ฉลาดจนน่าขนลุก!! ChatGPT เปิดตัวเวอร์ชันที่ 4 อาจฉลาดกว่าเดิมถึง 1,000x เท่า Morgan Stanley ประเดิมเข้าถึงบริการใหม่ก่อนใคร

(15 มี.ค.66) World Maker เผยว่า ในขณะที่โลกการเงินในสหรัฐฯ กำลังกังวลกับวิกฤต Bank Run แต่ในอีกด้าน สหรัฐฯ กำลังพัฒนาไปสู่ยุคใหม่อย่างรวดเร็ว โดยล่าสุด OpenAI บริษัทที่ Microsoft ได้เพิ่มทุน 10x เท่าจาก 1 พันล้านดอลลาร์เป็น 1 หมื่นล้านดอลลาร์ พร้อมกับประกาศเปิดตัว ChatGPT เวอร์ชัน 4 ซึ่งอาจมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมถึง 1,000x เท่า 

จุดเด่นของ ChatGPT-4 ที่หลายสื่อนำเสนอมีดังนี้...

1. จะมีความปลอดภัยต่างๆ มากขึ้น
2. มีประโยชน์ในแง่ของคำตอบมากกว่าเดิม
3. มีพฤติกรรมในการตอบสนองที่ดีขึ้น
4. จะมีการใช้ความเห็นจากมนุษย์และผู้ใช้งานเพื่อนำมาพัฒนา AI
5. มีความแม่นยำ ตรงประเด็น สร้างสรรค์ และประมวลได้ดีขึ้น
6. สามารถสร้างคำตอบจากคำใหม่ๆ หรือรูปภาพได้ด้วย
7. มีโอกาสน้อยลง -82% ที่จะตอบสนองต่อคำถามที่ไม่ได้รับอนุญาต
8. มีโอกาสมากขึ้น +40% ที่คำตอบจะตรงตามข้อเท็จริง
9. มีฐานข้อมูลด้านรายงานและรายได้ของบริษัทต่างๆ รวมถึงภาษี

โดยทาง Big Bank ใน Wall Street อย่าง Morgan Stanley กำลังเป็นลูกค้ารายแรกๆ ที่สมัครเข้าใช้บริการของ ChatGPT-4 นี้ และยังประกาศอีกว่าตัวเองเป็น 'ลูกค้าเชิงกลยุทธ์' เพียงรายเดียวในอุตสาหกรรมบริหารความมั่งคั่ง ที่ได้รับการเข้าถึง Product ใหม่ของ OpenAI ก่อนใคร

ซึ่งก็ไม่แน่ว่า Big Bank อื่นๆ กำลังตามมาหลังจากนี้ด้วย นั่นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอุตสาหกรรมการธนาคารกำลังให้ความสนใจกับ AI เป็นอย่างมาก และคงทำให้ท่านเห็นภาพแล้วว่า AI จะเข้ามามีบาทมากขึ้นอย่างแน่นอนในหลายอุตสาหกรรมโลก โดยเฉพาะภาคการเงิน การผลิต ภาษา การเรียนการสอน ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับ AI อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Morgan Stanley กล่าวว่า ChatGPT-4 ถูกออกแบบมาให้มีการควบคุมที่เหมาะสมสำหรับเนื้อหาละเอียดอ่อนที่ต้องการความปลอดภัยสูง และบริษัทจะเริ่ม Train AI โดยยิงคำถามและใส่เนื้อ-ข้อมูลจำนวนมากลงไป พร้อมเผยอีกว่าการสร้างความสัมพันธ์กับ AI บนพื้นฐานความไว้วางใจและการที่มนุษย์ให้คำแนะนำ AI จะมีคุณค่าเสมอ

นอกจากกลุ่มธนาคารแล้ว Nvidia ซึ่งเป็น Supplier รายใหญ่ที่ผลิต Graphic ประมวลผลตัวสำคัญซึ่งใช้ในระบบ Cloud และการฝึก AI ได้กล่าวเมื่อต้นเดือนว่าในที่สุด AI จะช่วยประหยัดเงินให้กับบริษัทต่างๆ ได้มากขึ้น ซึ่งหากคิดดูดีๆ แล้ว มันสอดคล้องกันอย่างมากกับการที่บริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกเริ่มปลดคนงานออกเป็นจำนวนมาก เพราะหาก AI เข้ามาเราก็สามารถลดจำนวนแรงงานได้ และยังประหยัดต้นทุนไปได้อีกมากด้วย

Greg Brockman ประธานและผู้ร่วมก่อตั้งของ OpenAI กล่าวว่า “เรากำลังเริ่มใช้ระบบที่มีความสามารถจริงๆ ซึ่งสามารถให้แนวคิดใหม่ๆ และช่วยให้คุณเข้าใจสิ่งต่างๆ ที่คุณไม่สามารถทำในอย่างอื่นได้”

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้พัฒนายอมรับว่า ChatGPT-4 ก็ยังมีข้อบกพร่องบางประการอยู่ เช่น อคติทางสังคม หรือการให้คำตอบที่ผิดเพี้ยนในบางอย่าง ซึ่งจะแก้ไขในเวอร์ชั่นต่อๆ ไป

นอกจากนี้ ในวันอังคาร Kenneth Leon นักวิเคราะห์ของ CFRA ได้อัปเกรดมุมองต่อทั้ง Morgan Stanley และ Goldman Sachs Group เพื่ออยู่ในหุ้นที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจาก "ความเสี่ยงต่อผลขาดทุนค้างพอร์ตที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงนั้นไม่มีสาระสำคัญอะไรเลย" ต่อทั้ง 2 บริษัทนี้ แสดงให้เห็นว่าในขณะที่สื่อกลุ่มเผด็จการเฝ้าโจมตีระบบธนาคารของสหรัฐฯ อยู่นั้น แต่ในความเป็นจริงกลับกลายเป็นอีกเรื่อง

แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ?

แน่นอนว่าการพัฒนาด้าน AI จะเป็นอะไรที่แข่งขันกันอย่างดุเดือดมากๆ โดยเฉพาะการที่ Microsoft, OpenAI รวมไปถึงคู่แข่งอย่าง Google, Tesla, Meta ต่างก็กำลังฝึก AI ของตัวเองด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาล เพื่อที่จะพัฒนาต่อยอด ChatGPT และเปิดตัว AI คู่แข่งของมันในเร็วๆ นี้

Anthropic ซึ่งเป็นบริษัท Startup คู่แข่งของ OpenAI ที่ Google ลงทุนอยู่เริ่มเปิดตัว Claude ซึ่งเป็น Chatbot ที่จะนำมาแข่งขันกับ ChatGPT ในอนาคต และนี่ยังไม่รวมถึง Bard AI ของ Google ที่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ด้วย

ทำให้เราพอจะเห็นภาพกว้างได้เลยว่าหลายบริการทั่วโลกกำลังจะถูกเชื่อมต่อเข้ากับระบบ AI เพราะแม้แต่จีนเองก็เริ่มเดินตามขึ้นเวทีแล้ว เนื่องจาก Baidu ประกาศว่าจะเปิดตัว Enrie Bot ซึ่งคล้ายๆ กับ ChatGPT ในเร็วๆ นี้ ขณะที่ Meituan และ Alibaba ก็กำลังเข้าต่อสู้ในศึกนี้เช่นกัน

ที่มา: World Maker