‘ไทยสร้างไทย’ ตามรอย ‘ชัยวุฒิ’ หนุน!! บุหรี่ไฟฟ้าถูกกม.ตามกระแสโลก

วันนี้สังคมมุมหนึ่งมีการคัดค้านต้านบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย แต่สังคมอีกมุมหนึ่งก็มองว่าควรผลักดันให้ถูกให้ควร เพราะมวลสารแห่งสาระสำคัญ มีผลประโยชน์ต่อองค์กรรวมมากกว่าผลเสีย

จากรายงานเรื่อง E-cigarettes: an evidence update จัดทำโดยกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ ระบุว่าผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ทั่วไป ส่งผลกระทบด้านสุขภาพน้อยกว่าบุหรี่ทั่วไปร้อยละ 95 พร้อมทั้งสนับสนุนให้ผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเนื่องจากมีหลักฐานผู้เลิกบุหรี่ได้ในกลุ่มผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าในอัตราที่สูง

นั่นคือผลดีในเชิงของสุขภาพที่ถูกนำมาตีแผ่ แม้จะมีข้อมูลอีกฟากฝั่งที่มักมองว่า บุหรี่ไฟฟ้า ก็ยังเป็นควันภัยที่ยากเกินจะยอมรับ และแฝงด้วยโทษในเชิงวิทยาศาสตร์มากกว่าบุหรี่มวนทั่วไปเสียอีก

กระแสอันร้อนแรงระหว่างกลุ่มสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย และผู้ต่อต้านแรงขึ้น นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เดินหน้าหนุนดึงบุหรี่ไฟฟ้าเข้าระบบให้เป็นสินค้าที่มีกฎหมายควบคุม เพราะมองผลระยะยาวในเชิงที่สามารถลดอันตรายให้กับนักสูบที่ไม่สามารถเลิกบุหรี่ได้ ช่วยเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบมีช่องทางรายได้ใหม่จากการป้อนผลผลิตให้โรงงานผลิตบุหรี่ไฟฟ้า อีกทั้งปิดช่องภาษีรั่วไหลจากการลักลอบนำเข้า

“เรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างศึกษาข้อกฎหมายเพื่อดึงบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาอยู่ในระบบให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยกำลังดูว่ามีประเด็นติดขัดเรื่องอะไรบ้าง เนื่องจากมองว่าหากทำให้เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายได้จะสามารถลดอันตรายให้กับผู้สูบ เพราะบางคนไม่สามารถเลิกบุหรี่ได้ แม้จะมีการรณรงค์ให้คนเลิกสูบบุหรี่มาอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันยังมีจำนวนผู้สูบบุหรี่อีกเกือบ10 ล้านคน” นายชัยวุฒิกล่าว

รัฐมนตรีดีอีเอส กล่าวอีกว่า “ตอนนี้ผมจะรวบรวมข้อมูล นำไปประสานผู้เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและทบทวนแนวคิด หาแนวทางขับเคลื่อนเพื่อทำให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นเรื่องถูกกฎหมาย เพราะปัจจุบันทั้ง อย.สหรัฐฯ อังกฤษ และญี่ปุ่น ยอมรับให้ใช้แล้ว ดังนั้นเราต้องไปศึกษาต่อไปว่าข้อติดขัดอยู่ที่ภาคส่วนใด อย่างเช่น ในเรื่องใบอนุญาตให้ใช้ การขาย การผลิต เพราะจากที่ศึกษาเบื้องต้นในแง่กฎหมายน่าจะใช้ พ.ร.บ.ยาสูบฯ ควบคุมให้เข้ามาอยู่ในระบบได้อยู่แล้ว คงต้องมีการจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาทำงานเรื่องนี้โดยเฉพาะ”

สำหรับเหตุผลที่สนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย เพราะเครื่องยาสูบที่เป็นไฟฟ้าถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ ปัจจุบัน 67 ประเทศทั่วโลกมีการยอมรับบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว โดยเฉพาะประเทศใหญ่ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา, จีน แม้แต่มาเลเซีย เพราะถือว่าเป็นยาสูบที่มีความอันตรายน้อยกว่าบุหรี่จริง โดยบุหรี่ไฟฟ้าจะมีสารพิษน้อยกว่า ขณะที่ในประเทศไทยยังไม่เป็นที่ยอมรับ

“หลายประเทศยอมรับว่า หากเรามีบุหรี่ไฟฟ้าจะสามารถลดอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนได้มากกว่า เรื่องนี้ผมขอศึกษาข้อกฎหมายก่อน นอกจากนี้ ปัจจุบันทราบว่าโรงงานยาสูบและผู้ปลูกยาสูบเองก็มีรายได้ลดลง เนื่องจากคนนิยมไปสูบบุหรี่นำเข้า หรือบุหรี่ที่ลักลอบนำเข้ามา ดังนั้น ถ้าเราสามารถเอายาสูบที่ปลูกในประเทศมาผลิตบุหรี่ไฟฟ้าได้ จะสามารถแก้ปัญหาให้กับโรงงานยาสูบและเกษตรกรได้ รวมทั้งส่งออกได้ด้วย” นายชัยวุฒิกล่าว

