‘กานต์กนิษฐ์’ เปิดใจหลังย้ายซบ ‘เพื่อไทย’ ชี้!! ขอเลือกทำงานกับพรรคที่สบายใจ

(16 ม.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ อดีตส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะผู้ซึ่งประสงค์ลงสมัครส.ส.กทม.เขต 1 พรรคเพื่อไทย กล่าวเปิดใจที่ย้ายมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยว่า ตนเลือกอยู่กับพรรคที่ทำงานแล้วสบายใจ มองว่าที่พื้นที่กทม.เขต 1 เป็นพื้นที่เศรษฐกิจ มีพ่อค้าแม่ค้าทำธุรกิจค้าขายเป็นจำนวนมาก นโยบายของพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญในเรื่องเศรษฐกิจ เชื่อว่าจะช่วยพี่น้องประชาชนได้ เศรษฐกิจในพื้นที่จะดีขึ้น 

ทั้งนี้ การย้ายมาอยู่พรรคเพื่อไทย อาจจะทำให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่รู้สึกสับสน แต่ก็พยายามทำความเข้าใจและชี้แจงแนวทางที่ตัดสินใจมาอยู่กับพรรคเพื่อไทย ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค พปชร.ก็ทราบเรื่องที่ตนย้ายมาอยู่พรรคเพื่อไทยแล้ว ซึ่งพล.อ.ประวิตรก็ไม่ได้ว่าอะไร ยืนยันว่าจะรักษาเก้าอี้ในพื้นที่ไว้ได้ เนื่องจากตนเป็นนักการเมืองมานาน ที่ผ่านมาก็ทำพื้นที่มาตลอด ขอให้ประชาชนมั่นใจ จะทำให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่าการย้ายพรรคครั้งนี้แสดงว่าพรรค พปชร. มีปัญหาหรือไม่ น.ส.กานต์กนิษฐ์ กล่าวว่า ทุกคนในพรรค พชปร.น่ารักทุกคน แต่จะเป็นเรื่องของนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชน ยืนยันว่าทุกคนในพรรคพปชร. ยังเป็นเพื่อนและยังพูดคุยกันได้ และจะไม่มีการชวนใครในพรรค พปชร.มาอยู่กับพรรคเพื่อไทยอีก

ด้านนายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ตัดสินใจลาออกจากผอ.สำนักการศึกษา กทม.เพื่อมาลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.เขตบางแค ซึ่งตนมองเห็นว่าการศึกษาของกรุงเทพฯ ทั้งระบบต้องปฏิรูป เพราะเด็กไทยเสียโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีมามากแล้ว เฉพาะในพื้นที่ กทม. มีเด็กและเยาวชนรวม 2.6 แสนคน เพิ่งเข้าถึงคอมพิวเตอร์ในโรงเรียน ขณะที่แพลตฟอร์มต่าง ๆ ไม่สามารถเรียนรู้ได้โดยง่าย เด็กรุ่นนี้ต้องเรียนรู้นอกกรอบ ต้องเรียนในสิ่งต่าง ๆ ที่สามารถนำมาใช้ได้ในชีวิตประจำวันได้ เด็กยุคนี้ต้องล้มและลุกขึ้นเร็ว เรื่องนี้มีความสำคัญมาก ปัญหาใน กทม.เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นต่อจากนี้ไปภาพการศึกษาไทยทั้งหมดต้องมีความชัดเจน ตอบโจทย์เด็กทั้งประเทศ เด็กในพื้นที่หลายจังหวัดยังได้รับโอกาสน้อย พวกเขาต้องได้รับโอกาสมากขึ้น เป็นสิ่งที่อยู่ในใจที่ต้องการเปลี่ยนแปลง