ปอศ. ทลายเครือข่ายเงินกู้ออนไลน์ดอกเบี้ยโหด พบเงินหมุนเวียนนับพันล้านบาท

(28 มี.ค.66) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. สั่งการ พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ. พ.ต.ต.วรวุฒิ คงรักษา, พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ มอญรัต, พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ จันทพันธ์ ,พ.ต.ต.ฉัตรดนัย ทองคลอด สว.กก.5 บก.ปอศ. นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.5 บก.ปอศ. กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายหลายจุด ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร, พิจิตร, สมุทรปราการ,จันทบุรี เพื่อกวาดล้างจับกุมขบวนการเงินกู้ออนไลน์เถื่อน 2 เครือข่าย ประกอบด้วย 'Burin-credit (บุรินทร์ เครดิต)' และ Memoney-Credit สินเชื่อเพื่อธุรกิจ 

จากปฏิบัติการดังกล่าวเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายทศพล อายุ 29 ปี นายศักดิ์รินทร์ อายุ 29 ปี นายยุทธนา อายุ 27 ปี และ นายเกียรติศักดิ์ อายุ 21 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 893-896/2566 ลงวันที่ 24 มี.ค. 2566 ข้อหา 'ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต, เรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกําหนด และร่วมกันข่มขู่หรือใช้ความรุนแรงในการทวงหนี้' พร้อมกับจับกุมกลุ่มพนักงานรับจ้างทวงหนี้ของเครือข่ายดังกล่าวในความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต”อีก 7 ราย รวมถึงตรวจยึดของกลาง อาทิ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 13 เครื่อง โทรศัพท์ 38 เครื่อง ซิมการ์ดประมาณ 50 อัน เช็คค้ำประกันของลูกหนี้ 22 ใบ มูลค่ารวม 7,990,000 บาท รถยนต์หรูยี่ห้อ Mercedes Benz, BMW, TOYOTA, Hyundai ของลูกหนี้ 4 คัน

พ.ต.อ.เมฆพิศาล กล่าวว่า สำหรับปฏิบัติการดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อต้นปี 2565 ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.) ได้รับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับกลุ่มเครือข่ายเงินกู้ออนไลน์นอกระบบ 'Burin-credit' มีพฤติการณ์เรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่สูง ซึ่งผู้กู้จะต้องจ่ายดอกเบี้ยรายวันในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อวัน หรือ ร้อยละ 547.5 ต่อปี จนกว่าจะมีเงินต้นมาชดใช้คืน หลังรับเรื่องจึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบสวนจนทราบว่ามีการกระทำดังกล่าวจริง

พ.ต.อ.เมฆพิศาล กล่าวต่อว่า โดยพฤติการณ์ของเครือข่ายดังกล่าวจะมีการเปิด เว็บไซต์ขึ้นมาใช้ชื่อว่า www.burin-credit.com ก่อนชักชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปกู้เงิน โดยกลุ่มเป้าหมายจะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และ ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนถูกกฎหมายได้ ซึ่งขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อของเว็บไซต์ดังกล่าวไม่จําเป็นต้องใช้หลักฐานยืนยันตัวตน และไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน ในกรณีที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจฯ กลุ่มคนร้ายจะไปสํารวจกิจการเพื่อประกอบการพิจารณา เมื่อสินเชื่ออนุมัติแล้ว กลุ่มคนร้ายจะโอนเงินไปให้ผู้กู้ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้งของธนาคารไปยังบัญชีธนาคารของผู้กู้ โดยกลุ่มคนร้ายจะหักยอดเงินกู้เป็นดอกเบี้ยงวดแรกไว้ก่อน หากลูกหนี้ผิดนัดชําระหนี้ ก็จะใช้วิธีการโทรศัพท์ข่มขู่ และ ไประรานผู้กู้ถึงที่บ้าน, ที่ทํางาน หรือ สถานประกอบการ ซึ่งถือเป็นการกระทําที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย 

อีกทั้งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ากลุ่มคนดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนในบัญชีช่วงระยะเวลา 1 ปี กว่า 1,000 ล้านบาท จึงเร่งแกะรอยและรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคลซึ่งเป็นตัวการหลักของขบวนการดังกล่าวได้จำนวน 4 คน คือ นายทศพล นายศักดิ์รินทร์ นายยุทธนา และ นายเกียรติศักดิ์ ก่อนที่ต่อมา นายศักดิ์รินทร์ จะแยกตัวไปเปิดเพจเฟสบุ๊คชื่อว่า Memoney-credit เพื่อปล่อยเงินกู้ออนไลน์ในลักษณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ จนนำมาสู่ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดได้ดังกล่าว 

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าปล่อยเงินกู้เรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดจริง แต่ยืนยันว่าไม่เคยข่มขู่ลูกหนี้แต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป