ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมต.ผู้ปราบการกระทำผิดไซเบอร์ แห่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

อยู่ในตำแหน่ง ส.ส. ครบ 4 ปี และแม้จะเป็นรัฐมนตรีไม่นานมากนัก แต่ต้องยอมรับว่า "ชัยวุฒิ  ธนาคมานุสรณ์ มีบทบาทในการขับเคลื่อนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส  รวมถึงการทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร ที่มีจุดยืนชัดเจนในการปกป้องสถาบันหลักของชาติ เรียกได้ว่า "พร้อมชน" ทุกที่ ทุกเวลา ทั้งการจัดการกับ "ข่าวปลอม" ต่างๆ  การอภิปรายในสภา หรือให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อเพื่อตอบโต้การเคลื่อนไหวหรือการทำกิจกรรมใดๆ ที่สุ่มเสี่ยงหรือเข้าข่ายกระทบสถาบัน

หากย้อนมองเส้นทางการเมืองของ "ชัยวุฒิ" ที่ครั้งหนึ่งเคยใฝ่ฝันอยากเป็นคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาทำงานการเมือง เริ่มต้นจากการเป็น ส.ส. สิงห์บุรี กับพรรคประชาธิปัตย์ ในปี 2544  และขยับไปเป็น ส.ส.สิงห์บุรีอีกสมัยกับพรรคชาติไทย ในปี 2550 คล้อยหลังมา 1ปี เจ้าตัวจำต้องเว้นวรรค ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี  เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคชาติไทยซึ่งถูกยุบ ในคดียุบพรรคการเมือง ปี 2551

จากนั้นก็ผันตัวไปทำงานอื่นอยู่พักใหญ่ก่อนหวนกลับมาสู่การเมืองอีกครั้ง เมื่อถูกทาบทามให้เข้ามาช่วยปลุกปั้นพรรค "พลังประชารัฐ" สู้ศึกเลือกตั้งในปี 2562 ได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 10 และมีบทบาทสำคัญในการบริหารขับเคลื่อนพรรค ต่อมาเมื่อถึงช่วงเวลาปรับ ครม. เดือนมีนาคม 2564  "ชัยวุฒิ" จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

"ที่ผมเข้ามาทำงานในกระทรวงดิจิทัล ภารกิจหลักของผมคือปกป้องสถาบันหลักของชาติ"

ประโยคสั้นๆ จากบางช่วงบางตอน ที่ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ในฐานะ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ชี้แจงระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 3 กันยายน 2564 หลังถูกตั้งคำถามเรื่องการใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม เพื่อประโยชน์ทางการเมืองหรือไม่

วันนั้น เขาขยายความเหตุที่ต้อง ‘ปกป้อง’ สถาบันหลักของชาติ เพราะกำลังถูกบ่อนทำลาย โดยการใช้โซเชียลมีเดีย ใช้คอมพิวเตอร์ สื่อสารข้อมูลเท็จ บิดเบือน สร้างความเกลียดชัง เพื่อต้องการเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างในประเทศ

เป็นการย้ำชัดถึงจุดยืน และแนวทางของเขาในฐานะ "เจ้ากระทรวงดีอีเอส" 

ช่วง 6 เดือนแรกของปีที่แล้ว กระทรวงดีอีเอสแถลงข้อมูลการทำงานร่วมกับตำรวจ มีการดำเนินการยื่นขอศาลปิดกั้นเว็บไซต์ผิดกฎหมายถึง 2,630 URL ในจำนวนนี้เป็นความผิดต่อความมั่นคง เข้าข่ายหมิ่นสถาบัน ถึง 1,231 URL รองลงมาเป็นการพนันออนไลน์ และเนื้อหาขัดศีลธรรมอันดี 

นอกจากการเร่งรุก ปราบข่าวปลอม หรือ "เฟกนิวส์" อย่างต่อเนื่องแล้ว กระทรวงดีอีเอส ในยุคของรัฐมนตรีชัยวุฒิ ยังมีผลงานที่ "ทำแล้ว" และ "ทำอยู่" คือการผลักดันเทคโนโลยีดิจิทัลพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศ ผ่านโครงการไทยแลนด์ 4.0 ที่วันนี้ประชาชนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตกว่า 80 % ครอบคลุมทุกพื้นที่ มีการสร้างความเชื่อมั่นในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มีการเชื่อมต่อระบบการทำธุรกรรมผ่านระบบดิจิทัลที่สะดวกและปลอดภัย 

และที่กำลังจะ "ทำต่อ" คือการพัฒนาดิจิทัลไอดี หรือบัตรประชาชนออนไลน์  รวมถึงการพัฒนา "ระบบคลาวด์ภาครัฐ" เช่นการทำระบบข้อมูลสุขภาพของประชาชนที่สามารถเชื่อมต่อได้ทุกโรงพยาบาล ทำให้เกิด "บิ๊กดาต้า" ในระบบสาธารณสุข ส่วนการแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ เช่น การจัดการบัญชีม้า การตัด ซิม สาย เสา ที่เอาไปใช้ทำผิดกฎหมาย การติดตามจับกลุ่มผู้กระทำผิด ก็ยังทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อเนื่อง 

มากกว่าสี่ปี ที่ "ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์"  เป็นส่วนหนึ่งของแรงขับดันพรรคพลังประชารัฐ และแน่นอนว่า การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง พรรคพลังประชารัฐ ก็จะมีเขาเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญในการล่าเก้าอี้ ส.ส.ในสภา สร้างพื้นที่ทำงานด้านการเมืองต่อไป