‘กรณ์’ ควง ‘จูรี’ บุกสุราษฎร์ ช่วยผู้สมัคร ‘ชพก.’ หาเสียง ชาวบ้านแห่ต้อนรับ เผย นโยบายโดนใจ แก้ปัญหาปากท้องได้จริง

(8 เม.ย. 66) ในระหว่างวันที่ 7-8 เมษายน นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย นายจูรี นุ่มแก้ว ร่างทรงชาวบ้าน ดาวติ๊กตอกขวัญใจคนใต้ ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดสงขลา เขต 2 พรรคชาติพัฒนากล้า และทีมงานลงพื้นที่ ช่วยผู้สมัครทั้ง 4 คนของพรรคได้แก่ นายอนุวัตร์ รจิตานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ 4, นางพงศ์ศรี นาคเมือง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 เบอร์ 8, นายสุพจน์ บานเย็น ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 เบอร์ 9 และนายวศุธน เรืองขนาบ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 เบอร์ 4  พร้อมทีมงาน เดินขอเสียงประชาชนบริเวณ ตลาดเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี และร้านค้าถนนหน้าเมือง โดยมีพ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการร้านทอง พนักงานบริษัท และประชาชนทั่วไป ให้ความสนใจและมีเสียงตอบรับเป็นอย่างมากตลอดเส้นทาง พร้อมขอถ่ายรูปเซลฟีกับ นายจูรีและนายกรณ์อย่างคึกคัก สร้างสีสันให้กับพรรคเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังได้เปิดเวทีปราศรัย บริเวณสะพานนริศ ริมแม่น้ำตาปี เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีด้วย

โดยนายกรณ์ กล่าวว่า ตนกับนายจูรี มาช่วยเพื่อนผู้สมัครหาเสียง โดยก่อนหน้านี้เคยมาพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานีบ่อยเช่นกัน แต่การลง จ.สุราษฎร์ธานีครั้งนี้ ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานีดีมาก ทุกคนที่พบปะขานรับในนโยบายพรรค และเชื่อว่าจะได้รับการเลือกตั้งอย่างแน่นอน เพราะมั่นใจในตัวผู้สมัครที่ส่งทั้ง 4 คน 4 เขต และการนำเสนอนโยบายที่จะช่วยแก้ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้น ก็ทราบว่าโดนใจประชาชนเป็นอย่างมาก ทำให้รู้สึกมีกำลังใจ สำหรับในพื้นที่ภาคใต้พรรคชาติพัฒนากล้าเราส่ง 20 เขตเลือกตั้ง ทั้งนี้ก็อยู่ที่พี่น้องประชาชนที่จะให้โอกาสกับพรรคชาติพัฒนากล้าได้มีโอกาสเข้าไปทำงาน

นายกรณ์ กล่าวว่า ทุกคนรอคอยการแข่งขันทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ แก้ปัญหาปากท้องประชาชน เราคิดนโยบายมาเป็นปี ด้วยความตั้งใจมุ่งมั่นมาก ไม่เพียงแต่จะมาปักหมุดให้ผู้สมัครทุกคนเป็น ส.ส.เท่านั้น แต่มองไปไกลกว่านั้นคือ มองเห็นโอกาสทางเศรษฐกิจของสุราษฎร์ธานี มีโอกาสมากมาย แต่ขาดการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคชาติพัฒนากล้าต้องการมาแก้ไข พรรคเราเปิดโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานสร้างสรรค์เอานโยบายดี ๆ มาขาย นโยบายของเราเป็นที่ยอมรับโดยสื่อและประชาชน ว่ามุ่งเป้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ที่มีเป้าหมายสรุปง่าย คือ งานดี มีเงิน ของไม่แพง เราชนเรื่องพลังงาน เพื่อให้ราคาน้ำมันถูกลง ไม่ใช่ตัวเลขกำไรที่เพิ่มขึ้นของบริษัทผลิตน้ำมัน ในขณะที่ประชาชนเดือดร้อนอย่างหนักโดยที่รัฐมนตรีที่กำกับดูแลไม่ทำอะไร เช่นเดียวกับค่าไฟฟ้า ก็ประกาศออกมาว่าจะขึ้นค่าไฟฟ้าในวันที่ 1 พฤษภาคม เป็นการซ้ำเติมในช่วงที่ประชาชนใช้ไฟสูงสุดในช่วงเวลาดังกล่าว แต่กลับไปลดให้กับภาคอุตสาหกรรม ดังนั้นจึงต้องรื้อโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่