พร้อมทั้งย้ำว่า การดึงสินค้าในกลุ่มบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาอยู่ในระบบ เป็นสินค้าที่อยู่ภายใต้กฎหมายนั้น อยู่ที่ว่าประเทศไทยและผู้กำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้อง จะสามารถปรับตัวตามเทคโนโลยีได้มากน้อยแค่ไหน เพราะปัจจุบันสินค้านี้มีขายกันใต้ดินและทางออนไลน์ 

ดังนั้นถ้าไม่ปรับตัวตามเทคโนโลยีก็จะเกิดปัญหาภายในประเทศ และเสียหายในอนาคตได้ ทั้งในเรื่องการลักลอบจำหน่าย การสูญเสียรายได้จากภาษี การสูญเสียโอกาสและกระทบต่อรายได้ของเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบชาวไทยและการลดผลกระทบต่อสุขภาพของนักสูบชาวไทยที่ไม่สามารถเลิกบุหรี่ได้

ในขณะที่นโยบายการสนับสนุนให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายโดยรัฐมนตรีดีอีเอสเริ่มกระจายเป็นข่าวใหญ่ ด้าน นายเจตุบัญชา อำรุงจิตชัย รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย ก็ดูเหมือนจะหยิบยกกรณีบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย ออกมาร่วมตีแผ่ด้วยเช่นกัน 

“แม้จะมีการระบุเรื่องการห้ามจำหน่ายและนำเข้าก็ตาม แต่ในทางปฏิบัติจะพบว่าเมื่อเดินไปตามแหล่งท่องเที่ยวก็ยังคงมีวางขายกันอย่างเปิดเผย และปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องนี้มีตำรวจเรียกรับผลประโยชน์กับพ่อค้าแม่ค้าแลกกับการ มองข้ามในเรื่องเหล่านี้ ถ้าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ยังนิ่งเฉย ไม่ยอมปรับแก้กฎหมายให้สามารถขายได้ ประเทศจะสูญเสียรายได้แทนที่จะเก็บภาษีเกี่ยวกับธุรกิจนี้ได้ถูกต้อง กลับการเป็นการจ่ายใต้โต๊ะให้คนไม่กี่คนที่มีอำนาจจับกุม สุดท้ายเงินก็กลายเป็นส่วยใต้โต๊ะที่ไม่จบสิ้นอยู่ดี”

ทั้งนี้แม้ส่วนตัวของ เจตุบัญชา จะไม่ได้สูบบุหรี่ทั้ง บุหรี่ธรรมดาและบุหรี่ไฟฟ้า และยังคงย้ำจุดยืนว่า บุหรี่ไม่ว่าจะแบบธรรมดาหรือบุหรี่ไฟฟ้าล้วนแล้วแต่ทำลายสุขภาพ และไม่ควรให้มีการจัดจำหน่ายทั้งคู่ แต่ถ้าบุหรี่ธรรมดามีการควบคุมตามกฎหมายและขายได้อย่างถูกต้อง บุหรี่ไฟฟ้าก็ต้องเป็นไปตามนั้นเช่นกัน อย่าให้มีสองมาตรฐานให้คนเค้าวิจารณ์กัน แต่ต้องมีการควบคุมเรื่องคุณภาพของบุหรี่ไฟฟ้าให้มีมาตรฐานจะนำเข้าได้กี่แบบจะต้องมีคุณภาพขนาดไหนจะเก็บภาษีเท่าไร ก็ระบุให้เรียบร้อยที่เหลือใช้มาตรฐานเดียวกับบุหรี่ธรรมดาเลย ห้ามขายให้กับเด็กอายุเท่าไร บุหรี่ธรรมดาใช้กฎหมายไหนก็ใช้ให้มันเหมือนกัน

รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวย้ำว่า เรื่องนี้ไม่ได้ยากอะไรเลย เพียงแต่ผู้มีอำนาจยังคงตามโลกไม่ทัน ประเทศชั้นนำในโลกที่ มาตรฐานเรื่องการควบคุมสูงกว่าประเทศไทยกว่า 50 ประเทศทั่วโลกก็ขายและสูบได้อย่างถูกกฎหมายไปนานแล้ว ส่วนประเทศไทยนั้นยังคงไม่เร่งแก้กฎหมายและไม่ทราบว่ามีอิทธิพลแอบแฝงหรือไม่ ทำให้เรื่องนี้ผ่านมาหลายปีก็ยังคงไม่มีการแก้ไขให้ถูกต้องเสียที แต่กลับไปผลักดันให้กัญชาสูบและขายได้อย่างเสรีแทน ไม่มีประเทศไหนในโลกเค้าทำกัน ซึ่งแสดงถึงความไม่จริงใจในการทำงานของผู้มีอำนาจอย่างแท้จริง

แม้แนวคิดดังกล่าวของรองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย จะแลดูเหมือนมาทับรอยกับแนวทางที่รัฐมนตรีชัยวุฒิกำลังผลักดัน แต่ก็เชื่อว่าในเวลานี้ รมต.โอ๋ คงมิได้สนใจอันใด หากแนวนโยบายนี้ สร้างประโยชน์มากกว่าโทษต่อประเทศไทยและเศรษฐกิจไทย ใครคิดก่อน คิดหลัง ไม่ใช่ประเด็น 

แมนๆ ดี...