'ครูแก้ว' จ่อฟ้อง 'ทนายตั้ม-ไฮโซสาว' หลังโยงปมลวงเงินช่วยเคลียร์คดี 25 ล้าน

วันที่ 4 ธ.ค. 65 เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ศูนย์ประสานงานพรรคภูมิใจไทย จ.นครพนม นายศุภชัย โพธิ์สุ  ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 แถลงชี้แจงกรณีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม กล่าวหาว่าอดีตผู้ช่วยเลขานุการรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายก อบจ.จังหวัดหนึ่ง และเป็นสามีไม่ได้จดทะเบียนสมรสของนายก อบจ.ดังกล่าว ได้ลวงเงินจำนวน 25 ล้านบาท จากนักธุรกิจสาวไฮโซ เพื่อหลอกช่วยเคลียร์คดี โดยยอมรับว่า เคยรู้จักกับผู้ช่วยฯ คนดังกล่าวจริง หลังจากได้เข้ามาขอช่วยงานในช่วงที่ตนได้รับตำแหน่งรองประธานสภาฯ 

ทั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่ามีโปรไฟล์ดี ตนจึงแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรองประธานสภาฯ และได้มอบหมายให้มาช่วยงานลูกสาว หลังจากได้รับการเลือกตั้งให้เป็นนายก อบจ.นครพนม แต่หลังจากทำงานได้ 2-3 เดือน บุคคลดังกล่าวได้ลาออกไป โดยให้เหตุผลว่าไม่เหมาะสมกับงาน และไม่ได้ติดต่อหรือเกี่ยวข้องกันอีก  

“ที่ผ่านมา ผมรู้สึกชื่นชมทนายตั้มมาโดยตลอด ที่ให้ความช่วยเหลือคน แต่พอมาเจอกับตัวเอง ทำให้รู้สึกว่า ทนายตั้มรับข้อมูลด้านเดียว และหากเรื่องใดที่เป็นการเมืองก็จะพยายามเข้ามายุ่ง และลากให้เป็นประเด็น ซึ่งส่วนตัวไม่เข้าใจว่า หากมีการต้มตุ๋นกันเกิดขึ้น เหตุใดจึงไม่ไปฟ้องร้องดำเนินคดี ซึ่งหากกระทำผิดก็ไปสู้กัน แต่สิ่งที่ผมรู้สึกไม่สบายใจ คือการเอาเรื่องลูกสาวมาประกาศต่อสาธารณะว่าเป็นภรรยาที่ไม่จดทะเบียน ทั้งที่ลูกผมเป็นโสด และแม้ว่ากินข้าวกับผู้ชายคนนี้ก็ไม่เคยกินตามลำพัง จึงถือว่าเป็นการทำให้ลูกสาวผม และตัวผม ตลอดจนครอบครัวได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียเกียรติยศ เพราะลูกสาวผมมีหน้ามีตาในสังคม ไม่มีพฤติกรรมเสื่อมเสีย และผมก็ยังหวังว่าจะได้ลูกเขย จึงจำเป็นที่จะฟ้องดำเนินคดีกับทนายตั้ม และผู้ให้ข้อมูลภายในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม หากทนายตั้มแถลงขอโทษก็อาจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งผมเป็นลูกผู้ชายพอ” นายศุภชัย กล่าว

นอกจากนี้ นายศุภชัย ยังกล่าวต่อด้วยว่า ในส่วนที่มีการพาดพิงนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทยนั้น ส่วนตัวยังไม่ได้ชี้แจงทำความเข้าใจ มีเพียงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคฯ ที่ได้โทรศัพท์สอบถาม และให้ตนชี้แจงไปตามความจริง