เส้นทางของ "รัฐบาลประยุทธ์"

ในที่สุด รัฐนาวาภายใต้การนำของ "ลุงตู่" พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็สามารถฝาคลื่มลมทางการเมืองมาเกือบ 4 ปี จนถึงปลายทางที่จบลงด้วยการยุบสภา รอเลือกตั้งอีกครั้งในอีกไม่ถึง 2 เดือนข้างหน้า

เส้นทางของ "รัฐบาลประยุทธ์" ที่ผ่านมาถือว่าไม่ง่าย เพราะต้องผ่านทั้งวิกฤติ โควิด - 19 รวมทั้งบรรยากาศความขัดแย้งทางการเมืองทั้งใน และนอกสภา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์สื่อ ที่นำมาสู่การเติบโตของขบวนการข่าวปลอม หรือ "เฟกนิวส์"

ท่ามกลางอุปสรรคขวากหนามที่ว่า มี "หนึ่งคน" ที่มีบทบาทชัดเจน ในการออกหน้า ปะ ฉะ ดะ ปกป้องตอบโต้ ชี้แจง กรณีที่มีการพาดพิง หรือเกิดข่าวปลอม เกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีอยู่เสมอ จนได้รับขนานนามเป็น "องครักษ์พิทักษ์ลุงตู่" เดาไม่ยากว่า ใครคนนั้นคือ "ธนกร วังบุญคงชนะ" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั่นเอง

วิถีชีวิตของ รมต. คนนี้ไม่ธรรมดา หากย้อนเวลากลับไป เขามีฝันอยากเป็นนักการเมืองมาตั้งแต่เยาว์วัย นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นและแรงขับดันให้ "แด๊ก - ธนกร วังบุญคงชนะ" เด็กหนุ่มจาก อำเภอจุฬาภรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ก้าวเดินตามฝัน แม้เป็นลูกชาวบ้านธรรมดา แต่เขาได้รับการปลูกฝังความเป็นผู้นำ และหัวจิตหัวใจในการช่วยเหลือผู้อื่นจาก พ่อและแม่มาตั้งแต่ยังเล็ก

"ธนกร" เริ่มเลียบเคียงแวดวงการเมือง ค่อยๆ ขยับเข้าใกล้จนถึงเป้าหมายที่เขาตั้งไว้ เริ่มจากการเลือกศึกษาด้านสื่อสารมวลชน จบออกมาเริ่มทำงานเป็นผู้สื่อข่าวสายทำเนียบฯ ประจำหนังสือพิมพ์สยามรัฐในช่วงสั้นๆ ก่อนขยับไปเป็นเลขานุการกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติหรือ ปปช. เกือบ 2 ปี จนได้รับโอกาสเข้าสู่เส้นทางการเมืองเต็มตัวจากการชักนำของ "สมศักดิ์ - อนงค์วรรณ เทพสุทิน" ซึ่งธนกร ยกให้เป็นครูทางการเมืองของเขา

หลังจากนั้นเขาได้ลงสมัครรับเลือกตั้งหนแรกกับพรรคมัชฌิมาธิปไตย ก่อนขยับมาเป็นที่ปรึกษา และเลขานุการรัฐมนตรีหลายกระทรวง จนกระทั่งมีโอกาสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพรรคพลังประชารัฐในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล "ธนกร" ผ่านการรับบทบาทเป็นโฆษกพรรค เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นเลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นโฆษกรัฐบาล ต่อมาได้รับตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และได้ก้าวขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในที่สุด

ด้วยตำแหน่งหน้าที่ ทั้งโฆษกรัฐบาล และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ทำให้ธนกรเป็นหนึ่งในผู้ที่ทำงานใกล้ชิด และมีบทบาทในการดูแล ติดตามสานต่อนโยบายของพลเอกประยุทธ์ แต่ที่ผ่านมา เขาถูกมองว่าทำเกินหน้าที่ หรือ ทำตัวเป็น "องครักษ์พิทักษ์ลุงตู่" จากการออกมาเปิดหน้าชน เป็นปากเป็นเสียง ตอบโต้กรณีที่มีประเด็นให้ร้าย โจมตีหรือพาดพิงนายกรัฐมนตรีอยู่เสมอ

แต่ธนกร มองว่าการออกมาปกป้องพลเอกประยุทธ์ ไม่ใช่หน้าที่ แต่เป็นความเต็มใจ ด้วยความเคารพ และเชื่อมั่นในตัวพลเอกประยุทธ์ จึงต้องออกมาปกป้อง ดูแลเท่าที่จะสามารถทำได้

"สำหรับพลเอกประยุทธ์ เราต้องยอมรับว่าท่านเป็นผู้นำที่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีความรักชาติรักประชาชน เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งตรงใจผมมาก แล้วพอเรามาทำงาน ท่านเป็นคนที่มีเมตตา รับฟังทุกคน ไม่ใช่เป็นนายกรัฐมนตรีมาหลายปีแล้วคิดแต่เรื่องอำนาจ ไม่ใช่เลย"

หลังมีประกาศยุบสภา นักการเมืองทุกฝั่งฝ่าย ต่างมุ่งหน้าสู่การเลือกตั้ง "ธนกร" ตัดสินใจ เลือกเส้นทางการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นหนึ่งในคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์การเมืองของพรรค

หลังวันเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม ที่จะถึง จึงจะค่อยๆ เห็นทิศทาง และอนาคตทางการเมืองของเขา ว่าจะไปต่อในทิศทางไหน แต่ถ้าย้อนดูบทสัมภาษณ์ ในช่วงที่ผ่านมา ก็พอเห็นว่า ธนกร มองการเดินทางบนถนนสายการเมืองของเขาในช่วงที่ผ่านมา และอนาคตของเขาอย่างไร

"ผมคิดว่าผมมาไกลกว่าที่คิดแล้ว และผมมองว่าวันนี้จะสร้างสมดุลในการใช้ชีวิตอย่างไร ทำงาน ดูแลครอบครัวให้ดี แบ่งปันและช่วยเหลือประชาชนที่เรารัก ทำอะไรให้สังคมได้ เราทำ ผมไม่กังวลอะไรเลย ผมคิดว่าถ้าเราทำความดี ความดีก็จะปกป้องดูแลเรา เท่านั้นเอง "

ทั้งหมดนี้คงให้นิยาม ความหมายของความเป็นนักการเมืองที่ได้รับฉายา องครักษ์พิทักษ์ลุงตู่ ที่ชื่อ "ธนกร วังบุญคงชนะ" ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น