‘จูรี’ อ้อนชาวชุมพร เลือก ‘ชาติพัฒนากล้า’ กาให้ ‘ทนายลิขิต’ ชู ‘กรณ์’ ทำพรรคนี้เพื่อปากท้อง ไม่ด่าทอ ไม่ทะเลาะกับใคร

‘กรณ์-จูรี’ ลุยชุมพร ช่วย ‘ทนายลิขิต’ หาเสียง อ้อนขอโอกาสลูกชาวบ้าน กาให้ชาติพัฒนากล้า พัฒนาเศรษฐกิจชุมพร

(9 เม.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างวันที่ 5-9 เมษายน 2566 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วยนายจูรี นุ่มแก้ว ดาวติ๊กตอกขวัญใจคนใต้ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จังหวัดสงขลา และทีมงาน ได้ตระเวนช่วยผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ต่าง ๆ ตั้งแต่ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดสุราษฎร์ธานี และพื้นที่สุดท้ายคือที่จังหวัดชุมพร โดยนายกรณ์ และนายจูรี ลงพื้นที่จังหวัดชุมพร เพื่อช่วยทนายลิขิต ศรีชาติ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จังหวัดชุมพร หาเสียง โดยพบปะพี่น้องประชาชนบริเวณ บริเวณหลาดเล อำเภอท่าแซะ และจัดเวทีปราศรัยที่ถนนคนเดินสะพลี อำเภอปะทิว โดยมีประชาชนให้ความสนใจและให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก และอบอุ่น

นายกรณ์ กล่าวว่า จ.ชุมพร ถึงเวลาต้องมีการเขย่าให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ๆ ได้เข้ามาทำการเมืองสร้างสรรค์ พรรคชาติพัฒนาเราส่งผู้แทนคุณภาพที่เป็นลูกชาวบ้าน คือ ทนายลิขิต ศรีชาติ เป็นอดีตรองนายก อบจ.ที่ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนมากว่า 3 ปี แล้ว ไม่ได้เพิ่งมาตอนจะมีการเลือกตั้ง และนโยบายพรรคชาติพัฒนากล้าเอง ก็ได้รับการยอมรับว่า แหลมคมที่สุดในด้านเศรษฐกิจ และสามารถสรุปได้ง่าย ๆ แค่ 3 คำคือ งานดี มีเงิน ของไม่แพง เพราะเรารู้ว่านี่คือสิ่งที่ประชาชนทั้งประเทศต้องการ เราต่อสู้มาตลอดตั้งแต่ราคาน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ยกเลิกแบล็กลิสต์ ฯลฯ ที่เอาเปรียบประชาชน เอื้อนายทุน 

หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า พวกเราเลือกที่อยู่พรรคเล็ก ๆ และยืนหยัดต่อสู้กับนายทุน เพราะเราไม่ได้พึ่งพาปัจจัยการสนับสนุนจากทุนใหญ่เลย เราจึงกล้าที่จะพูดและกล้าที่จะทำในสิ่งที่ตอบสนองความต้องการของประชาชน ในฐานะที่อดีต รมว.คลัง และอดีตนายธนาคาร ขอยืนยันนโยบายทุกนโยบายเป็นไปได้ โดยเฉพาะภาคการเกษตร นโยบายประกันรายได้ ตนเป็นคนคิดเอง แต่เป็นการออกแบบแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ใช่เอามาใช้ปีแล้วปีเล่า แต่ชาวบ้านก็ยังจนเหมือนเดิม ถ้าจะดีราคาสินค้าทางการเกษตรต้องดีอย่างยั่งยืน เกษตรกรต้องเป็นนายทุน กำหนดราคาสินค้าเอง ขอเพียงโอกาสให้ตนได้เข้าไปทำงาน ตนจะทำให้ดู 

“หากพี่น้องประชาชนต้องการสร้างโอกาสให้ลูกหลาน ผู้สูงอายุได้รับการดูแล ความเดือดร้อนทางด้านปากท้องของพี่น้องประชาชนได้รับการแก้ไข ก็ต้องกาเบอร์ 6 เลือกทนายลิขิต ไปเป็นผู้แทน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และกาเบอร์ 14 เพื่อให้ผมเข้าไปทำงาน” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าว 

