เงียบสยบข่าว!! ‘โรม’ บุก บช.ปส. ทวงความคืบหน้าคดี ‘ส.ว.ทรงเอ’ หลัง ‘ตำรวจ-ศาล’ เกียร์ว่าง - ไม่มีคำตอบให้สังคม

(13 มี.ค.66) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล แถลงข่าวเพื่อติดตามความคืบหน้าการติดตามตัว อุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา มาดำเนินคดีกรณีมีข้อครหาเกี่ยวข้องพัวพันกับการฟอกเงินขบวนการค้ายาเสพติดของ ‘ทุนมินลัต’

รังสิมันต์ กล่าวว่า ในเรื่องนี้ ตนได้ทำทุกอย่างแล้ว ทั้งอภิปรายในสภาฯ แสดงหลักฐานเพิ่มเติมที่อุปกิตอาจยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร้องไปยังคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) อัยการสูงสุด ถึงกรณีการถอนหมายจับ ส.ว.ทรงเอ แต่กลับไม่มีความเคลื่อนไหว และเหตุผลที่มาแถลงข่าวที่นี่ในวันนี้ เนื่องจาก บช.ปส. ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุดให้ดูแลการดำเนินคดีนี้ โดยจากประสบการณ์ทางการเมืองที่ตนมี ความเงียบที่เกิดขึ้นมักจะเกิดจากความจงใจหรืออาจจะเป็นการล้มคดี

"ผมยื่นหนังสือไปยัง ผบ.ตร. เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่าสุด ผบ.ตร. มีหนังสือตอบกลับมาบอกว่า ได้ส่งหนังสือที่ผมยื่นและหลักฐานต่าง ๆ ให้ บช.ปส. แล้ว ซึ่งผู้การ ปส.3 ต้องเป็นผู้รับผิดชอบคดี และหากดูในเอกสารชี้แจงของ พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ จะพบว่ามีความเกี่ยวข้องตั้งแต่ชั้นตำรวจและศาล ที่อาจนำไปสู่การล้มคดีได้" รังสิมันต์กล่าว

รังสิมันต์ กล่าวว่า ยืนยันว่ามีความพยายามวิ่งเต้นเพื่อล้มคดีจริง แม้แต่ในส่วนของศาล ตัวอธิบดีศาลก็พูดในลักษณะหวาดกลัวผู้ใหญ่ต่อการทำคดีนี้ ตนจึงขอตั้งคำถามว่า มีคนที่เหนือกว่าอธิบดีศาลอาญาอีกหรือ เมื่อพิจารณาจากเอกสารของ พ.ต.ท.มานะพงษ์ จะเห็นความพยายามวิ่งเต้นเพื่อช่วยเหลือให้ ส.ว.ทรงเอ หลุดพ้นจากคดีนี้ พร้อมแจกคำใบ้ อดีตบิ๊กตำรวจ ส. เสือ ที่ไม่อยู่ในราชการแล้ว และมีตำแหน่งสูงมากมีความเกี่ยวข้อง

รังสิมันต์ กล่าวว่า หลังจากนี้ ตนเตรียมยื่นเรื่องไปยัง คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพราะเชื่อว่าตุลาการทั้ง 3 คนที่เกี่ยวข้องกับการถอนหมายจับ อาจทำขึ้นโดยเป็นกระบวนการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เวลาผ่านมา 160 วันหลังถอนหมายจับ ส.ว.ทรงเอ คดีกลับไม่มีความคืบหน้าใด ๆ การทำหน้าที่ของ บช.ปส. เป็นเรื่องที่น่าผิดหวังจริง ๆ

หลังแถลงข่าว รังสิมันต์ได้นำแผ่นป้ายข้อมูลกรณี ส.ว.ทรงเอ ที่เคยใช้ในการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ไปติดตั้งบริเวณรอบ ๆ บช.ปส. เพื่อย้ำเตือนให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาตามกระบวนการยุติธรรมที่ควรจะเป็น