‘โรม’ ป้อง ‘พ.ต.ท.มานะพงษ์’ มือปราบแก๊งค้ายาทุน มิน ลัต วอน ขรก.น้ำดี ร่วมช่วยกันเอาสิ่งปฏิกูลออกจากระบบราชการ

(16 มี.ค. 66) นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ได้ให้ความเห็นแก่ผู้สื่อข่าว กรณีเอกสาร แถลงการณ์จากสมาคมตำรวจ สมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และสมาคมพนักงานสอบสวน ปรากฏลายเซ็นประธานสมาคมทั้ง 3 สมาคม ลงนาม พล.ต.อ.วินัย ทองสอง นายกสมาคมตำรวจ, พล.ต.อ. ศักดา เตชะเกรียงไกร นายกสมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และนายไพโรจน์ กุจิรพันธ์ นายกสมาคมพนักงานสอบสวน ออกจดหมายแถลงให้กำลังใจข้าราชการตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติชอบ และยืนหยัดตามหลักการของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

นายรังสิมันต์กล่าวว่า เอกสารฉบับนี้มีความสำคัญมาก เพราะเป็นเอกสารที่ยืนยันว่า พ.ต.ท. มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ ในฐานะสารวัตรที่ทำคดีทุน มิน ลัต และ ส.ว.อุปกิต เป็นการกระทำที่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นการกระทำที่พิสูจน์ว่าตำรวจรายนี้ เป็นตำรวจน้ำดี ตั้งใจทำคดี 

ทั้งนี้ ในเอกสารดังกล่าวปรากฏ 6 ประเด็น ประเด็นแรกยืนยันว่า การร้องขอให้ศาลออกหมายจับเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ประเด็นที่สอง ปัญหาการออกหมายลอยที่มีข้อกล่าวอ้างกันอยู่ ไม่มีทางเกิดขึ้น ประเด็นที่สาม คือการออกหมายจับ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเสนอให้ผู้บังคับบัญชา ระดับผู้กำกับ ก่อนการพิจารณาขอหมายจับแต่อย่างใด ประเด็นที่สี่ ลำดับกระบวนการซึ่งยืนยันว่ามีการขอหมายจับก่อนและแจ้งต่อเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นสิ่งที่ทำได้ ส่วนประเด็นที่ห้าในเรื่องของคำสั่ง ปร. 419/2556 เป็นงานคำสั่งภายในที่ใช้ภายใน สตง. ใช้กับพนักงานสอบสวนเท่านั้นไม่ได้ใช้กับหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และประเด็นสุดท้าย ในอดีตมีการเพิกถอนหมายจับอดีตอธิบดี DSI แต่ศาลยกคำร้องโดยให้เหตุผลว่าเป็นอำนาจเฉพาะของผู้พิพากษา เมื่อสั่งคำร้องโดยชอบแล้วมิเพิกถอนได้ และสอดคล้องกับกรณีศาลพิจารณาออกหมายจับ ส.ว.คนดังกล่าวแล้ว การสั่งเลิกถอนในภายหลังจะต้องมีเหตุตามกฏหมายบังคับ หรือระเบียบเป็นหลักในการพิจารณาหาได้อ้างเพียงเหตุหลงผิดไม่

นายรังสิมันต์กล่าวขอบคุณทั้ง 3 องค์กร ที่ออกจดหมายยืนยันว่าการทำงานของ พ.ต.ท.มานะพงษ์ เป็นการกระทำที่ถูกต้องและนำไปสู่การขจัดคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด พร้อมตั้งคำถามว่า หลังจากมีจดหมายจาก 3 องค์กรออกมาเช่นนี้แล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ปส.3 ศาล ฯลฯ ทำอะไรกันอยู่ พร้อมย้ำว่า ความยุติธรรมที่ล้าช้า คือความอยุติธรรม พร้อมทั้งกังวลว่า สุดท้ายแล้วจะเกิดการล้มคดีวิ่งเต้นให้เรื่องเงียบไป พร้อมจี้ไปยังนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจสั่งการตำรวจ และเป็นผู้บังคับบัญชาจะไม่ตอบคำถามสังคมเลยหรือ

“ผมเชื่อว่าตำรวจน้ำดีในประเทศของเรามีอีกหลายคน ผมเห็นถึงความพยายามของคนที่ต่อสู้กับระบบที่ไม่ชอบธรรมแบบนี้ แล้วผมคิดว่าการที่ พ.ต.ท.มานะพงษ์ออกมาแบบนี้ คือแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ และผมก็หวังว่าจะไม่ได้มีแค่ตำรวจที่ออกมาเป็นกบฏกับระบบที่ฟอนเฟะ ผมหวังว่าศาล อัยการ คนที่เป็นข้าราชการน้ำดีทั้งหมด อยากให้ทุกคนออกมาช่วยกันทำให้ประเทศของเราดีขึ้น เอาสิ่งปฏิกูลที่อยู่ในระบบราชการออกไป วันนี้ถึงเวลาที่พวกเรา ทุกคนจะช่วยกันปัดกวาดกระบวนการยุติธรรมให้มันสะอาดกว่าที่เป็นอยู่” นายรังสิมันต์กล่าวทิ้งท้าย