“ประชาธิปัตย์” ไม่ใช่”ตะเกียงไร้น้ำมัน” ที่ ”พรรคการเมืองคู่แข่ง” จะเข้ามา ”ตีป้อมค่าย” เพราะ ปชป.วันนี้ไม่ใช่ปชป.ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 อย่างแน่นอน

 ถึงแม้ “บัญญัติ บรรทัดฐาน” นักการเมืองรุ่น”ลายคราม”ของประเทศไทย และของพรรค”แม่ธรณีบีบมวยผม” จะไม่ออกมา”ร่ายกลอน” เรื่อง”ลิงกินกล้วย” หรือพูดเรื่องการเลือกตั้งในปี 2566  ที่จะถึงในอีกไม่ช้าว่า ที่ชี้ให้เห็นว่าเป็นการเลือกตั้งในระบบ”ธนาธิปไตย” ที่จะมีการ”ใช้เงิน” ในการ”ซื้อเสียง” เป็นจำนวน”มหาศาล”  ประชานทั่วประเทศ ที่ติดตามการ”บริหารประเทศ”ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในตำแหน่ง”นายกรัฐมนตรี” ก็เห็นและรู้อย่างชัดเจนว่า ที่ผ่านมา เพื่อ”การอยู่รอด” และเพื่อการ”เอาชนะ” ต่อการ”อภิปรายไม่ไว้วางใจ” มีการ”ใช้เงิน”เป็น”ยุทธปัจจัย” จำนวน”มหาศาล” เพื่อ”ซื้อเสียง” ใน สภาผู้แทน
ดังนั้นเมื่อยังกล้าที่จะ”ซื้อเสียง” ในสภาผู้แทนอย่าง”โจ๋งครึม” แบบที่ถูก”นิยาม”ว่า”ใช้”กล้วยแจกลิง”เป็น”สวนๆ” โดยมี”กลุ่มทุน” ที่อยู่เบื้องหลัง เพื่อให้” บิ๊กตู่” ไปต่อ ในตำแหน่ง”นายกรัฐมนตรี” จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าในการ”เลือกตั้ง” ที่จะมาถึง จะมีการ”แจกกล้วย” ให้กับ”ประชาชน” เพื่อให้เลือก สส.ของ พรรคใดพรรคหนึ่ง เพื่อที่จะเป็น”นั่งร้าน” ให้”บิ๊กตู่” ก้าวขึ้นไปสู่”หอคอยงาช้าง” เป็น “นายกรัฐมนตรี” อีกครั้ง เป็นครั้งที่ 3
      โดยข้อเท็จจริง และโดยที่ไม่ต้อง”เหนียมอาย” ทั้ง”นักการเมือง” และ”ประชาชน” ที่เคย”ซื้อเสียง” และเคย”ขายเสียง” ในการ”เลือกตั้ง”ที่ผ่านมาทุกครั้ง ว่าการ”เลือกตั้ง” มีการ”ใช้เงิน” เพื่อการ”ซื้อเสียง” หารือ”แจกเงิน” ทั้งใน”รูปแบบ” การ”สัมมนา” การ”จัดเลี้ยง” และจ่ายเป็น”รายหัว” เพื่อเป็นค่า”เดินทาง” มาฟังการ”ปราศรัย” ที่ต้องยอมรับความจริงว่า การ”เลือกตั้ง” แต่ละครั้ง แต่ละพรรคการเมือง และผู้สมัครรับเลือกตั้ง ล้วนต้อง”ใช้เงิน” จำนวนมาก ในการทำผิด”กฎหมาย” การเลือกตั้ง
     เพียงแต่ ครั้งนี้การใช้เงิน การใช้”อำนาจ” จะเป็นการ”อำมหิต” กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะเป็นการ”ต่อสู้”ของพรรคการเมือง หลายพรรค ที่ทุกพรรค ต้องการ”กวาด” จำนวน สส.ให้มากที่สุด เพื่อการสร้าง”สมการ” ของการเป็นผู้”จัดตั้งรัฐบาล” หรือการได้”เข้าร่วม” เป็น”รัฐบาล” เพราะไม่มี พรรคการเมือง พรรคไหน ที่อยากจะเป็น”ฝ่ายค้าน” ด้วย”เหตุผล” คือ”อดยากปากแห้ง” นั่นแหละ
    ดังนั้น พรรคที่”นายทุน” หรือ”กลุ่มทุน” ให้การ”อุ้มชู” จึงเป็นพรรคที่”ได้เปรียบ” ในการเข้าสู่”สนามเลือกตั้ง” ครั้งนี้ เพราะมีการเห็นถึง”ปฏิบัติการ” แจกกล้วย” ในสภาฯมาแล้ว และที่เป็นข่าวปรากฏเป็น”ระยะๆ” ของการ”ใช้เงิน” ในการสร้าง”พลังดูด” สส. ที่มี”ชื่อชั้น” มาเข้าสังกัดพรรคที่เรียกว่าเป็นการ”ตกปลาในบ่อเพื่อน”มีการใช้”ยุทธปัจจัย”ถึง 30 กิโล,50 กิโล เป็นข้อ”แลกเปลี่ยน” ในการ”เปลี่ยนพรรค”
     จึงไม่แปลก ที่หลายพรรคการเมือง ทั้งที่เป็นพรรคที่มีอยู่แล้ว และพรรคการเมืองที่”เพิ่งตั้งไข่” จึง”จัดทัพ” มุ่งหน้ามายัง”ภาคใต้” ที่เป็น”ฐานที่มั่นสุดท้าย” ของ”พรรคประชาธิปัตย์” โดยมองว่า”ภาคใต้” เป็น”จุดอ่อน” ของการ”เลือกตั้ง” ในครั้งนี้ เป็นการ”หลีกเลี่ยง” การ”แข่งขัน” ใน สนามของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ( อิสาน) และ”ภาคเหนือ” ซึ่งเป็น”ที่มั่น” ที่”เข้มแข็ง” ทั้งในเรื่อง”ทุน” และ”คน” ที่เป็น สส.
