‘กรณ์’ เผย ว่าที่ผู้สมัครเป็นคนรุ่นใหม่ ไฟแรง-มีคุณภาพ มั่นใจ ‘ชพก.’ มีโอกาสคว้าชัย พร้อมพาสงขลาไปไกลกว่าเดิม

(10 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสงขลา ระบุว่า นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย พล.ต.ธชา จินตวร รองเลขาธิการพรรค และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 4 เขต ได้แก่ นายกัณฑ์ นวกัณฑ์ เขต 1, นายจูรี นุ่มแก้ว เขต 2 ผศ.ดร.ประสิทธิ์ รัตนพันธ์ เขต 3 และ นายพงศธร สุวรรณรักษา หรือ ทนายอาร์ม เขต 9 ร่วมทำกิจกรรมกับพี่น้องประชาชนชาวสงขลา

โดยในช่วงเช้า เข้าสักการะศาลเจ้าพ่อกวนอู เทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์และมีคุณธรรมสูงส่งที่ ตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ ต่อช่วงบ่ายเข้าร่วมกิจกรรมงานวันสงขลาครบรอบ 181 ปี ณ บริเวณ ถนนนางงาม นครใน นครนอก โดยแต่ละจุดกิจกรรม ประชาชนให้การต้อนรับอย่างเนืองแน่น และชื่นชมในทีมผู้บริหาร และนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า ตลอดจนตัวว่าที่ผู้สมัครว่าเป็นคนคุณภาพ เป็นคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลง จังหวัดสงขลา ที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมานานมากแล้ว

นายกรณ์ กล่าวว่า นับแต่เปิดเปิดตัวผู้สมัครทั้ง 4 คนของ จ.สงขลา กระแสตอบรับดีมาก และดีขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกเขต ทำให้มั่นใจว่าเราจะได้ ส.ส.จาก จ.สงขลาอย่างแน่นอน แต่จะครบทั้ง 4 คน หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชน ส่วนการทำงานของว่าที่ผู้สมัครทั้ง 4 คนก็เป็นต้นแบบของการทำงานเป็นทีม เราเปิดเวทีปราศรัยพบพี่น้องประชาชน ก็จัดแบบธรรมชาติ บนรถกระบะบ้าง ในสวนยางบ้าง แต่เป็นแนวการเมืองบริสุทธิ์ในแนวทางสร้างสรรค์ และจากการพบปะพูดคุยกับประชาชน พี่น้องสงขลาอยากเห็นการเมืองมีการพัฒนา อยากเห็นคนรุ่นใหม่ มีโอกาสเข้ามาทำงานการเมือง

ต่อมาในช่วงเย็น ร่วมทอล์กเศรษฐกิจ ณ ไมอามี สงขลา โดยนายกรณ์ และว่าที่ผู้สมัครทั้ง 4 คน มีผู้สนใจเข้ารับฟังกันอย่างคึกคัก ซึ่งเป็นการจัดแบบธรรมชาติ ไม่มีการจัดตั้งแต่อย่างใด โดยนายกรณ์ กล่าวว่า อยากฝากพี่น้อง จ.สงชลา ชาวใต้ และพี่น้องทั่วประเทศ แม้พรรคเราจะไม่ใหญ่ แต่ความคิดของเรายิ่งใหญ่มาก เราเห็นและเข้าใจประเด็นปัญหาของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะประเด็นเศรษฐกิจ เราไม่ได้เน้นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ที่ต้องใช้เงินภาษีของพี่น้องประชาชน หรือใช้เงินกู้ แต่เราต้องเข้าไปทำความเข้าใจกันตั้งแต่ต้นตอ และมีความกล้า ที่จะเข้าไปรื้อระดับโครงสร้าง ทั้งโครงสร้างพลังงาน เพื่อให้พี่น้องประชาชน เพื่อค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้าถูกลง โครงสร้างทางการเงิน การปล่อยสินเชื่อ เพื่อการเข้าถึงแหล่งสินเชื่อในระบบ ในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรมกับประชาชน มากยิ่งขึ้น แม้แต่ปัญหาเรื่องของฝุ่นพิษ ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นปัญหาระดับโครงสร้าง รอนักการเมืองที่เข้าใจและกล้าจะเข้าไปแก้ปัญหาระดับโครงสร้างให้กับพี่น้องประชาชน

