เมื่อวานนี้ (21 ม.ค.66) เอเอฟพีรายงานว่า ประชาชนจำนวนหลายพันคนในกรุงมาดริด ออกมารวมตัวเดินขบวนประท้วงต่อต้านรัฐบาลชุดปัจจุบันของนายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ

ผู้เข้าร่วมชุมนุมต่างโบกธงชาติสเปน พร้อมตะโกนร้องขับไล่ให้ซานเชซลาออกจากตำแหน่ง บางคนชูป้ายที่มีรูปถ่ายของนายกรัฐมนตรีที่มีข้อความเรียกเขาว่า 'คนทรยศ'

จากการประเมินของทางการมาดริด กลุ่มผู้ชุมนุมมีจำนวนประมาณ 30,000 คนและรวมตัวกันที่จัตุรัสซิเบเลสในเมืองหลวงของสเปน แต่แกนนำในการจัดตั้งการชุมนุมกล่าวว่ามีผู้คนมารวมตัวกันมากกว่า 700,000 คน

การประท้วงถูกจัดตั้งโดยกลุ่มประชาสังคมฝ่ายขวาหลายสิบกลุ่ม และได้รับการสนับสนุนจากพรรคฝ่ายค้านอนุรักษนิยม

ทั้งนี้ฝ่ายอนุรักษนิยมรู้สึกโกรธต่อการตัดสินใจของรัฐบาลที่ยกเลิกการดำเนินคดีกับกลุ่มที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนแคว้นกาตาลุญญาในปี 2560 โดยกลุ่มแกนนำ 9 คนที่ปลุกระดมกระทำการดังกล่าวได้รับโทษแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แทนที่จะโดนข้อหากบฏ

อีกทั้งกลุ่มอนุรักษนิยมยังรู้สึกไม่พอใจต่อกฎหมายต่อต้านความรุนแรงทางเพศ ซึ่งเพิ่มบทลงโทษสำหรับคดีข่มขืน แต่ลดโทษสำหรับอาชญากรรมทางเพศอื่นๆ

การชุมนุมประท้วงคาดหวังให้เกิดผลลัพท์ทางการเมือง เนื่องจากสเปนกำลังจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในปลายปีนี้ โดยบรรดาพรรคฝ่ายค้านหวังว่าจะได้จับมือกันตั้งรัฐบาลอนุรักษนิยมแทนรัฐบาลเสรีนิยมในปัจจุบัน และผลโพลสำรวจความนิยมจากประชาชนก็เป็นไปในทิศทางเช่นนั้น

โดยก่อนจะไปถึงจุดนั้น การเมืองสเปนจะต้องชิงชัยรอบแรกในการเลือกตั้งระดับภูมิภาคและระดับท้องถิ่นในเดือนพฤษภาคมเสียก่อน

ที่มา: https://www.thaipost.net/abroad-news/307651