    มีบางพรรคที่เพิ่ง”ตั้งไข่” และ”ตกปลาในบ่อเพื่อน” ถึงกับออกมา”พูดว่า” ภาคใต้พรรคเราได้ สส.ตามที่ต้องการแน่  โดยประเมินว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่มี”ทั้งกระแส” และ”กระสุน” และ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” เป็น “หัวหน้าพรรค” ที่แม้แต่”คนในพรรค” ก็มองว่า”ไร้เสน่ห์” ทุกพรรคจึง”หมายมั่นปั้นมือ” ที่จะเข้ามา”แชร์ตลาด” สส. ในภาคใต้ ซึ่งมี” ที่นั่ง” อยู่ 58 ที่นั่ง
    ส่วนจะเป็นการ”ประเมิน” ที่”ถูกต้อง” หรือ”ผิดพลาด” อย่างไร ในการ”เลือกตั้ง”ครั้งนี้ ล้วนเป็นผลดีกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะ”ยิ่งมายิ่งเด่นชัด” ว่า พรรคการเมืองแต่ละพรรค ที่เข้ามาเพื่อ”ล้มประชาธิปัตย์” ใช้”กลยุทธ์” หรือ”ยุทธวิธี” แบบไหน เช่นบางพรรคที่เป็นพรรคที่เป็น”คู่แข่ง”เดิม ใช้วิธี”สะสมกระสุน” โดยไม่สนใจ”กระแส” เพื่อการ”ยิงสลุต” อย่างเดียว ส่วนพรรคใหม่”บางพรรค” ก็ใช้”บริการ”คนของ”ประชาธิปัตย์” ที่ถูก”ดูดออกไป” ทำการ”แย่งชิง” กลุ่ม”หัวคะแนน” โดยนักการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์กลุ่มนี้เป็น”ไผ่กอเดียวกับประชาธิปัตย์”ที่ทำตัวเป็น”ด้ามพร้า” เพื่อ”ฆ่ากอไผ่” ที่เป็นที่มาของตนเอง และ “กลยุทธ์” ที่ใช้ใน”สนามเลือกตั้ง” ด้วยการ”ตกปลาในบ่อเพื่อน” และอาศัย” กระแสของหัวหน้าพรรค” พร้อมด้วย”กระสุน” ที่มี”บางคน” ในพรรค ออกมา”โอ้อวด” ว่ามีจำนวน “มหาศาล”
      เจ้าถิ่น อย่าง”ประชาธิปัตย์” จะแก้เกมอย่างไร เป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะในการเลือกตั้งครั้งนี้”ประชาธิปัตย์” ต้อง”ปิดประตูแพ้” ใน”ภาคใต้”ด้วยการที่จะต้องได้ สส.อย่างน้อย 35 ที่นั่ง หรือทั้งประเทศทั้ง สส.เขต และสส.บัญชีรายชื่อ จะต้องได้ 80 เป็นอย่างต่ำ  ที่สำคัญในการเลือกตั้งครั้งนี้”ประชาธิปัตย์” มีการ”ถอดบทเรียน” ของการ”พ่ายแพ้” ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ที่เป็น”บทเรียน” ที่สำคัญ และทำการปิด”จุดอ่อน” ทุกจุด ที่เคย”ผิดพลาด”มา
    

ครั้งนี้”ประชาธิปัตย์” ไม่ใช่”ตะเกียงที่ขาดน้ำมัน” และไม่ใช่พรรคการเมืองที่ขาด”ขุนพล” เพราะได้”นิพนธ์ บุญญามณี” เป็น”ขุนพล” ที่ทำหน้าที่”ผู้อำนวยการเลือกตั้ง” ซึ่งเป็น”หัวใจ” ในการ”ขับเคลื่อน” ตั้งแต่การ”จัดทัพ” จนถึงการ”ออกรบ” ในสนามของการ”เลือกตั้ง” ซึ่ง”นิพนธ์” มี”ประสบการณ์” ทาง”การเมือง” ที่สามารถ”อ่านทิศทาง” และ”แก้เกม” ในการเลือกตั้ง มอง”ไพ่” ของ”คู่ต่อสู้”ได้อย่าง”ปรุโปร่ง”
วิธีการหนึ่งของ”นิพนธ์” ที่ใช้มาตั้งแต่”การเมือง” เข้าสู่”โหมดการเลือกตั้ง” คือการ”ปลุกพลังให้ลุกขึ้นมาสู้” ของ”สาขาพรรค” และ”สมาชิกพรรค” ตาม”ครรลอง”ของ”ประชาธิปไตย” ที่ตั้งอยู่บนความ”สุจริต” และความเป็น”สถาบันทางการเมือง”ของ”ประชาธิปัตย์” ที่เป็นพรรคการเมืองเดียว ที่ไม่มี”นายทุน” เข้ามา”สั่งการ” ให้”ซ้ายหัน-ขวาหัน” แต่เป็นพรรคการเมืองของทุกคน
