Sunday, 19 May 2024
30บาทรักษาทุกโรค

'เพื่อไทย' เปิดตัว Telemedicine ต่อยอด 30 บาทรักษาทุกโรค ด้านชาวเน็ตจับโป๊ะ 'อนุทิน' เดินหน้าโครงการนี้ตั้งแต่ปี 62

จากกรณีที่ พรรคเพื่อไทย ได้มีแนวคิดจัดทำนโยบาย ต่อยอดโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค โดยวางแผนใช้ Telemedicine คนพื้นที่ห่างไกล พบหมอไม่ต้องไปถึงโรงพยาบาลประจำอำเภอ  

อย่างไรก็ตามโลกโซเชียลได้มีการแชร์การเปิดตัว Telemedicine ดังกล่าวเป็นการเคลมผลงานรัฐบาล เพราะมีการใช้กันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว โดยเกี่ยวกับเรื่องนี้ต้องย้อนไปเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2562 พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้ให้สัมภาษณ์ว่า จากการติดตามนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่จ.นครราชสีมาเมื่อช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อติดตามการแก้ปัญหาผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล และปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านสาธารณสุข โดยนายอนุทิน ให้เข้ามาช่วยงานในนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงสาธารณสุข คือการปฏิรูประบบสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพ โดยใช้ระบบโทรเวชกรรม หรือ “Telemedicine” เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินงาน ซึ่งปัจจุบันปัญหาของระบบสาธารณสุขของไทย คือเรามีผู้ป่วยที่ไม่มีความจำเป็นต้องไปโรงพยาบาลมากถึงร้อยละ 25 ของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล รวมทั้งเรากำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จึงทำให้บุคลากรทางการแพทย์จะต้องรับงานหนักเกินความจำเป็น และใช้งบประมาณมากเกินความจำเป็น รวมไปถึงการเดินทางทำให้ประชาชนเสียค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุ และไทยก็เป็นประเทศที่มีค่าเฉลี่ยแพทย์ 1 คนต่อประชากรที่สูงมาก คือแพทย์ 1คน ต่อ ประชากร 2,065 คน ขณะที่ องค์การอนามัยโลกได้กำหนดค่าเฉลี่ยแพทย์ 1 คน ต่อจำนวนประชากรอยู่ที่ 439 คน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ชนบทและพื้นที่ห่างไกลยังขาดโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์

พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อขับเคลื่อนโครงการพัฒนาและการประยุกต์ใช้งานบริการทางการแพทย์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชนบท “Telemedicine” เพื่อยกระดับการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของประชาชนในพื้นที่ชนบทผ่านโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (Zone C) และพื้นที่ชายขอบ (Zone C+) ซึ่งผู้ป่วยเหมือนได้เดินทางไปรับคำปรึกษาจากแพทย์ด้วยตัวเอง ทำให้ได้รับคำปรึกษาได้อย่างทันเวลา และยังช่วยลดความแออัดของจำนวนคนไข้ ลดภาระของแพทย์ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในเมือง ซึ่งระบบโทรคมนาคมเฉพาะทางเพื่อรองรับระบบดูแลสุขภาพทางไกล เช่น การใช้ซอฟต์แวร์ที่มีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยในการคัดกรองโรค ระบบให้คำปรึกษาด้านสุขภาพทางไกล เป็นต้น ทั้งนี้สำนักงาน กสทช. ได้ดำเนินการตามกรอบความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ในระยะเริ่มต้น 8 จังหวัด และในอนาคตจะขยายไปสู่พื้นที่ชนบทอื่นทั่วประเทศ

‘จุฑาพร’ โว พท. พร้อมยกระดับประกันสุขภาพถ้วนหน้า ใช้บัตรปชช.ใบเดียว เข้ารักษาได้ทุกที่ทั่วประเทศ

จุฑาพร ชี้ หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาล พร้อมยกระดับประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ 30 บาท รักษาทุกโรค ตรวจสุขภาพเชิงรุก เปลี่ยนประเทศด้วยเทคโนโลยี บัตรประชาชนใบเดียว รักษาได้ทุกสถานพยาบาล ประชาชนคุณภาพชีวิตดีขึ้น 

จุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต บางรัก สาทร ปทุมวัน และ โฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่คุณแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานด้านนวัตกรรมและการมีส่วนร่วม พรรคเพื่อไทย ได้ประกาศนโยบายของพรรคเพื่อไทยหลายด้าน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีหลายประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ ทางด้านการบริการสาธารณสุขสำหรับประชาชน ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญมาก ส่งผลโดยตรงต่อการใช้ชีวิตของประชาชนในแต่ละวัน พรรคเพื่อไทยพร้อมยกระดับโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาท รักษาทุกโรค มีบริการสาธารณสุขเชิงรุก อาทิ เช่น การให้บริการฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกฟรีในเด็กหญิงอายุ 9 -11 ปี เป็นวัยที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี และมีประสิทธิภาพสูงสุด และฉีดวัคซีนให้ผู้หญิงที่ยังไม่ติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV : Human Papilloma Virus) อีกทั้งยังจะมีการตรวจและรักษาไวรัสตับอักเสบ-ซี ซึ่งโรคดังกล่าวจะเป็นการป้องกันมะเร็งตับที่เป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของมะเร็งในผู้ชาย ซึ่งปัจจุบันวัคซีนมะเร็งปากมดลูก มีราคาที่ค่อนข้างสูงมาก การฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกนั้น สามารถป้องกันมะเร็งได้หลายชนิด นอกจากนี้ ยังควรรณรงค์ให้มีการฉีดวัคซีน HPV ในผู้ชายด้วย เพราะผู้ชาย และเพศทางเลือกเองก็มีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส และก่อให้เกิดมะเร็งชนิดอื่น ๆ ได้เหมือนกัน

'เพื่อไทย' ปล่อยคลิป ยกระดับ '30 บาท รักษาทุกโรค' ชูระบบเทคโนโลยีทันสมัย บริการได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

(24 ก.พ. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 23 ก.พ. พรรคเพื่อไทย (พท.) เผยแพร่คลิปวิดีโอผลงานโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค ระบุข้อความว่า โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ประสบความสำเร็จมาแล้ว โดยในอนาคต คือ การยกระดับโครงสร้างสาธารณสุขไทยทั้งระบบ ให้สมบูรณ์และดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

ใกล้ใจ - เลือกหมอ เลือกโรงพยาบาลด้วยตัวเอง
ง่ายดาย - บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทั่วไทย
ครบครัน - ใช้ฐานข้อมูล Cloud ทั้งระบบ
รวดเร็ว - รักษาและจ่ายยาออนไลน์
ปลอดภัย - ข้อมูลผู้ป่วยไม่รั่วไหล
สะดวก - นัดคิวออนไลน์ ไม่ต้องรอคิวนาน ๆ
ทันใจ - ตรวจเลือดคลินิกใกล้บ้าน เจอหมออีกวันได้เลย
โปร่งใส - ลดภาระของผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์

ระดมฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกฟรีให้เด็กหญิงอายุตั้งแต่ 9-11 ปีทุกคน และผู้หญิงที่ยังไม่เคยรับเชื้อ HPV

ป้องกันมะเร็งท่อน้ำดี-มะเร็งตับ ตรวจคัดกรองพยาธิใบไม้ในตับและไวรัสตับอักเสบ ซี รับยา รักษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

Mental Health สุขภาพจิตคนไทยจะไม่ถูกละเลย มีการให้คำปรึกษาจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยาคลินิก ทั้งที่โรงพยาบาลและผ่านระบบ Telemedicine

'ชัยวุฒิ' ทวนความจำ '30 บาท' ยุค พปชร. ตอบโจทย์ อุดรอยรั่ว '30 บาท' ยุครบ.เสียอำนาจ ที่เอาแต่เคลม

'ชัยวุฒิ' ซัด บางพรรคย้อนอดีต เกลียดปฏิวัติ เหน็บ เพราะเสียอำนาจ เย้ย '30 บาท ตายทุกโรค' ทำวุ่น เคลม รัฐบาลปัจจุบัน ปลดล็อกได้

(19 มี.ค.66) ที่สนามกีฬาสมโภชน์ 700 ปี จ.เชียงใหม่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวปราศรัยตอนหนึ่ง ว่า บางพรรคพูดถึงผลงานตัวเองเมื่อ 20 ปีที่แล้ว พูดแต่เรื่องเก่า เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค สมัยก่อนมีปัญหามากแถวบ้านตนเรียก 30 บาท ตายทุกโรค เพราะโรงพยาบาลและรัฐบาลเจ๊ง เงินไม่พอ กว่าจะแก้ปัญหามาได้เหนื่อยมาก แต่รัฐบาลนี้ทำมาแล้ว ไม่ต้องไปดูป้ายหาเสียงพรรคไหน เพราะ พรรคพปชร.ทำมาแล้ว 

