สุดชื่นมื่น!! 'บิ๊กป้อม' พบปะผู้สมัคร ส.ส. อีสาน ในงาน 'พลังประชารัฐ มัดใจประชาชน'

ที่จังหวัดหนองบัวลำภู พรรคพลังประชารัฐ จัดงาน 'พลังประชารัฐ มัดใจประชาชน' ซึ่งงานในครั้งนี้มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อีสานเหนือและแกนนำพรรคพลังประชารัฐเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพียง นำมาโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. สจ.ประภาลักษณ์ สิทธิ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. หนองบัวลำภู เขต 3, ว่าที่ พ.ต.สรชาติ วิชย สุวรรณพรหม, ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. หนองบัวลำภู เขต 2, นพ.กันณพงศ์ อัครไชยพงศ์, ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ขอนแก่น เขต 11, น.ส.กัญจน์พร วงศ์เวไนย, ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส ร้อยเอ็ด เขต 4 และนายสมรักษ์ คำสิงห์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ขอนแก่น เขต 10

โดยบรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างชื่นมื่น ซึ่งงานในครั้งนี้ได้มีการจัดเวทีเสวนาขึ้น เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้สมัคร ส.ส. กับชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อสรุปเป็นแนวนโยบายเสนอต่อพล.อ.ประวิตร นำโดยว่าที่ผู้สมัครในพื้นที่ ดังนี้...

สจ.ประภาลักษณ์ กล่าวว่า "ปัญหาหลักของหนองบัวลำภูคือโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งถนนสายหลัก และถนนสายรอง ขอยกตัวอย่างถนนสายหลัก ที่เป็นปัญหาหนักตอนนี้ คือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 210 สายอุดรธานี-วังสะพุง เป็นทางหลวงแผ่นดินแนวตะวันออก-ตะวันตกที่เชื่อมต่อจังหวัดอุดรธานี จังหวัดหนองบัวลำภู และจังหวัดเลยเข้าด้วยกัน มีปลายทางทิศตะวันออกบนถนนวงแหวนรอบเมืองอุดรธานี หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 216 ในอำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ปัญหาหลักอีกเรื่องคือเรื่องนํ้า เพราะประชากรส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร ประกอบอาชีพทำการเกษตร เลี้ยงสัตว์ จังหวัดหนองบัวลำภูยัง ขาดน้ำเพื่อการเกษตร มีน้ำไม่เพียงพอในการทําการเกษตร เนื่องจากไม่มีที่เก็บน้ำไว้ใช้ ที่สามารถใช้ทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำลำพะเนียงคือ อยากให้มีที่กั้นน้ำไว้เป็นช่วงๆ เพื่อใช้ในการทำการเกษตร และดึงน้ำจากพะเนียงส่งไปเก็บ และกระจายไปยังตำบลต่างๆ ให้ทั่วถึง"

ว่าที่พันตรี สรชาติ กล่าวว่า "ผมกับท่านรัฐมนตรีสันติอยู่ด้วยกันมาหลายสิบปี วันนี้ก็ดีใจได้ไปอยู่ที่กระทรวงการคลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านรัฐมนตรีท่านเป็นประธานคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เลือกตั้งครั้งที่แล้วผมได้มีโอกาสไปช่วยผู้สมัครหาเสียง ที่จังหวัดหนองบัวลำภูรู้เลยว่าพี่น้องอยากได้บัตรประชารัฐกันมาก แต่เราไม่สามารถเอาให้เขาได้ในขนาดนั้น ผมคุยกับท่านรัฐมนตรีสันติยังไงเราก็ต้องมีโอกาสเปิดให้ลงทะเบียนบัตรประชารัฐรอบใหม่ เพื่อให้พี่น้องชาวหนองบัวและทั่วประเทศได้รับบัตรที่อยากได้และต้องการจริงๆ และผมเชื่อแน่ว่า 'บัตรประชารัฐ' นี่ละจะทำให้เราได้ผู้แทนทุกจังหวัด"

นพ.กันณพงศ์ กล่าวว่า "ในฐานะที่ผมเป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีความตั้งใจ และมุ่งมั่น จะพัฒนาและสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นให้ประเทศของเรา จึงขออาสา และ ขอโอกาสให้ผม หมอโน่ นพ.กันณพงศ์ อัครไชยพงศ์ ได้ร่วมอุดมการณ์ ไปกับพรรคพลังประชารัฐและผมมั่นใจว่า จะเป็นกำลังที่สำคัญของพรรค ที่จะทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนต่อไปครับ"

น.ส.กัญจน์พร กล่าวว่า "การเปลี่ยนการเมืองให้เป็นพลัง ด้วยการทำกิจกรรมกับพี่น้องประชาชนในหลายด้านทั้งทางด้านพลังใจ พลังกาย และพลังความรู้ พลังใจ ไม่ว่าจะเป็นโครงการสอนทำปุ๋ยพลังใจ สอนชาวนาทำปุ๋ยน้ำหมักรำข้าวใช้เอง ทดแทนปุ๋ยเคมีในภาวะปุ้ยแพงในวิกฤตพลังงาน โครงการปุ๋ยพลังใจ ลดต้นทุนการผลิต สร้างอาชีพ ลดรายจ่ายภาคเกษตร ลดหนี้ สร้างรายได้ สร้างพลังใจให้ชาวนาชาวสวนชาวไร่ภาคการเกษตร พลังกาย ผ่านสายยางวิเศษ ภูมิปัญญาการยืดเส้นเพื่อดูแลสุขภาพตัวเอง และพลังของความรู้ภูมิปัญญา โดยการเข้าไปทำงานสร้างความรู้ต่อยอดภูมิปัญญาอยู่กับพี่น้องประชาชน"

ทางด้าน นายสมรักษ์ ขึ้นกล่าวว่า "ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ผมตัดสินใจร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ เชื่อหรือไม่ครับ วันนั้นโซเชียลถล่มผมเละเลย แต่ด้วยใจที่หนักแน่นของผม ชีวิตผมต่อยมวยมาตั้งแต่เด็ก ใครด่าผมก็ช่างเพราะผมได้เลือกแล้วว่า ชีวิตหลังจากนี้เราอยากจะทำเพื่อบ้านเกิด เพื่อพี่น้องประชาชน"

ปิดท้ายด้วย พล.อ.ประวิตร ได้ขึ้นกล่าวกับบรรดาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อีสานเหนือและแกนนำพรรค ว่า...

"วันนี้ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาพบสมาชิกพรรคพลังประชารัฐทุกท่าน เราจะเปลี่ยนพรรคพลังประชารัฐให้เป็นพลังเพื่อชาติ เพื่อที่จะให้ทุกคนได้รวมกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อทำงานให้กับประเทศชาติให้เกิดความก้าวหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งมีรายได้น้อยเป็นลำดับที่ 76 ปีหน้าเราจะทำให้ขึ้นมาอย่างน้อย 10 อันดับ จะพัฒนาให้เรื่องน้ำ คน ยานพาหนะ รวมไปถึงเส้นทางต่างๆ ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับทุกจังหวัดอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดไหนงาน 

"งาน 'พลังประชารัฐ มัดใจประชาชน' ครั้งนี้คือความตั้งใจของตัวผมที่อยากจะเปิดพื้นที่ให้ประชาชน ผู้สมัคร แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกัน แลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างเป็นกันเอง เพราะฉะนั้นทุกจังหวัดที่มาในวันนี้ ก็อยากให้พูดคุยกัน มีอะไรอยากให้พรรคพลังประชารัฐได้ดำเนินการ เราต้องแลกเปลี่ยน ด้วยบรรยากาศแบบพี่ๆ น้องๆ สอดคล้องกับแนวคิด 'ผ้าขาวม้าเชื่อมโลก' ซึ่งเป็นความตั้งใจของทั้งรัฐบาล ที่อยากจะให้ภาคอีสานเป็นเสมือน 'ตัวกลาง' เชื่อมไทยกับโลก พร้อมทั้งรองรับการขนส่งผู้คนและสินค้าไปมาระหว่างกัน ไม่ว่าจะทั้งทางราง ทางบก และทางอากาศ 

"เมื่อพื้นฐานเราแข็งแรง ต่างชาติเขาเชื่อมั่น มันก็ช่วยสร้างงานให้คนในพื้นที่ เศรษฐกิจดี การท่องเที่ยวก็จะตามมา นี่คือความตั้งใจของรัฐบาลที่อยากให้พี่น้องอยู่ดีกินดี ผมเชื่อมั่นในความสามารถของทุกท่าน ที่จะทำให้เกิดความคิดที่จะทำด้วยหัวใจ ด้วยใจบันดาลแรง ที่ผมบอกใจบันดาลแรงนั้นไม่ใช่แรงบันดาลใจ เพราะผมอายุ 78 แล้ว เพราะฉะนั้นจึงต้องใช้ใจบันดาลแรง เพื่อจะเอาแรงนี้ไปช่วยพี่น้องคนไทยและประเทศชาติ มีความสมบูรณ์ มีความเป็นหนึ่งเดียวให้ได้ พวกเราทุกคนตลอดจนลูกหลานของเราจะมีความสุขตลอดไป ถ้าทุกคนได้ร่วมมือร่วมใจกัน ในการที่จะทำเพื่อประเทศชาติและการทำงานเสียสละเพื่อพี่น้องประชาชน 

"ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ให้ความร่วมแรงร่วมใจเพื่อพรรคพลังประชารัฐของเราจะได้มีความเจริญก้าวหน้า พรรคนี้ไม่ได้เป็นพรรคของใครหรือคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นพรรคของทุกคนที่เป็นสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐ เราจะทำให้เป็นองค์กรทางการเมืองที่มีความเข้มแข็งต่อในอนาคต เพื่อประชาชนคนไทยทุกคน"