คณะรัฐมนตรีลดภาษีดีเซลต่ออีก 4 เดือน เห็นชอบสร้างอ่างเก็บน้ำ ‘น้ำกิ’ พร้อมเวนคืนที่ดินสร้างอ่างเก็บน้ำลำพญา และผลักดันเปิดตลาดน้ำมันปาล์ม

วันนี้ (17 ม.ค. 66) เวลา 14.00 น. ที่ศูนย์แถลงข่าว ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวรัชดา ธนาดิเรก และนางสาวทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมกันแถลงข่าวจากการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ โดยมีประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ ดังนี้ ประเด็นแรก คณะรัฐมนตรีเห็นชอบขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นมาตรการต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ซึ่งจะสิ้นสุด 20 มกราคม พ.ศ. 2566 คณะรัฐมนตรีจึงมีมติขยายเวลาออกไป โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2566 – 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งจะปรับภาษีสรรพสามิตลดลงลิตรละ 5 บาท ตามชนิดของน้ำมันดีเซล ซึ่งจะช่วยรักษาระดับการขายน้ำมันดีเซลในประเทศให้ราคาไม่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน

นอกจากนี้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำน้ำกิ ในจังหวัดน่าน เพื่อกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ในหน้าแล้ง รวมถึงป้องกันอุทกภัย และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยว แหล่งขยายพันธุ์ปลาน้ำจืด เมื่อสร้างเสร็จจะเกิดประโยชน์กับประชาชนโดยรอบ กว่า 6,300 ครัวเรือน ระยะเวลาการก่อสร้าง 7 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2567- พ.ศ. 2573 ใช้งบประมาณ 6,200 ล้านบาท ซึ่งรวมค่าสิ่งก่อสร้างและค่าชดเชยที่ดินแล้ว นอกจากนี้คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน เพื่อก่อสร้างอ่างเก็บน้ำลำพญา จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นโครงการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน เป็นผู้นำเสนอ โดยใช้พื้นที่ 1,527 ไร่ มีค่าทดแทนทรัพย์สินทั้งโครงการ 475 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณประจำปี 2565-2567 ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับประชาชน ครอบคลุมพื้นที่ 8,100 ไร่ กว่า 690 ครัวเรือน ซึ่งจะช่วยกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ในหน้าแล้ง และป้องกันอุทกภัย

ส่วนเรื่องของนโยบายด้านน้ำมันปาล์ม คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการประชุมคณะกรรมการนโยบายน้ำมันปาล์มแห่งชาติ ได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีได้รับทราบ ในประเด็น 1) การกำหนดมาตรฐานการรับซื้อผลปาล์ม 2) การดำเนินโครงการติดตั้งเครื่องมือวัดปริมาณน้ำมันปาล์มเพื่อที่จะบริหารจัดการและควบคุม Stock น้ำมันปาล์ม 3) การเปิดตลาดน้ำมันปาล์ม และน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์ม ภายใต้กรอบการค้าระหว่างประเทศ ปี 2566-2568 ซึ่งทางคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในเรื่องของการนำเข้าน้ำมันปาล์ม และน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์ม ซึ่งการนำเข้าจะอยู่คราวละ 3 ปี โดยมีเงื่อนไขการนำเข้าเป็นไปตามข้อผูกพันในกรอบการค้าต่าง ๆ ที่ได้ทำข้อตกลงไว้ 4) การขยายระยะเวลาโครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์ม ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการรวบรวมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป 5) การประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์ม ในปี 2565 และปี 2566 และมาตรการคู่ขนาน ปี 2566 ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการรวบรวมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

โดยในช่วงท้ายของการแถลงข่าว นายอนุชา ได้กล่าวย้ำถึงข้อสั่งการของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในประเด็นการขึ้นค่าโดยสารรถแท็กซี่ เนื่องจากรัฐบาลให้ความสำคัญกับผู้ขับรถแท็กซี่ที่อัตราค่าโดยสารไม่ได้ปรับมากว่า 8 ปี ซึ่งการปรับครั้งนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาถ้าเกิดผลกระทบอย่างไรขอให้แก้ไขโดยเร็ว และสุดท้ายโฆษกรัฐบาลได้แจ้งกับสื่อมวลชนกรณีที่มีข้อซักถามถึงการลาประชุมคณะรัฐมนตรีของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่าท่านมีอาการป่วยใช่หรือไม่ ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรี ได้ยกหูโทรศัพท์พูดคุยทันทีหลังจากทราบจากนักข่าว ซึ่งท่านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ไม่ได้เจ็บป่วย แต่ลาการประชุมคณะรัฐมนตรีเนื่องจากติดภารกิจ

เรื่อง : วสันต์ มนต์ประเสริฐ