หลังจบความคึกคักกับการลงสมัคร ส.ส.เขตในช่วงเช้าจากทุกพรรค ก็อยากขอสรุปสถานการณ์หลักๆ ในรอบวัน รวมถึงสิ่งที่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ให้ดูเป็นข้อๆ... 

1. เป็นไปด้วยความคึกคักสำหรับการสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในวันแรก 3 เม.ย. ซึ่งเป็น ส.ส.เขตทั่วประเทศ ส่วนวันที่ 4 เม.ย.จะเป็นวันแรกที่รับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือ ปาร์ตี้ลิสต์ และจะคึกคักและลุ้นกันระทึกยิ่งกว่า เพราะเบอร์พรรคจะเหมือนกันทั้งประเทศ ส่วนเบอร์เขตนั้นเขตใครเขตมัน จับสลากได้เบอร์ไหนก็เบอร์นั้น

2) ระบบเลือกตั้งบัตรสองใบตามกฎหมาย กกต.ได้ออกแบบแล้ว บัตรเลือกตั้งส.ส.เขตสีเขียว มีช่องกาเครื่องหมาย มีเบอร์ผู้สมัคร แต่ไม่มีชื่อและสัญลักษณ์ (โลโก้) พรรค ที่เรียกกันตอนนี้ว่าเป็น ‘บัตรโหล’ ส่วนบัตรเลือกปาร์ตี้ลิสต์นั้นสีฟ้า มีช่องกาเครื่องหมาย, โลโก้พรรคและเบอร์พรรค

3) อธิบายเพิ่มเติมว่า เลือกตั้ง 2566 กำหนดให้เลือกตั้งแบบบัตรสองใบแบบแยกบัตรแยกเบอร์ ต่างจากปี 2554และ 2550 ที่กฎหมายกำหนดให้ทั้งคน (ผู้สมัคร ส.ส.เขต) และพรรคใช้เบอร์เดียวกัน...แบบว่าพรรคจับได้เบอร์ไหน ผู้สมัครก็ใช้เบอร์นั้นเหมือนกันทั้งประเทศ...ซึ่งแบบนี้พรรคใหญ่หรือพรรคที่กระแสดีชอบเป็นยิ่งนัก...  เพราะทำแคมเปญง่าย...

4) แน่นอนว่า...สูตรเลือกตั้งบัตรสองใบแต่คนละเบอร์ ทำให้พรรคใหญ่ที่กระแสดีเป็นกังวล...ดังที่คุณแพทองธาร ชินวัตร หรือ ‘อุ๊งอิ๊ง’ ให้สัมภาษณ์...กล่าวโดยสรุปความกังวลก็คือ กลัวคนจำเบอร์ผู้สมัครไม่ได้ กาผิดช่อง คะแนนหล่นหาย...

5) ผู้สันทัดกรณีและนักวิชาการหลายคนสรุปตรงกันว่า...พรรคที่มีกระแสดีอย่างเพื่อไทย, ก้าวไกล, รวมไทยสร้างชาติ ก็คงจะได้รับผลกระทบจากบัตรสองใบ คนละเบอร์...ในขณะที่พรรคการเมืองที่เน้นใช้ ‘กระสุน’ และระบบบ้านใหญ่ ซึ่งมีการบริหารหัวคะแนนค่อนข้างดี จะได้เปรียบ...สามารถบริหารการลงคะแนนให้เข้าเป้าไม่หลงช่อง

6) ขอเสริมข่าวน่าสนใจ...สายข่าวรายงานว่า..วันนี้นอกเหนือจากพรรคใหญ่โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยจะสั่งการตอกย้ำเรื่องการลงคะแนนให้ตรงเป้าตรงเบอร์แล้ว พรรคเพื่อไทยยังลดความสุ่มเสี่ยงหลายอย่างเช่น หยุดรายการแคร์ ทอล์ค ของกลุ่มแคร์คิดเคลื่อนไทยที่คุณพี่โทนี่ วู้ดซัม...จะกลับมาอีกครั้งวันที่ 16 พ.ค. ขณะเดียวกันก็ให้รายการบางรายการของทีวีที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยแต่ชอบไลฟ์สดการชุมนุมของกลุ่มสามนิ้วพักรบ

7) โพลของหน่วยงานความมั่นคงสีเขียวแห่งหนึ่งยังคงให้จำนวน ส.ส.ของฝ่ายขั้วอำนาจเดิมหรือพรรคร่วมรัฐบาลยังนำโด่งอยู่ที่ระดับ...280 เสียงต่อ 220 เสียง แต่โพลในวงวิชาการและนักสังเกตการณ์ยังคงให้คะแนนสูสีกันที่ 250 ต่อ 250...หรือจะพลิกชนะกันแค่ระดับ 5 เสียงเท่านั้น...และว่ากันว่าความผันแปรหรือพลิกผันส่วนหนึ่งจะเกิดจาก..บัตรสองใบ แต่ละคนละเบอร์

8) น่าเชื่อว่าจากเดิมที่พรรคกระแสดี ไม่เน้นกระสุนมากนัก...จากนี้ไปก็ต้องหันมาใช้กระสุนมากขึ้น เพื่อให้ทุกคะแนนในกระแสเข้าเป้า...และด้วยเหตุนี้จะให้การเลือกหนนี้จะยิ่งเพิ่มความเป็นสีเทา การฟ้องร้อง-ร้องเรียนจะเกิดขึ้นมากมาย.แน่นอน

---

เรื่อง: เล็ก เลียบด่วน