นายกรณ์ กล่าวว่า เกษตรกรภาคใต้มีปัญหาเดือดร้อนเรื่องราคาพืชผลทางการเกษตรมาโดยตลอด รัฐบาลแก้ปัญหาด้วยการจ่ายส่วนต่างประกันรายได้ปีแล้วปีเล่า ประชาชนก็ยังจนเหมือนเดิม แต่สิ่งที่ชาวบ้านต้องการคือราคาพืชผลดีอย่างยั่งยืน ซึ่งวิธีเดียวที่เกษตรกรจะมีราคาที่ดีอย่างยั่งยืนคือ เขาต้องแข่งขันได้ และการจะสู้ราคากับนายทุนได้เพราะเขาไม่มีอำนาจต่อรอง วิธีที่เขาจะต่อสู้ได้ คือ เกษตรกรต้องเป็นนายทุนเอง ซึ่งมันต้องเกิดการรวมตัวโดยมีรัฐบาลเป็นผู้ออกกฎหมาย เปิดทางและจัดสรรทุนให้ เกษตรกรต้องรวมตัวกันเป็นเพื่อให้มีพลัง ซึ่งตนเรียกว่า ‘บริษัทสหกรณ์มหาชน จำกัด’ ชาวสวนยางจะกลายเป็นนายทุน ผู้ถือหุ้นบริษัทสวนยางของพี่น้องชาวใต้ จะสามารถเจรจาต่อรองโดยตรงกับผู้ใช้ยาง กำหนดราคาได้ ไม่ต้องให้คนกลางมาทอนกำไรลง ซึ่งเรื่องนี้ต้องรื้อระบบใหม่ทั้งหมด พรรคชาติพัฒนากล้าเป็นพรรคเดียวที่พูดเรื่องนี้

ด้านนายจูรี กล่าวว่า จากการเดินขอเสียงในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี อารมณ์ไม่ต่างจากเดินที่ จ.สงขลา บ้านของตนเอง ทุกคนออกมาต้อนรับ ทั้งร้านทอง ร้านค้าต่าง ๆ ออกมาให้กำลังใจ ขานรับในนโยบายที่จับต้องได้ เช่น นโยบาย 1 คำขอ พูดง่าย ๆ คือ สามารถติดต่อกับราชการจบในที่เดียว ผ่านแอปพลิเคชันในมือถือ ไม่ต้องไปตระเวณไปหลายหน่วยงาน ในยุคออนไลน์มันสามารถทำได้ง่ายขึ้น ราชการต้องอำนวยความสะดวกให้ประชาชนต้อง ไม่ใช่เอาความลำบากมาให้ ซึ่งพรรคชาติพัฒนากล้าเราตั้งใจที่จะช่วยเหลือชาวบ้านจริง ๆ

นอกจากนี้ ตนยังขอให้พี่น้องชาวใต้ไม่ซื้อสิทธิขายเสียง เรียกศักดิ์ศรีคนใต้ซื้อไม่ได้กลับคืนมา ดังนั้น ในวันที่ 14 พฤษภาคม ก็ขอให้พี่น้องประชาชนกาผู้สมัครของเขตนั้น ๆ และถ้าพื้นที่ไหนในภาคใต้ไม่มีผู้สมัคร ส.ส.เขต ขอให้กา เบอร์ 14 คือเบอร์พรรค จะได้นายกรณ์ ไปบริหารประเทศด้านเศรษฐกิจ ช่วยแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนได้

