'พิธา' โว 4 ปี 'ก้าวไกล' ทำงานดุดัน-คุ้มค่าภาษีประชาชน แต่เป็นฝ่ายค้านทำงานได้ไม่เต็มที่ ขอคนไทยช่วยเลือกให้เป็นรัฐบาล

(15 มี.ค.66) ที่โรงแรมเอเชียแอร์พอร์ต ดอนเมือง พรรคก้าวไกล (ก.ก.) จัดประชุมใหญ่พรรคเตรียมพร้อมก่อนการยุบสภาฯ มีแกนนำพรรคและว่าที่ผู้สมัครส.ส.ครบทุกเขต เข้าร่วมประชุม

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค ก.ก. ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมร่วมกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในครั้งนี้ว่า เป็นการเตรียมตัวก่อนการยุบสภาฯ ไม่เช่นนั้นจะทำให้โอกาสการเตรียมตัวของว่าที่ผู้สมัครส.ส. ทั้งเขตและบัญชีรายชื่อ จะเป็นไปได้ยาก โดยมียุทธศาสตร์การหาเสียงโค้งสุดท้ายและแคมเปญแมสเสจที่จะใช้หาเสียง รวมถึงการพยายามปลุกขวัญและกำลังใจของส.ส.ทุกคน ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่และอยากจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเราจะมีประโยชน์กว่าเมื่อเราได้เป็นรัฐบาลในอีก 4 ปีข้างหน้า เราจึงต้องเตรียมความพร้อมการทำงานเพื่อให้ส.ส.เขตได้ลงพื้นที่และมีงานสภาเด่น และต้องย้ำดีเอ็นเอของพรรคก้าวไกลในช่วงโค้งสุดท้ายที่เหลืออยู่ 60 กว่าวัน

เมื่อถามว่า วางเป้าหมายส.ส.ของพรรคก้าวไกลไว้เท่าไหร่ นายพิธา กล่าวว่า ขณะนี้มีอยู่ 2 เป้าหมายเป้าหมายแรกคือการได้ส.ส.มากกว่าสมัยอดีตพรรคอนาคตใหม่ และเป้าหมายที่สองคือการมี ส.ส.เขตครบทุกภูมิภาคให้ได้

เมื่อถามถึงยุทธศาสตร์ในการหาเสียงเลือกตั้ง นายพิธา กล่าวว่า ยุทธศาสตร์คือ การเข้าหาประชาชนให้มากที่สุด และอยู่ที่การบริหารจัดการ การทำงานอย่างทุ่มเทของว่าที่ผู้สมัครส.ส. แกนนำพรรคและการจัดวางพื้นที่ในการเข้าหาพี่น้องประชาชน เพื่อให้ประชาชนเห็นว่าการมีพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลสามารถทำให้ปัญหาของเขาได้รับการผ่อนคลายไป

เมื่อถามถึงกรณีที่เกิดความขัดแย้งและความวุ่นวายระหว่างที่ลงพื้นที่ นายพิธา กล่าวว่า พรรคก้าวไกลเข้าใจเรื่องนี้ ว่าเป็นส่วนหนึ่งของระบบประชาธิปไตยคือการมีกระบวนการพูดคุยและสิทธิในการแสดงออกแต่ต้องมีกระบวนการจัดการและมีวุฒิภาวะ โดยเราจะไม่ทำให้เหมือนกับกรณีของป้านาที่จังหวัดราชบุรีอย่างแน่นอนไม่ว่าจะตอนที่หาเสียงหรือตอนที่ตนรัฐบาลแล้ว เพราะเราต้องการให้มีพื้นที่ปลอดภัยไว้พูดคุยกัน ขณะเดียวกันคนก็คงจะดูออกว่าเป็นความตั้งใจมาใช้สิทธิทางการเมืองจริงหรือไม่ หรือมาอย่างมีความตั้งใจแอบแฝงอื่นที่โดนบังคับมา

เมื่อถามถึงการวางตัวผู้ปราศรัยหลักในแต่ละภูมิภาคอย่างไร นายพิธากล่าวว่า คงต้องหาจุดสมดุล คนที่เป็นผู้นำ จะต้องมีความรู้และวิสัยทัศน์หลากหลายครอบคลุมทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมเพื่อให้ประชาชนเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ ขณะเดียวกันต้องมีความสมดุลในการทำงานเป็นทีม ในเร็ว ๆ นี้จะมีทีมทิมพิธา เพราะการเมืองนี้ไม่ใช่ว่ามีซูเปอร์แมนคนเดียวแล้วจะแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด จึงต้องมีการทำงานเป็นทีม ที่มีความเชี่ยวชาญในหลายรูปแบบ โดยมีตนเป็นตัวหลัก เพราะเป็นแคนดิเดตนายกฯ

เมื่อถามถึงกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าและผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกลมีส่วนร่วมในการหาเสียงเลือกตั้งมากเพียงใด นายพิธา กล่าวว่า นายธนาธรเป็นผู้ช่วยหาเสียงตามกฎหมายเท่านั้น


ที่มา: https://www.matichon.co.th/politics/news_3874512