‘สมศักดิ์-สุริยะ’ เข้ากราบลา ‘บิ๊กป้อม’ แล้ว หลังตัดสินใจย้ายพรรค ยันไม่มีความขัดแย้ง

ลาแล้ว! ‘สมศักดิ์-สุริยะ’ เข้ากราบลา ‘บิ๊กป้อม-อ.วิษณุ’ หลังตัดสินใจการเมือง ก่อนแถลงใหญ่ 17 มี.ค.นี้ เผยยังเคารพทั้ง 2 ท่าน แต่แนวทางทำการเมืองมีเหตุผลหลายประการ ยันไม่มีความขัดแย้ง ด้าน ‘สันติ-วิรัช-ธรรมนัส’ ร่วมวงอาหารเที่ยงชื่นมื่น

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เดินทางเข้ามูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ เพื่อกราบลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.หลังจากตัดสินใจย้ายไปทำงานร่วมสังกัดพรรคเพื่อไทย (พท.) และเตรียมจะยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค และรัฐมนตรีแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศพูดคุยเป็นไปด้วยดี พูดคุยด้วยความเข้าใจ ไม่มีปัญหาติดใจ โดยในวงสนทนาที่ร่วมรับประทานอาหารนี้ มี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค , นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ร่วมวงพูดคุยและร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันด้วย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น

ขณะที่ นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า วันนี้ ตนและนายสุริยะ ได้เดินทางเข้าพบ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อกราบลา หลังตัดสินใจทางการเมือง เนื่องจากนายวิษณุ ได้กำกับดูแลงานของกระทรวงยุติธรรม และกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งที่ผ่านมา ท่านได้ให้การสนับสนุนด้วยดีมาโดยตลอด จนกระทรวงยุติธรรม สามารถขับเคลื่อนช่วยเหลือประชาชน ได้ในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนแก้กฎหมาย เพื่อยกระดับกระบวนการยุติธรรม ให้ประชาชนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม รวมถึงท่านก็ได้เป็นประธาน ป.ป.ส.ที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนแก้ปัญหายาเสพติด จนสามารถยึดอายัดทรัพย์เครือข่ายผู้ค้ายา ได้รวมกว่า 4 หมื่นล้านบาท

“ท่านวิษณุ ก็ได้อวยพรให้กับผม และท่านสุริยะ พร้อมบอกว่า การตัดสินใจเป็นสิทธิส่วนตัว โดยเคารพซึ่งกันและกัน แต่ท่านเอง ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด จึงไม่ต้องขยับตัว รวมถึงท่านยังได้ขอบคุณที่ได้ร่วมกันทำงานด้วยดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประชาชน” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากนั้นเวลา 12.00 น.ตนและนายสุริยะ ยังได้มีโอกาสเดินทางเข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เพื่อกราบลา เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพและช่วยสนับสนุนการดำเนินงานด้วยดีมาโดยตลอด 4 ปี จึงเดินทางไปลาท่านด้วยตัวเอง เพราะเรามีแนวทางทำการเมือง ด้วยเหตุผลหลายประการ พร้อมนำเรียนท่านว่า พรรคพลังประชารัฐยังมีบุคลากรที่เข้มแข็งมากพอสมควร ซึ่งท่านก็ได้ขอบคุณที่ได้ช่วยกันทำงาน พร้อมอวยพรซึ่งกันและกัน เพราะยังมีความเคารพท่านอยู่เสมอ โดยไม่มีความขัดแย้งใดๆ ทั้งสิ้น