นายอนุวัตร์ ผู้สมัครเขต1 กล่าวว่า ตอนนี้ ปัญหาเศรษฐกิจสุราษฎร์หนักหนาสาหัส ดอกเบี้ยแพง สินค้าแพง ส่วนหนึ่งเกิดจากสงคราม สถานการณ์โควิด ขาดรายได้บางคนติดแบล็กลิสต์บูโร ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบได้ วันนี้นายกรณ์ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า เป็นอดีต รมว.คลัง ที่เคยแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อสิบกว่าปีก่อน จนเป็นแนวทางให้กับรัฐมนตรีคนอื่นของโลกนำไปแบบอย่างในการแก้ไข วันนี้พรรคชาติพัฒนากล้า มานำเสนอนโยบายเพื่อขอโอกาสให้กับ พี่น้องชาวสุราษฎร์ธานี และประเทศชาติ โดยกำหนดเครื่องมือในการนำเสนอเป็นนโยบายเฉดสี เพื่อหาเงินเข้าประเทศประเทศ 5 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะการรื้อระบบโครงสร้างพลังงาน เพื่อลดราคาค่าน้ำมัน และค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน เพราะเป็นต้นตอของสินค้าราคาแพง และค่าใช้จ่ายในครัวเรือนของประชาชนให้ถูกลง

นางพงศ์ศรี หรือ ‘ทนายอ๋อย’ กล่าวว่า ตนเป็นลูกแม่ค้า เข้าใจหัวอกคนค้าขายเป็นอย่างดี ในช่วงสถานการณ์โควิดพวกเราติดแบล็กลิสต์กันเป็นจำนวนมาก ต้องไปกู้หนี้นอกระบบดอกเบี้ยแพงมหาโหด ซึ่งพรรคชาติพัฒนากล้าเรามีนโยบายยกเลิกแบล็กลิสต์ จะช่วยรื้อระบบสินเชื่อไม่ ให้ประชานได้มีโอกาสลืมตาอ้าปากได้และสามารถกู้เงินในระบบได้ ดอกเบี้ยเงินกู้จะลดลง นอกจากนี้ในฐานะที่ตนไปทำธุรกิจที่เกาะสมุยมา 35 ปี เข้าใจความยากลำบากของพี่น้องประชาชน ตลอดจนผู้ประกอบการบนเกาะสมุย

และโดยส่วนตัวก็มีปม จากการที่สามีต้องถูกตัดขา เพราะขาดโอกาสในการรักษาได้ทันท่วงที เนื่องจากต้องรอเรือข้ามจากเกาะสมุยมาแผ่นดินใหญ่ และไม่ใช่ครอบครัวตนเพียงครอบครัวเดียว แต่ปัญหานี้เดือดร้อนกันทั่วทั้งเกาะสมุย ดังนั้น ตนจึงต่อสู้ให้มีการสร้างสะพานข้ามเกาะสมุย เพราะเกาะไม่ได้เป็นของนายทุน ไม่ได้เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง ทำไมเขาต้องมากำหนดกฎเกณฑ์ในการข้าม ทำไมต้องผูกขาดทั้งสนามบิน และเรือเฟอรี่ เวลาเจ็บไข้ได้ป่วย โรงพยาบาลของรัฐบาลก็ไม่เพียงพอในการักษา โรงพยาบาลเอกชนก็แพงจนชาวบ้านไม่สามารถจ่ายได้

นอกจากนี้ค่าสาธารณูปโภค ทั้งค่าน้ำมัน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหารต่าง ๆ อุปกรณ์ก่อสร้าง ฯลฯ ราคาแพงหมด เนื่องจากบวกราคาค่าขนส่ง หากมีสะพานข้ามก็จะสามารถลดต้นทุนในทุกรายการได้ทั้งหมด และการรักษาชีวิตของคนป่วย เป็นสิ่งสำคัญที่ชาวบ้านทนทุกข์ทรมานมาโดยตลอด ขณะเดียวกันเมื่อถึงเทศกาลท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวต้องมารอเรือข้าม 3-4 ชั่วโมง เขาก็ไม่รอ และไปเที่ยวที่อื่นแทน ทำให้เกาะสมุยขาดโอกาสอย่างที่ไม่ควรจะเป็น

นายกรณ์ ทิ้งท้ายขอให้เลือกทั้งคนและเขตที่ส่ง ส่วนเขตที่ไม่ส่งช่วยกันย้ำให้กาเบอร์พรรค เลือกกรณ์ไปบริหารเศรษฐกิจ เบอร์ 14 พรรคชาติพัฒนากล้า