'เพื่อไทย' โชว์ไอเดียแก้ PM 2.5 ผู้ก่อมลพิษต้องเป็นผู้จ่ายและรับผิดชอบ

“ในวงการนักสิ่งแวดล้อม คุยและเสนอความคิดกันว่า วันนี้คนที่สร้างมลพิษ จะต้องมาช่วยจ่ายและรับผิดชอบ ซึ่งต่อไปจะเป็นหลักการสำคัญในการแก้ปัญหา”

ส่วนหนึ่งจากการเสวนา ‘วิกฤตฝุ่น PM 2.5 เพื่อไทยมีทางแก้ไข’ นำโดย จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ นายแพทย์ญาณกิตติ์ ห่วงทรัพย์ ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กรุงเทพมหานคร, ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ชี้ให้เห็นแนวทางการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ต้องเข้มงวดและผู้ก่อมลพิษควรได้มีส่วนรับผิดชอบอย่างจริงจัง

จักรพล ตั้งสุทธิธรรม กล่าวว่า กล่าวว่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เกิดมาอย่างยาวนาน ตนได้ยื่นกระทู้สดถามต่อรัฐบาล แต่กลับไม่มีผู้มาตอบถึง 3 ครั้ง โดยตั้งแต่ปี 2564 ได้ยื่นกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อจัดการปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างยั่งยืน แล้วเสร็จถึง 3 คณะ กระทั่งวันที่ 27 มกราคม 2565 ได้ยื่นพระราชบัญญัติอากาศสะอาด ผ่านไป 400 วันแล้ว ยังไปไม่ถึงไหน หลายฉบับก่อนหน้านี้มีการตีตก เหลือฉบับของพรรคเพื่อไทยที่ค้างในรัฐสภาในส่วนนิติบัญญัติ 

จักรพล กล่าวต่อว่าในวงการนักสิ่งแวดล้อมได้คุยและเสนอความคิดกันว่า วันนี้คนที่สร้างมลพิษจะต้องมาช่วยจ่ายและรับผิดชอบ ซึ่งต่อไปจะเป็นหลักการสำคัญในการแก้ปัญหา เพราะคนที่ก่อมลพิษควรต้องร่วมรับผิดชอบเพื่อให้รัฐบาลและสังคมได้นำเงินรายได้ตรงนี้ไปใช้รักษา ช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากฝุ่นพิษ แต่อย่างไรก็ตามตรงนี้ก็คงไม่สามารถเทียบกับชีวิตและสุขภาพและชีวิตของคนไทยที่ต้องสูญเสียไป ดังนั้น พ.ร.บ.อากาศสะอาดจึงถือเป็นด่านแรกที่สำคัญในขั้นพื้นฐานที่พรรคเพื่อไทยจะต้องผลักดันต่อไปให้สำเร็จ เพื่อเป็นหลักประกันพื้นฐานด้านสุขภาพให้พี่น้องประชาชน

นายแพทย์ญาณกิตติ์ ห่วงทรัพย์ ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า PM 2.5 สามารถแทรกซึมได้ผ่านทางลมหายใจ คนที่เป็นภูมิแพ้จะมีน้ำมูกไหล ไปจนถึงเลือดกำเดาไหล ผ่านเข้าปอด เข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิต หัวใจ สมอง สามารถทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตีบ หรืออักเสบ และสามารถเสียชีวิตได้ทันที ปีที่แล้ว มีผู้เสียชีวิต 30,000 คนต่อปี ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจนับแสนล้านบาท

“ถ้าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะแก้ปัญหานี้ได้แน่นอน ที่ทำได้ตอนนี้ชัดเจนและรวดเร็วที่สุดคือ ให้กระทรวงคมนาคมเปลี่ยนรถเมล์เก่าควันดำ เป็นรถเมล์พลังงานสะอาดทั้งหมด พร้อมสนับสนุนการใช้รถ EV ให้เป็นวาระแห่งชาติ รวมถึงการใช้เงินอุดหนุนช่วยเหลือประชาชนที่ใช้รถยนต์ดีเซลให้สามารถเปลี่ยนมาใช้รถที่ลดการปล่อยฝุ่นควันได้” นายแพทย์ญาณกิตติ์กล่าว

ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัญหาฝุ่น PM2.5 เป็นปัญหาเรื้อรัง จึงต้องทำความเข้าใจถึงที่มาที่ไปของปัญหาก่อน โดยพบว่าฝุ่น PM 2.5 มาจาก 1. ยานพาหนะ 54% 2. การเผาในที่แจ้ง 35% และ 3. โรงงานและการก่อสร้าง 11%  ดังนั้นจึงขอเสนอแนวทางในการจัดการฝุ่นเมือง  3 วิธี ได้แก่...

1. ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะใน กทม.ไม่ ไปพร้อมกับการเจรจาลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า

2. การผลักดันการใช้รถระบบไฟฟ้า (รถอีวี) 

3. ส่งเสริมให้ไทยเป็นฐานการลงทุนในอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าทั้งจากการลงทุนของต่างชาติ และภายในประเทศ  

อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด กล่าวสรุปว่าพรรคเพื่อไทยมีแนวคิดที่จะผลักดันเป็นนโยบายพรรคเพื่อไทยแก้วิกฤต PM 2.5 ใน 6 ด้านได้แก่...

1. ห้ามเผาป่า เผาไร่จริงจัง 

2. เจรจากับประเทศเพื่อนบ้านและเอกชนไทย ห้ามเผาไร่จริงจัง 

3. เปลี่ยนรถเมล์ กทม.หลายพันคันเป็นรถไฟฟ้า โดยเร็วที่สุด

4. เข้มรถปล่อยควัน โรงงานปล่อยมลพิษจากไซต์งานก่อสร้าง

5. ทำไทยเป็นศูนย์ผลิตรถไฟฟ้า ดันราคาลง คนใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น

6. ผลักดันกฎหมายอากาศสะอาด


ที่มา: https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02wNYPpGQbYafUqEQChB3rLwcwrntDfTitp1LEgWadHvcFzxL37Syved2CyPg9V92Al&id=100044569743646&mibextid=Nif5oz