นายจูรี กล่าวระหว่างขึ้นเวทีปราศรัย ว่า ดูจากจำนวนคนที่เข้าร่วมฟังเวทีปราศรัยในครั้งนี้ รู้ทันทีว่าเงินซื้อชาวบ้านไม่ได้ เพราะเป็นพลังเสียงที่บริสุทธิ์ ทำให้เห็นความหวัง และได้กลิ่นความเจริญของชุมพรกำลังลอยมาแล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการเลือกตั้ง ที่มี่การใช้เงินครั้งมโหฬารที่สุด พวกเขาเห็นประชาชนเป็นปลา จึงเอาเหยื่อมาล่อ ให้ชาวบ้านไปกินเหยื่อเขา เราต้องให้บทเรียนพวกนั้นว่า คนชุมพร กินเหยื่อ แต่ไม่กินเบ็ด ให้คนตกปลามันกลัวไปเลย ขอให้ชาวบ้านมาร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่กัน โดยการให้โอกาสลูกชาวบ้านเข้าไปเป็นผู้แทน 

“การเมืองภาคใต้ที่ผ่านมา เหมือนคุณยายวรนาถ คนรุ่นพ่อรุ่นแม่ กินเข้าไปจนพุงป่องแล้ว แทนที่จะเปิดโอกาสให้คนอื่นเข้าไปทำหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชนจริง ๆ บ้าง แต่กลับไปคายตะขาบให้ลูกหลานต่อ ๆ ไปอีก ลูกชาวบ้าน เมื่อไหร่จะได้มีสิทธิได้เป็นผู้แทน แต่หนนี้ ช่วยกันกาเบอร์ 6 ทนายลิขิต ศรีชาติ เราจะได้ผู้แทนมาจากลูกชาวบ้านคนติดดินจริง ๆ ไม่ต้องเป็นลูกคนบ้านใหญ่กำแพงสูง เพราะถ้าเราเดือดร้อน ไปหาเขาเขาคงไม่เห็นหัวเรา เพราะกำแพงสูงเกิน  พวกเธอคิดดูนะ เรารับเงินเขาวันที่ 13 พฤษภาคม เลือกตั้ง 14  พฤษภาคม วันที่ 15 พฤษภาคม เขาก็หายไปแล้ว เพราะเขาถือว่าเขาซื้อชาวบ้านขาดแลกคะแนนไปแล้ว แล้วถ้ามาคำนวณค่าตัวชาวบ้านนะ สมมุติเขาให้เรา 2,000 บาท วาระ ส.ส. 4 ปี ชาวบ้านเหลือค่าตัววันละ 68 สตางค์เท่านั้น เขาจะมาสนใจเราทำไม เพราะเขามีภารกิจถอนทุนที่ลงทุนไป 40-50 ล้านบาทไงพวกเธอ” นายจูรี กล่าว 

นอกจากนี้ นายจูรี ยังได้กล่าวถึง หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ว่า เป็นคนที่มีความตั้งใจตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อจะมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้พี่น้องประชานไม่ได้มาทะเลาะกับใคร ขึ้นเวทีที่ไหน ไม่เคยด่าใครเลย เพราะคิดว่า เอาเวลาที่จะด่าคนอื่นไป ทำให้สินค้าเกษตร ราคาสูงขึ้นไม่ดีกว่าหรือ มีหลายนโยบายที่จะช่วยเกษตรกร ทั้งราคายางที่บ่นกันมาทั้งปีทั้งชาติ เพราะพวกเราไม่สามารถต่อรองอะไรกันได้เลย เขาจะให้เราคาเท่าไหร่ ราคาปุ๋ยจะกระสอบเท่าไหร่ ชาวบ้านก็ต้องยอมรับชะตากรรม วิธีแก้ไขคุณกรณ์จึงได้คิดนโยบายเพื่อให้เกษตรกร มีอำนาจต่อรองขึ้นมา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนายทุนคนเดียว จึงเสนอว่า ให้ยกชาวบ้านขึ้นมาเป็นนายทุนเสียเอง โดยการจัดตั้งบริษัทสหกรณ์มหาชน จำกัด แล้วให้ชาวบ้านเป็นผู้ถือหุ้น รัฐบาลเป็นคนออกกฎหมาย จดทะเบียนจัดตั้งขึ้น แล้วเอาชาวบ้านมารวมกันเป็นนายทุน เพื่อเป็นเจ้าของและช่วยกันดูแลผลผลิตของตัวเอง เหมือนบริษัททั่วไปเลย ทีนี้ใครก็จะมาเอาเปรียบเราไม่ได้อีกต่อไป ถ้าอยากให้นโยบายเป็นจริง วันที่ 14 พฤษภาคม เข้าคูหาเลือก กาเบอร์ 6 ให้ทนายลิขิต เข้าไปเป็นปากเสียงให้ชาวบ้าน กาเบอร์ 14 ให้คุณกรณ์ได้เข้าไปทำงาน จำสัญลักษณ์ไว้ให้แม่น ๆ