นายกรณ์ กล่าวว่า นโยบายที่มีคนพูดถึงกันมากที่สุดคือ ยกเลิกแบล็กลิสต์ บางคนบอกว่าแบล็กลิสต์ไม่มีจริง ทั้งที่คนไทย 6 ล้านคนกู้เงิน ทำมาหากินไม่ได้ เพราะมีชื่อในเครดิตบูโร เราเสนอให้เรารื้อระบบสินเชื่อ ใช้เครดิตสกอร์ คือคะแนนบวกของประชาชน แทนใช้แต่คะแนนลบอย่างแบล็กลิสต์ เป้าหมายของเราพยายามทำความเข้าใจ เพื่อช่วยให้คนไทย ผู้ประกอบการขนาดเล็ก เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้ ในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม เวลานี้ไทยเป็นประเทศที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสูงมาก ออสเตรเลีย ดอกเบี้ยเงินฝาก และเงินกู้ห่างกัน 1% ของไทย ห่างกัน 5% แพงกว่าถึง 5 เท่า ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างมาเลเซียก็มีส่วนต่าง 1.5% เท่านั้น นโยบายเศรษฐกิจสีเทา เปลี่ยนส่วยเป็นภาษี โดยนำธุรกิจสีเทาที่แฝงอยู่ในระบบเศรษฐกิจ มาเข้าระบบ เหล่านี้ควรเป็นนโยบายหาเสียงหลัก มากกว่าการทำนโยบายแจกของ แจกเงิน เราต้องกล้าชน กล้าทำนโยบายแบบนี้

ด้านว่าที่ผู้สมัครทั้ง 4 คน กล่าวปราศรัยกับพี่น้องประชาชน โดยเน้นกล่าวถึงนโยบายของพรรคที่เน้น ‘งานดี มีเงิน ของไม่แพง’ ที่จะพา จ.สงขลา ไปไกลกว่าเดิม โดยเน้นทำการเมืองสร้างสรรค์ ทำประชาธิปไตยคุณภาพ การเมืองคุณภาพ ไม่ขัดแย้งกับใคร ประชาชนพึ่งพาได้ นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึง ความเป็นผู้นำของนายกรณ์ ที่มีความรู้ ความสามารถ และมีความกล้าที่จะต่อสู้เพื่อปากท้องของพี่น้องประชาชน สร้างรายได้ และหลุดพ้นจากความยากจนอย่างยั่งยืน

ขณะที่นายจูรี ยังคงเน้นเรื่องการรณรงค์ไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง พร้อมทั้งบอกว่าขณะนี้มีการเก็บบัตรประชาชนกัน และเริ่มมีการทำลายป้ายหาเสียงกันแล้ว แต่พี่น้องประชาชน ต้องรักษาสิทธิของตัวเองไว้อย่างเข้มแข็ง เพราะเวลานี้นักการเมืองเขามองชาวบ้านเป็นปลา เขาโยนเบ็ดมาที่เราเพื่อให้เรากินเบ็ด ชาวบ้านต้องสั่งสอนนักการเมืองด้วยการกินแต่เหยื่อ ไม่กินเบ็ด ตอนนี้เริ่มได้กลิ่นความเจริญแล้ว คนสงขลาต้องเปลี่ยน พวกเราจะแหลงให้เปลี่ยน คนใต้ต้องไม่ขายเสียง ซึ่งสร้างเสียงปรบมือดังสนั่น ไมอามี่ สงขลา