'เพื่อไทย' เปิดตัว Telemedicine ต่อยอด 30 บาทรักษาทุกโรค ด้านชาวเน็ตจับโป๊ะ 'อนุทิน' เดินหน้าโครงการนี้ตั้งแต่ปี 62

จากกรณีที่ พรรคเพื่อไทย ได้มีแนวคิดจัดทำนโยบาย ต่อยอดโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค โดยวางแผนใช้ Telemedicine คนพื้นที่ห่างไกล พบหมอไม่ต้องไปถึงโรงพยาบาลประจำอำเภอ  

อย่างไรก็ตามโลกโซเชียลได้มีการแชร์การเปิดตัว Telemedicine ดังกล่าวเป็นการเคลมผลงานรัฐบาล เพราะมีการใช้กันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว โดยเกี่ยวกับเรื่องนี้ต้องย้อนไปเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2562 พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้ให้สัมภาษณ์ว่า จากการติดตามนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่จ.นครราชสีมาเมื่อช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อติดตามการแก้ปัญหาผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล และปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านสาธารณสุข โดยนายอนุทิน ให้เข้ามาช่วยงานในนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงสาธารณสุข คือการปฏิรูประบบสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพ โดยใช้ระบบโทรเวชกรรม หรือ “Telemedicine” เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินงาน ซึ่งปัจจุบันปัญหาของระบบสาธารณสุขของไทย คือเรามีผู้ป่วยที่ไม่มีความจำเป็นต้องไปโรงพยาบาลมากถึงร้อยละ 25 ของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล รวมทั้งเรากำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จึงทำให้บุคลากรทางการแพทย์จะต้องรับงานหนักเกินความจำเป็น และใช้งบประมาณมากเกินความจำเป็น รวมไปถึงการเดินทางทำให้ประชาชนเสียค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุ และไทยก็เป็นประเทศที่มีค่าเฉลี่ยแพทย์ 1 คนต่อประชากรที่สูงมาก คือแพทย์ 1คน ต่อ ประชากร 2,065 คน ขณะที่ องค์การอนามัยโลกได้กำหนดค่าเฉลี่ยแพทย์ 1 คน ต่อจำนวนประชากรอยู่ที่ 439 คน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ชนบทและพื้นที่ห่างไกลยังขาดโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์

พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อขับเคลื่อนโครงการพัฒนาและการประยุกต์ใช้งานบริการทางการแพทย์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชนบท “Telemedicine” เพื่อยกระดับการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของประชาชนในพื้นที่ชนบทผ่านโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (Zone C) และพื้นที่ชายขอบ (Zone C+) ซึ่งผู้ป่วยเหมือนได้เดินทางไปรับคำปรึกษาจากแพทย์ด้วยตัวเอง ทำให้ได้รับคำปรึกษาได้อย่างทันเวลา และยังช่วยลดความแออัดของจำนวนคนไข้ ลดภาระของแพทย์ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในเมือง ซึ่งระบบโทรคมนาคมเฉพาะทางเพื่อรองรับระบบดูแลสุขภาพทางไกล เช่น การใช้ซอฟต์แวร์ที่มีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยในการคัดกรองโรค ระบบให้คำปรึกษาด้านสุขภาพทางไกล เป็นต้น ทั้งนี้สำนักงาน กสทช. ได้ดำเนินการตามกรอบความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ในระยะเริ่มต้น 8 จังหวัด และในอนาคตจะขยายไปสู่พื้นที่ชนบทอื่นทั่วประเทศ

“ผมเคยผ่านงานระดับชาติมาบ้าง แต่ยังรู้สึกกดดันอยู่บ้าง เพราะโครงการนี้เป็นความหวังของพี่น้องประชาชนในชนบท และเป็นการช่วยเหลือโรงพยาบาล ช่วยเหลือแพทย์ด้วย แต่ยังรู้สึกภูมิใจมากกว่าที่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนนโยบายที่สำคัญของพรรค ซึ่งต้องขอขอบคุณท่านหัวหน้าพรรคที่ให้ความไว้วางใจ ให้ตนได้เข้ามามีส่วนช่วยเหลืองานจะใช้ความรู้ความสามารถช่วยเหลือให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จให้ได้”พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าว


ที่มา: https://www.facebook.com/101693705424989/posts/pfbid023PpSgca9ii7sq7D4jTB9TBaUnGhJ5HU61RRp5BJ8mG1m9tpMF8SuSTGM7GomgAHKl/

https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1635648