‘เศรษฐา’ เรียก รมต.ติดตามงาน ก่อนประชุมช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล พร้อมจับตา!! ‘เศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง’ คิกออฟ ‘30 บาทพลัส’ นัดแรก 24 ต.ค.นี้

(23 ต.ค. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางเข้ากระทรวงการต่างประเทศ เพื่อเป็นประธานการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินความไม่สงบในอิสราเอล-กาซา (RRC)

ก่อนการประชุมดังกล่าวนายกฯ ได้เรียกรัฐมนตรีมาหารือนอกรอบ ประกอบด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน, นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เพื่อติดตามความคืบหน้าการช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอล รวมถึงเรื่องการช่วยเหลือตัวประกัน นอกจากนี้จะมีหารือ เรื่องการแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน และการเตรียมข้อมูลด้านเอกสารในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่  24 ต.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในวันที่ 24 ต.ค.เวลา 13.00 น. ภายหลังการประชุมครม.นายกฯ จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 1 /2566 โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะรองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพ เข้าร่วมประชุมด้วย

นอกจากนี้ยังมี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กรรมการและเลขานุการฯ เพื่อประชุมพิจารณาหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ 30 บาทรักษาทุกโรคพลัส ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทยในการหาเสียงในช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมา

‘นายกฯ’ ยัน!! เดินหน้าต่อยอด ‘30 บาทรักษาทุกโรค’  เพื่อยกระดับชีวิตคนไทย คาด!! ปีหน้าเสร็จสมบูรณ์

(12 พ.ย.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่าน X (ทวิตเตอร์เดิม) ระบุว่า “เดินหน้าต่อ 30 บาทรักษาทุกโรคยกระดับเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่าของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนครับ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐาได้แนบลิงก์ บทสัมภาษณ์ของนายแพทย์สุรพงศ์ สืบวงศ์ลี ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ถึงความคืบหน้าการ ใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาสุขภาพทุกเครือข่าย ซึ่งต่อยอดนโยบาย 30 บาทของพรรคเพื่อไทย (พท.) ซึ่งชี้ให้เห็นว่าโครงการดังกล่าวมีความคืบหน้า 80 เปอร์เซ็นต์ โดยนำร่องรักษา 4 จังหวัด และภายในปี 2567 จะสมบูรณ์ทั้งระบบ และคาดว่าในอนาคตเตรียมพร้อมรับ 2 สิทธิ คือ ข้าราชการและประกันสังคม

แยกให้ออก!! ‘สิทธิบัตรทอง VS สิทธิประกันสังคม’ ต่างกันอย่างไร?

‘การรักษาพยาบาล’ เป็นเรื่องน่ากังวลลำดับด้น ๆ ของคนไทย เนื่องจากมีภาพจำว่าจะต้องเสียเงินจำนวนมากต่อการเจ็บป่วยในแต่ละครั้ง และหากต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลก็จะทำให้ขาดรายได้ สูญเสียโอกาสทำมาหากิน และส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพเป็นทอดๆ

แต่สิ่งที่เข้ามาช่วยเหลือ ช่วยบรรเทาทุกข์ให้เบาลงก็คือ ‘สิทธิบัตรทอง’ และ ‘สิทธิประกันสังคม’ ซึ่งทั้ง 2 สิทธินี้มีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน วันนี้ THE STATES TIMES ได้รวบรวมเงื่อนไขการใช้สิทธิมาให้แล้ว จะแตกต่างกันอย่างไร มาดูกันค่ะ…

👉บัตรทองหรือบัตร 30 บาท (สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ)
 📌ไม่มีค่าใช้จ่าย ใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และไม่มีวงเงิน เพียงลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการหรือสถานพยาบาลประจำตัวแล้วใช้สิทธิได้ทันทีโดยใช้บัตรประชาชนใบเดียว
 📌ใช้กับสถานพยาบาลประจำที่ลงทะเบียนไว้ หรือเจ็บป่วยต่างพื้นที่เข้าสถานพยาบาลปฐมภูมิที่ไหนก็ได้
 📌เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติถึงแก่ชีวิต (สีแดง) เข้าสถานพยาบาลรัฐและเอกชนที่อยู่ใกล้ (สิทธิ UCEP เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิทุกที่)

