‘แสนสิริ’ ครองแชมป์เปิดโครงการใหม่ปี 66 เดินหน้า 52 โครงการ มูลค่ากว่า 7 หมื่นลบ.

ไม่นานมานี้ นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ในปี 2565 แสนสิริสามารถเดินหน้าอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน โดยประสบความสำเร็จด้วยยอดขายรวม 50,000 ล้านบาท เติบโตเกือบ 50% จากปี 2564 มียอดโอน 36,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 เช่นกัน

สำหรับในปี 2566 แสนสิริ วางแผนเปิดตัว 52 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 75,000 ล้านบาท นับเป็นการทุบสถิติการเปิดตัวโครงการใหม่ ด้วยมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือเติบโต 74% จากปี 2565 และเติบโตจากช่วงเกิดโควิด-19 ถึง 1,000% หรือ 10 เท่าตัว

ทั้งนี้โครงการใหม่ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 30 โครงการ คอนโดมิเนียม 22 โครงการ โดยตั้งเป้ายอดขายปี 2566 อยู่ที่ 55,000 ล้านบาทและตั้งเป้ารายได้รวม 40,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมถึงตั้งเป้ากำไรสุทธิที่จะทุบสถิติ ALL-Time High พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ตั้งบริษัท

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI กล่าวว่า โครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2566 ครอบคลุมทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, ทาวน์โฮม ในทุกระดับราคา ทุกทำเล และเจาะกลุ่ม Real demand โดยเฉพาะโครงการแนวราบ วางแผนเปิดตัว 30 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 50,700 ล้านบาท และเตรียมเปิดตัว 9 แบรนด์ใหม่ ครอบคลุมทุกกลุ่ม ส่วนโครงการแนวสูงนั้น มีแผนจะเปิดตัวคอนโดมิเนียม 22 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 24,300 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 151% จากปี 2565

“ในปี 2566 นี้แสนสิริได้ปรับภาพแบรนด์ใหม่ให้มีความทันสมัยมากขึ้น ในคอนเซปต์ Stay Well-Rounded คอนโดที่คิดเพื่อชีวิตดีรอบด้าน โดยนำเสนอคอนโดมิเนียมแนวคิดใหม่ใส่ใจความเป็นอยู่ที่ดีในชีวิตทุกด้าน กับแบรนด์ดีคอนโด ซีรีส์ใหม่ 5 โครงการ 5 ทำเล รวมมูลค่าโครงการกว่า 5,000 ล้านบาท”นายอุทัย กล่าว

อย่างไรก็ตามแสนสิริยังรุกตลาดต่างจังหวัดต่อเนื่องใน 6 จังหวัด ได้แก่ หัวหิน (ประจวบคีรีขันธ์), ภูเก็ต, เชียงใหม่, หาดใหญ่ (สงขลา), ขอนแก่น และชลบุรี ซึ่งแสนสิริประสบความสำเร็จมาแล้ว โดยในปี 2566 จะเปิดตัวโครงการในต่างจังหวัด 12 โครงการ มูลค่ารวม 8,500 ล้านบาทพร้อมตั้งเป้ายอดขายจากลูกค้าต่างชาติในปี 2566 ไว้ที่ 12,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% จากปี 2565 โดยขยายฐานลูกค้าใหม่ในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) จากเดิมมาจากจีน, ฮ่องกง, ไต้หวัน, สิงคโปร์, รัสเซีย เป็นต้น

ทั้งนี้หากดูแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2566 มากที่สุดของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทยนั้น 5 อันแรก ได้แก่ แสนสิริ จำนวน 52 โครงการ มูลค่ารวม 75,000 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านแนบราบ 30 โครงการ คอนโด 22 โครงการ ตามมาด้วย ศุภาลัย จำนวน 37 โครงการ มูลค่ารวม 41,000 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านแนบราบ 34 โครงการ คอนโด 3 โครงการ / แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำนวน 17 โครงการ มูลค่ารวม 34,960 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านแนบราบ 16 โครงการ คอนโด 1 โครงการ / โนเบิล จำนวน 10 โครงการ มูลค่ารวม 23,000 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านแนบราบ 8 โครงการ คอนโด 2 โครงการ และ เฟรเซอร์ส์ พร็อพเพอร์ตี้ จำนวน 11 โครงการ มูลค่ารวม 17,500 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านแนบราบ 10 โครงการ คอนโด 1 โครงการ 


ที่มา: Naewna / Home Buyers