จีนงานงอก!! เมื่อคนเดือดร้อนที่แท้จริง จากวิกฤต SVB อาจไม่ใช่ 'สหรัฐฯ' แต่เป็น 'จีน'

(13 มี.ค.) World Maker รายงานว่า ผู้ที่กำลังได้รับผลกระทบจากวิกฤต Bank Run ของ SVB อาจไม่ใช่สหรัฐฯ แต่เป็นจีน !!! เพราะล่าสุดสื่อระดับโลกเปิดเผยว่า SVB คือสะพานเชื่อมที่สำคัญสำหรับธุรกิจ Startup ของจีนที่ต้องการระดมเงินทุนในรูปแบบของดอลลาร์ !

ดังนั้นเมื่อลูกค้าของ SVB เร่งถอนเงิน 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์ออกจากธนาคารในคืนวันพฤหัสบดี ผู้มีอำนาจตัดสินใจในจีนก็ตื่นเช้ามาพบว่าเงินทุนของพวกเขาตกอยู่ในภาวะอันตรายไปแล้ว !

บริษัท VC หลายแห่งในจีนกล่าวว่า Startup จำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงเงินทุนที่ติดค้างอยู่ใน SVB นอกประเทศจีนได้เลย ซึ่งความตึงเครียดของทั้ง 2 มหาอำนาจโลกและเหตุการณ์ล่าสุดนี้ อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้จีนลดการระดมทุนในรูปของดอลลาร์ลงถึง -75% ในปีที่แล้ว ! แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าจีนจะหลีกเลี่ยงวิกฤตไปได้ เพราะก่อนหน้านี้มีการระดมทุนเป็นดอลลาร์จำนวนมาก

โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพของจีน ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับ SVB สูง เปรียบเทียบง่าย ๆ ว่าบริษัทด้านเทคโนโลยีและชีวภาพมากกว่า 10 แห่งที่ซื้อขายในตลาดฮ่องกงมี SVB อยู่ในกลุ่มธนาคารเงินทุนหลัก นอกจากนี้ ประเทศตลาดเกิดใหม่อื่น ๆ ก็ต้องระวังเอาไว้ให้ดี เพราะหลายบริษัทที่มีการระดมทุนดอลลาร์มาแต่ไม่สามารถทำกำไรได้ ก็อาจต้องเผชิญสถานการณ์เดียวกันถ้า Bank Run ลามไปยังธนาคารอื่น ๆ

ดังนั้นแล้ว ที่กลัว ๆ กันว่าสหรัฐฯ จะเกิดวิกฤตการเงินหรือไม่นั้น ความจริงแล้วอาจไม่ใช่สหรัฐฯ ที่จะกระทบหนัก แต่เป็นกลุ่ม Startup ที่มีอยู่มากมายในจีน ซึ่งพึ่งเงินทุนในรูปแบบดอลลาร์ของ SVB มาเป็นเวลาช้านาน

Bill Ackman, Michael Burry, Mark Cuban คือเหล่านักลงทุนชั้นแนวหน้าที่ออกมาเตือนว่าในทำนองที่ว่าวิกฤตครั้งนี้ยังไม่จบลง ! โดยเฉพาะถ้าหากวิกฤต SVB นี้ไม่ได้รับการรับประกันเงินฝากอย่างทั่วถึงภายในวันจันทร์ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเกิด Bank Run กับธนาคารอื่น ๆ ขึ้นอย่างรวดเร็ว

ซึ่งการเปิดเผยว่า Startup จีนมากมายได้รับความเดือดร้อนจากการล้มของ SVB นี้ เกิดขึ้นพร้อม ๆ กับที่ The Economist ของ Rothschild เปิดเผยว่าสหรัฐฯ-จีนกำลังเตรียมทำสงครามเหนือไต้หวัน ! นั่นทำให้มีความกังวลว่าเรื่องราวของโลกจะเลวร้ายลงไปอีก

และแม้ว่าความรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันจะยังดูจำกัดไม่รุนแรงเท่ากับวิกฤตการเงินโลก แต่ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ก็ไม่มีใครรับประกันว่ามันจะเป็นแค่วิกฤตเบา ๆ โดยเฉพาะหากเกิดสงครามระหว่างสหรัฐฯ-จีนขึ้นมาอีก สถานการณ์โลกก็จะยิ่งย่ำแย่ไปกันใหญ่

Michael Burry กล่าวว่าเหตุการณ์นี้ทำให้เขานึกถึงวิกฤตฟองสบู่ดอทคอม ซึ่งเริ่มจากการล้มของ Enron และนำไปสู่ความเสียหายครั้งใหญ่ในเชิงระบบ  ขณะที่ Bill Ackman กล่าวว่าเราอาจได้เจอกับ Bank Run ครั้งใหญ่ถ้าไม่มีการ Take Action อย่างเด็ดขาด ส่วน Mark Cuban กล่าวว่าหน่วยงานกำกับดูแลควรดำเนินการโดยด่วนภายใน 48 ชั่วโมง

หากจะมีการล้มเป็น Domino เกิดขึ้นจริงนั้น ให้เราจับตามองไปที่กลุ่มธนาคารเล็ก ๆ ที่มีงบดุลไม่แข็งแกร่ง ซึ่งมีความเสี่ยงจะเป็นโดมิโน่ตัวแรก ๆ ในระบบ ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ไม่มีใครนิ่งนอนใจ และแม้ว่าผู้เชี่ยวชาญหลายคนจะพยายามออกมาบรรเทาความกังวลของนักลงทุน แต่ในความเป็นจริงก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหลายคน Panic ไปเรียบร้อยแล้ว

แม้แต่หลักทรัพย์ Innovest X ของธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB ของไทยเอง ก็ยังต้องออกจดหมายเตือนถึงนักลงทุนในวันนี้ “ให้ใช้ความระมัดระวังสูงเป็นพิเศษ” ท่ามกลางความไม่แน่นอน ความเสี่ยง และความผันผวนของตลาด โดยย้ำถึงสิ่งที่ World Maker ได้กล่าวไปแล้วว่ากลุ่มธนาคารต่าง ๆ ยังมีการขาดทุนค้างพอร์ตอยู่สูงถึง -21.5 ล้านล้านบาทหรือ -6.2 แสนล้านดอลลาร์ ! ทำให้ถ้าเกิดวิกฤต Bank Run ขึ้นมา ธนาคารเหล่านี้จะต้องเทขายหลักทรัพย์ออกมาในราคาที่ขาดทุนมหาศาล


ที่มา: WorldMaker