 📌มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย/เบื้องต้น ไม่ว่าสิทธิบัตรทองจะอยู่ที่สถานพยาบาลใด ก็เข้ารับบริการตามรายการนี้ได้
✅️เจ็บป่วยเล็กน้อย 16 กลุ่มโรค/อาการ ปรึกษาเภสัชกรและรับยาที่ร้านยากว่า 1,000 แห่งที่เข้าร่วมได้ทั่วประเทศ
✅️เจ็บป่วยเล็กน้อย 32 กลุ่มโรค/อาการ รับบริการที่คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่นกว่า 600 แห่งที่เข้าร่วมได้ทั่วประเทศ
✅️เจ็บป่วยเบื้องต้น 42 กลุ่มโรค/อาการ พบหมอออนไลน์ รอรับยาจัดส่งถึงบ้านได้ในพื้นที่ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล 5 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสาคร

 📌การย้ายหรือเปลี่ยนสถานพยาบาลประจำตัวทำได้ 4 ครั้งต่อปีงบประมาณ ใช้สิทธิได้ทันทีเมื่อเปลี่ยนแล้ว
 📌ครอบคลุมการบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข สร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ตรวจวินิจฉัยโรค การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสมรรถภาพที่จำเป็น
 📌ครอบคลุมค่าอาหารและค่าห้องสามัญเมื่อต้องแอดมิทที่โรงพยาบาล
 📌ได้เพียงสิทธิรักษาฟรี (บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข) ไม่มีเงินชดเชยว่างงาน เกษียณ เสียชีวิต เหมือนประกันสังคม

--------------

👉ประกันสังคม (ผู้ประกันตน)
 📌ต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนทุกเดือน ตามเงื่อนไขจึงจะสามารถใช้สิทธิได้
 📌ใช้กับโรงพยาบาลที่เลือกสิทธิไว้ กรณีฉุกเฉินเข้าที่ไหนก่อนก็ได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย
 📌เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติเข้าสถานพยาบาลรัฐและเอกชนที่อยู่ใกล้ (สิทธิ UCEP เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติมีสิทธิทุกที่)
 📌ใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ไม่มีวงเงิน และไม่เสียค่าใช้จ่ายครอบคลุมการบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข สร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ตรวจวินิจฉัยโรค การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสมรรถภาพที่จำเป็น
 📌การย้ายสถานพยาบาลประจำตัวย้ายได้ปีละ 1 ครั้ง
 📌ถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน ไม่เกิน 900 บาท/ปี
 📌ค่าห้องและค่าอาหาร ไม่เกิน 700 บาท/วัน
 📌ได้รับเงินชดเชย กรณีว่างงาน เกษียณ เสียชีวิต

💢หมายเหตุ:
1. บัตรทองหรือบัตร 30 บาทมีได้ทุกคน หากไม่มีสวัสดิการรักษาพยาบาลอื่นของรัฐ (ประกันสังคม สวัสดิการข้าราชการและครอบครัว เป็นต้น)
2. พนักงานบริษัทได้สิทธิประกันสังคมอัตโนมัติ
3. กรณีลาออกจากงาน และไม่อยากส่งประกันสังคมต่อ (มาตรา 39 ) สามารถใช้สิทธิบัตรทองหรือบัตร 30 บาทได้ แต่ต้องลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการประจำก่อน

4. ผู้ประกันตนมาตรา 40 ใช้สิทธิ ‘บัตรทองหรือบัตร 30 บาท’ รักษาพยาบาล หรือหากได้รับสิทธิเบิกจ่ายตรงจากกรมบัญชีกลาง ก็ยังคงได้รับสิทธิได้ตามปกติ (มาตรา 40 ไม่ได้ให้ความคุ้มครองในเรื่องค่ารักษาพยาบาล แต่ให้เป็นเงินทดแทนการขาดรายได้ กรณีประสบอันตราย/เจ็บป่วย และกรณีทุพพลภาพ รวมถึงได้รับเงินค่าทำศพ กรณีตาย ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด)

หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โทรสายด่วน สปสช. 1330 กด 0 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง (โทรฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย)


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top