(4 เม.ย.66) ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ภายในศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง (กทม.2) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งภายหลังการสมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ และจับสลากได้หมายเลข 26 ว่า ตนเชื่อว่าเมื่อถึงเวลาประชาชนจะสามารถจดจำหมายเลขได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่สนใจจะเลือกเรา เขาจะจดจำหมายเลขของพรรคเราได้ ไม่ยากอะไร ส่วนกลยุทธ์การหาเสียงหลังจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์ขณะนี้จัดไปแล้ว 4 ทัพ คือ ทัพหัวหน้าพรรค ทัพของเลขาธิการพรรค ทัพของอดีตหัวหน้าพรรค และทับของผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ ซึ่งจะตระเวนไปหาเสียงทั่วประเทศ ส่วนที่เหลือจะเป็นผู้สมัคร ส.ส. ของแต่ละเขต ซึ่งทุกคนพร้อมทำหน้าที่อยู่แล้ว

เมื่อถามถึงการขึ้นเวทีดีเบตหลังจากนี้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่ายินดีให้ความร่วมมือกับทุกเวที ยกเว้นถ้าติดภารกิจจริง ๆ ไม่สามารถแก้ได้ เช่น การไปปราศรัยในจังหวัดต่าง ๆ แล้วเดินทางกลับมาไม่ทัน ก็ไม่สามารถไปร่วมขึ้นเวทีได้ แต่จะมอบหมายผู้ที่มีศักยภาพของพรรคไปร่วมเวทีดีเบตนั้น ๆ แทน

ต่อข้อถามว่าจะเชิญชวนให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้มาร่วมขึ้นเวทีดีเบตด้วยกันหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขอให้สื่อมวลชนเป็นผู้เชิญเอง เพราะตนไม่มีหน้าที่เชิญบุคคลทั้งสอง แต่ถ้าพวกเขามาขึ้นเวทีดีเบตด้วย ก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะในวิถีประชาธิปไตย การแสดงความคิดเห็น ก็จะสะท้อนได้แม้จะไม่ได้ทั้งหมด แต่เป็นเรื่องที่ตนคิดว่ามีความจำเป็น สำหรับตนไม่ได้บอกว่าจะดีกว่าคนอื่น แต่อย่างน้อยมีความพร้อมที่จะเป็นผู้นำในวิถีประชาธิปไตย เพราะตนมั่นใจว่าหลังจากนี้จะต้องเดินหน้าด้วยประชาธิปไตย มิฉะนั้นจะไปต่อไม่ได้เพราะแรงเสียดทานมาก ดังนั้น เราควรยึดวิธีประชาธิปไตยตามหลักสากล ซึ่งตนมีความพร้อมทั้งประสบการณ์ด้านบริหารรัฐกิจและฝ่ายนิติบัญญัติ ผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีในวิถีประชาธิปไตยได้ ถ้าประชาชนให้โอกาส