‘วิโรจน์’ จี้ ‘อนุพงษ์’ ปลด ‘ปลัด มท.’ พ้นตำแหน่ง หลังไล่ภูเก็ตถอนตัวเจ้าภาพ Specialized Expo 2028

‘วิโรจน์’ ซัด ปลัด มท. พูดจาไม่สร้างสรรค์ ไล่ภูเก็ตถอนตัวเจ้าภาพ Specialized Expo 2028 คาดเป็นพฤติกรรมเลียนแบบนายกฯ ด้านว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกลภูเก็ตออกจดหมายเปิดผนึก เรียกร้อง ‘อนุพงษ์’ ปลด ‘สุทธิพงษ์’ พ้นตำแหน่ง - เร่งปลดล็อกท้องถิ่น ให้อำนาจจัดการภูเก็ตอยู่ในมือประชาชน

วันที่ 3 มกราคม 2566 วิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่า กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีปรากฏคลิป สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตำหนิจังหวัดภูเก็ตว่าไม่มีความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialized Expo 2028 และขอร้องให้ถอนตัวจากการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานนี้ ด้วยถ้อยคำเชิงเสียดสี ว่า การให้ความคิดเห็นเช่นนี้ของปลัดกระทรวงมหาดไทย มีแต่การบั่นทอน ไม่สร้างสรรค์ ไม่แสดงถึงภาวะผู้นำหรือแม้แต่การเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี สิ่งที่ควรจะเป็นคือไม่ว่ามีอุปสรรคอะไร ก็ต้องแก้ไขให้ลุล่วง ต้องปักธงให้งานสำเร็จ ไม่ใช่เสียดสีให้ถอนตัว ยังไม่นับว่าข้าราชการส่วนกลางไม่เคยรับรู้ความหวังของคนภูเก็ตว่าต้องการให้งานนี้ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในจังหวัดขนาดไหน แต่กลับถืออำนาจบาตรใหญ่จากส่วนกลาง

วิโรจน์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังนิ่งเฉยต่อพฤติกรรมของปลัดกระทรวงมหาดไทยว่า น่าตั้งคำถามถึงเส้นสายของปลัดกระทรวงมหาดไทย ทั้งที่เกิดกรณีที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมขนาดนี้ แต่รัฐมนตรีกลับเลือกเอาหูไปนาเอาตาไปไร่

“ปลัดสุทธิพงษ์คงดูคลิปคุณประยุทธ์มาเยอะ เช่น ทุ่มโพเดียม ขว้างกล้วย ดังนั้น พูดให้ถึงที่สุด ปลัดคนนี้คงอยู่รอด เพราะพฤติกรรมที่แสดงออก เป็นไปได้ว่าเลียนแบบเอาอย่างมาจากนายกรัฐมนตรี เมื่อ พล.อ.อนุพงษ์ เห็นว่าเลียนแบบมาจากคนที่ใหญ่กว่าตน ก็เลยไม่กล้าแตะ” วิโรจน์กล่าว

ขณะเดียวกัน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต พรรคก้าวไกลทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย สมชาติ เตชถาวรเจริญ เขต 1 ฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล เขต 2 และเฉลิมพงศ์ แสงดี เขต 3 ได้ร่วมออกจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยทบทวนความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ของปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยระบุว่า ไม่ว่าข้อเท็จจริงเรื่องความพร้อมของจังหวัดภูเก็ตในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialized Expo 2028 จะเป็นอย่างไร 

ปลัดกระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้บังคับบัญชาของข้าราชการ มีหน้าที่เสนอแนะให้ความช่วยเหลือเพื่อปรับปรุงแผนการบริหารจัดการให้ดีขึ้น ไม่ใช่พูดจาเหยียดหยามและตัดโอกาสในการพัฒนาจังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นยังแสดงให้เห็นปัญหาของรัฐราชการรวมศูนย์ของประเทศไทย ที่ทำให้ชะตากรรมของคนจังหวัดภูเก็ตต้องอยู่ภายใต้การทำงานที่ขาดประสิทธิภาพและการตัดสินใจที่ขาดความเข้าใจพื้นที่ของข้าราชการส่วนกลาง จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้พิจารณาปลดปลัดกระทรวงมหาดไทยออกจากตำแหน่ง เพื่อให้คนที่มีความเหมาะสมมากกว่าเข้ามาทำหน้าที่ และขอให้เร่งผลักดันให้มีการกระจายอำนาจสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้ประชาชนในท้องถิ่นมีอำนาจกำหนดชะตาชีวิตของตนเองอย่างแท้จริง