มองความสุขหลังพ้นกำแพงเรือนจำของ 'หมอวิสุทธิ์'  เมื่อ 'การเจริญสติ' สำคัญกว่าวิชาความรู้เสียอีก

(5 เม.ย.66) ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงพระรูปหนึ่ง ที่อดีตคนไทยรู้จักในชื่อ 'หมอวิสุทธิ์' ความว่า... 

บทความจาก #พระอาจารย์ไพศาลวิสาโล ได้กล่าวว่า พวกเราอาจจะเคยได้ยินชื่อ 'หมอวิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ' ซึ่งเคยถูกพิพากษาประหารชีวิต เพราะโดนข้อหาฆ่าภรรยา

หมอวิสุทธิ์เป็นศาสตราจารย์ ทางการแพทย์ที่จุฬาฯ เก่งมากในเรื่องของการทำเด็กหลอดแก้ว เป็นอันดับต้นๆ ของเอเชีย มีฐานะดี แต่ชีวิตที่รุ่งโรจน์ ต้องพลิกผันตกต่ำ กลายเป็นนักโทษประหาร เพราะการตัดสินใจที่ผิดพลาด มีปัญหาความรักและแก้ปัญหาง่ายๆ ด้วยการ ฆ่าภรรยา

ภายหลังได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษ ตอนนี้จึงออกมาจากคุกได้ เพราะโทษเบาบาง

เมื่อไม่นานมานี้ ท่านได้ให้สัมภาษณ์สื่อไว้อย่างน่าสนใจมาก โดยเผยชีวิตเบื้องหลัง กำแพงเรือนจำกับชีวิตใหม่ หลังก้าวผ่านคำว่านักโทษประหาร สู่การเรียนรู้ชีวิต จากโรงเรียนแห่งใหม่ที่ถูกเรียกว่า 'เรือนจำ'

เมื่อได้ลองทบทวนตัวเองอย่างจริงจัง ก็ทำให้เขาได้รู้ว่า ชีวิตก่อนหน้านี้ ตัวของเขาเป็นคนที่ประมาท ปล่อยให้ความโลภและความโกรธเข้าครอบงำ จนไร้อิสระ ปล่อยให้อิทธิพลของลาภยศ คำสรรเสริญ เข้ามามีอำนาจเหนือตนเอง

แต่ในตอนนี้ หลังจากที่ได้ทบทวนตัวเอง แม้ว่าจะต้องเสียสิ่งต่างๆ ไปมากมาย แต่เขากลับรู้สึกว่า ตอนนี้เขาได้เรียนรู้ตัวเองมากขึ้น ได้มองโลกในอีกมุมมองหนึ่ง มีการเจริญเติบโตของจิตวิญญาณ และมีความสุขจากการให้

เข้าใจคำว่าจิตอาสามากขึ้น...

จากรูปภาพที่เขาได้วาดในเรือนจำว่า ตัวของเขานั้น ก็เปรียบเหมือนธุลีเล็กๆ ในโลกใบใหญ่ ไม่ได้ยิ่งใหญ่หรือสลักสำคัญอะไร หากเราหาความสุขได้ จากการที่ตัวเองเป็นเพียงฝุ่นผง ความสุขนั้นก็จะอยู่กับเราอย่างยั่งยืน

เมื่อก่อนเป็นคนมีอัตตา คิดว่าควบคุมทุกอย่างได้ ทำให้โกรธง่าย แต่ตอนนี้ตัวเองเป็นเพียงฝุ่นเล็กๆ ก็ไม่จำเป็นต้องโกรธใครแล้ว...

เมื่อมองย้อนกลับไป เขาไม่ได้ตำหนิตัวเอง และกลับรู้สึกว่า เข้าใจความคิดอ่าน ของภรรยามากขึ้น ตัวเองไม่ติดใจอะไรแล้ว ไม่โกรธแค้นขุ่นเคือง รู้สึกให้อภัยภรรยา ให้อภัยแก่ตัวเอง และก็อยากให้ภรรยาอภัยให้เช่นกัน

อุทาหรณ์ที่หมอวิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ ได้เรียนรู้จากโรงเรียนชีวิตแห่งนี้ก็คือ มนุษย์เราควรจะต้องระมัดระวัง ในการใช้ชีวิต ไม่ประมาท

ต้องรู้จักฝึกจิตตั้งแต่อายุน้อย ไม่จำเป็นต้องรอให้อายุมากแล้วจึงเข้าวัด ควรฝึกจิตอย่าประมาทให้กิเลส ความโลภ โกรธ หลง ครอบงำจิตใจ เพราะเมื่อไหร่ที่เราถูกครอบงำ เราก็ทำผิดพลาดได้

หากมองย้อนชีวิตที่ผ่านมาแล้ว เสียดายที่ทุ่มเทกับงานการ จนละเลยเรื่องการปฏิบัติธรรม แต่ก่อนในหัวมีแต่งาน ตำรา งานวิชาการ

จึงไม่สนใจเรื่องของการฝึกจิตใจ ไม่ใส่ใจเรื่องการครองสติ แต่ตอนนี้พบว่าการเจริญสติ การฝึกจิตใจ สำคัญกว่าวิชาความรู้เสียอีก ถ้าท่านรู้ความจริงข้อนี้ ตั้งแต่ยังเป็นหนุ่ม ก็คงจะรีบปฏิบัติธรรมเสียตั้งแต่ตอนนั้น ไม่รอให้แก่ก่อน นี่เป็นข้อคิดที่น่าสนใจว่าสุดท้าย คนที่ประสบความสำเร็จวิชาทางโลกแล้ว กลับพบว่าวิชาทางโลกไม่สำคัญเท่ากับการปฏิบัติธรรมและการเจริญสติ

นี่เป็นโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับคนจำนวนมาก ที่มารู้ว่าวิชาชีวิตหรือการปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องสำคัญ ก็ต่อเมื่อพลั้งเผลอพลั้งพลาดไปแล้ว

หมอวิสุทธิ์ยังโชคดี ที่มีโอกาสแก้ตัว รอดชีวิตกลับมาปฏิบัติธรรม บางคนอาจจะไม่มีโอกาสแก้ตัวเพราะถูกประหารชีวิตไป หรือบางคนอาจจะทำบาปกรรม ยิ่งกว่านั้น

ส่วนเราโชคดี ที่มีโอกาสให้เวลาใส่ใจกับเรื่องนี้

พวกเราส่วนใหญ่ยังไม่แก่ ยังหนุ่มยังสาว มีกำลังวังชาที่จะทำ ที่จะศึกษา

เรื่องนี้ ก็ขอให้ทุ่มเทกับวิชาชีวิตแต่ก็อย่าไปละเลยวิชาทางโลก เพราะยังมีประโยชน์ในการช่วยเสริมงานของเราหรือการปฏิบัติธรรมของเราได้ด้วย

พระถิระปุญโญ (หมอวิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ)

บวชเมื่อ 27 ธันวาคม 2558 ที่วัดปทุมวนาราม (นายชัชวาล บุญเกษมสันติ ลูกชายของพระหมอ สอบเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษาได้ในปีเดียวกัน)


ที่มา: ธรรมะ30 วิ / เรียบเรียง admin pook
https://www.facebook.com/100064749694453/posts/pfbid0hRkLrGYechF3pzMJvjCT6zmJq7qHHSm5gsTembPpDtdzZ8cKrUk7PupFzy7NmETl/?mibextid=Nif5oz