(20 มี.ค. 66) นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า จากยุบสภาสู่การยุบพรรคและกลียุค!!!
1. การนับเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ต้องนับวาระของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ว่า จะสิ้นสุดลงในเวลา 24.00 น. วันที่ 22 มี.ค. 66 ซึ่งเป็นที่ยุติชัดเจนแล้วว่าไม่มีการนำเสนอคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาตราพระราชกฤษฎีกายุบสภา เพราะมีคนถือว่า ‘เป็นเรื่องพิเศษ’ กล่าวง่าย ๆ คือเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี
แต่รัฐธรรมนูญบัญญัติในเรื่องนี้ไว้เฉพาะแล้วว่า “พระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจอธิปไตยผ่านคณะรัฐมนตรี” และ “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการยุบสภา” คือลงว่าเป็นพระราชกฤษฎีกาแล้วก็ต้องปฏิบัติตามนี้ ไม่มีกรณีพิเศษนอกเหนือจากนี้
2. จับตาว่าจะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษายุบสภาในวันนี้ตามที่เป็นข่าวลือกันหรือไม่ ถ้าจริง ก็จะลบล้างกำหนดการเลือกตั้งที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศ ก่อนหน้านี้ และทำให้เวลาการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งขยายเอาไป ซึ่งคงจะขยายไปถึงต้นเดือนเมษายน 66 ก็จะขยายเวลาตกปลาในอ่างได้อีกระยะหนึ่ง
จากนั้นก็ต้องติดตามข่าวกระบวนการเดินหน้าในเรื่องยุบพรรค โดยเฉพาะการยุบพรรคเพื่อไทย (พท.) ก้าวไกล (ก.ก.) และพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และขณะนี้ ก็มีเรื่องการยุบพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และรวมไทยรักษาชาติ (รทสช.) ตามเข้ามาเป็นพรวนด้วย
3. การกล่าวหาเรื่องใช้อำนาจอ้างการตรวจราชการเพื่อหาเสียงเลือกตั้ง รวม 19 ครั้ง ที่พรรคเสรีรวมไทยโดยอาจารย์สมชัยและคุณวีระเป็นผู้กล่าวหานั้น ได้ยินว่ามีข้อพิสูจน์ง่ายมาก
~การกระทำทั้ง 19 ครั้งมีหลักฐานชัดเจนทั้งภาพถ่ายและคลิป รวมทั้งตัวบุคคล
~สามารถเปรียบเทียบการตรวจราชการในช่วง 3 ปีก่อนนี้ว่ามีลักษณะรูปแบบอย่างไรแตกต่างกับ ที่อ้างไปตรวจราชการในช่วงก่อนเลือกตั้งนี้อย่างไร ที่ชัดเจนคือการระดมบุคคลหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งจังหวัดมาต้อนรับ การจัดรายการพบปะราษฎรและการกล่าวปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง รวมทั้งการนำผู้ที่จะสมัครรับเลือกตั้งขึ้นโชว์ตัวกันเป็นตับ
อย่าทำเป็นเล่นไป เพราะถ้าวันใดกระบวนการยุติธรรมแสดงความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา ก็คงน่าดูชม ไม่ใครก็ใครอาจต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