    สำหรับ”จุรินทร์” แม้จะถูกมองว่าเป็น”หัวหน้าพรรค” ที่”ไร้เสน่ห์” แต่”จุรินทร์” เป็น นักการเมือง”คุณภาพ” ที่มี”ฝีมือ” ในการ”บริหารบ้านเมือง” เป็นผู้ที่วางนโยบายในการแก้ปัญหาในระยะยาว ที่ผ่านมา ไม่ว่า”จุรินทร์” ไปเป็น”เจ้ากระทรวง”ไหน ก็จะมี”นโยบาย” ของการ”พัฒนา” ที่ได้ผลและยั่งยืน ดังนั้นการ”ไร้เสน่ห์”กับการเป็นผู้ที่มี”คุณภาพ” ต้อง แยกให้ออก” ว่า”สุดท้าย” ในการ”เป็นผู้นำ” ในการ”บริหารประเทศ เราจะเลือกคนที่มี”เสน่ห์” แต่ไร้”คุณภาพ” หรือเราจะเอาคนที่มี”คุณภาพ” เพื่อคาวาม”ก้าวหน้า”ของประเทศ
    จุดแข็งของ”ประชาธิปัตย์” ในสนามเลือกตั้งภาคใต้คือ”การมีกระแสพรรค” ซึ่งสำนักที่”ทำโพล” ทุกพรรคยืนยันได้ว่า”ภาคใต้” กระแสของประชาธิปัตย์”สูงกว่าพรรคการเมืองอื่นๆ ในส่วนของ”กระสุน” ถ้าฟังการ”ปราศรัย” ของ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” เลขาธิการพรรค ที่”ปราศรัย” หลายครั้ง ก็พอจะ”อนุโลม” ได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์วันนี้ ไม่ใช่”พรรคกระยาจก” อย่างในอดีต แม้จะไม่”อู้ฟู่” อย่าง”คู่แข่ง” ทั้งพรรคเดิม และพรรคที่”เกิดใหม่” แต่ก็ไม่ถึงกับ”ยะญ่ายพ่ายจะแจ” ในการต่อสู้ทาง”ยุทธปัจจัย” ในครั้งนี้
     ที่สำคัญ”เฉลิมชัย” ยังมี”ขุนพล”ที่เหมาะกับการ”ต่อกร” กับพรรค”คู่แข่ง” ที่หวังเข้ามา”ล้ม” ประชาธิปัตย์อย่าง”เดชอิศม์ ขาวทอง” ( นายกชาย ) ที่ครั้งนี้ต้องแสดง”พลัง”ของ”เครือข่าย” ทางการเมืองในภาคใต้ และ”เครือข่าย” ผู้”สนับสนุน” เพื่อนำ”ประชาธิปัตย์” ให้ได้”ที่นั่ง” 35ที่นั่งขึ้นไป เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการ”ตัดสิน” อนาคต ทางการเมือง ครั้งสำคัญในชีวิตการเป็น”นักการเมือง”ของ”นายกชาย” ด้วยนั่นเอง
     ดังนั้น พรรคการเมืองที่คิดว่า”ป้อมค่าย” ของ”ประชาธิปัตย์” จะ”ตีแตก”ได้ง่ายๆ เพราะขาด”ทั้ง”กระแส”และ”กระสุน” รวมทั้ง  หัวหน้าพรรค”ไร้เสน่ห์” อาจจะเป็นการ”คิดผิด” และที่สำคัญ เป็นการ”ดูถูก” คน”ภาคใต้” ว่าใช้เงิน”ซื้อได้” ซึ่งก็”ไม่เถียง” ว่าเรื่อง”ซื้อเสียง”ขายเสียง” ไม่สำคัญ” แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด ที่ สำคัญอย่างเอาความ”พ่ายแพ้” ของ”ประชาธิปัตย์” ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 เป็นตัว”ชี้วัด” เพราะ ครั้งนั้นอาจจะเป็นเรื่องการ”สั่งสอน” ของ”ประชาชน” ต่อ”ประชาธิปัตย์” แต่การเลือกตั้งปี 2566 เป็นอีก”บริบท” หนึ่ง ระหว่าง”คนภาคใต้” กับ”ประชาธิปัตย์” ที่จะไม่เหมือนกับการ”เลือกตั้งเมื่อปี 2562 อย่าง แน่นอน

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา