่วนลูกเรือที่เหลือรับโทษจำคุกระหว่าง 5 ถึง 20 ปี และในปี 2017 ทางการเกาหลีใต้ จึงได้กู้ซากเรือเซวอลขึ้นมาจากใต้ท้องทะเลได้จนสำเร็จ หลังจากที่จมอยู่ใต้น้ำเป็นเวลานานกว่า 3 ปี