การประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ ๖ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๕

วันที่ ๘ กันยายน  ๒๕๖๕ เวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา กองบัญชาการกองทัพไทย จัดการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ ๖ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๕ โดยมี พลเอก เฉลิมพล  ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน พร้อมด้วย ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการทหารเรือ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมกองทัพอากาศ กองบัญชาการกองทัพอากาศ เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ

การประชุมฯ ในครั้งนี้ที่ประชุมได้รับทราบข้อมูลที่สำคัญของกองบัญชาการกองทัพไทย เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดังนี้
กองบัญชาการกองทัพไทย ได้นำเสนอการพัฒนาขีดความสามารถเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการร่วมในภาพรวมของกองทัพไทย ประกอบด้วย การพัฒนาขีดความสามารถศูนย์บัญชาการทางทหาร ด้วยการพัฒนาคน เครื่องมือ เทคโนโลยี และระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ให้มีความพร้อมสามารถรองรับภัยคุกคามและภัยพิบัติได้ทุกรูปแบบ การพัฒนาขีดความสามารถด้านไซเบอร์ โดยบูรณาการการปฏิบัติร่วมกับเหล่าทัพอย่างต่อเนื่อง 

ทั้งด้านการปฏิบัติการทางไซเบอร์ การพัฒนาบุคลากรด้านไซเบอร์ และการฝึกทางไซเบอร์ ระบบสารสนเทศเพื่อการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเป็นระบบที่สามารถแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ในพื้นที่ได้เตรียมการ เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนได้นำเสนอแผนการดำเนินงานที่สำคัญในปี ๒๕๖๖ ได้แก่ การพัฒนาขีดความสามารถศูนย์บัญชาการทางทหาร ระยะที่ ๒ ระบบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ระบบสารสนเทศการส่งกำลังบำรุงกองทัพไทย และระบบงานแผนที่เพื่อสนับสนุนภารกิจด้านความมั่นคงของกองทัพไทย

กองทัพบก ได้นำเสนอผลการปฏิบัติงานที่สำคัญในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๕ ในด้านต่าง ๆ ได้แก่ 
ด้านกำลังพล ได้จัดทำโครงการรับสมัครทหารกองเกินเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการโดยวิธีร้องขอ (กรณีพิเศษ) ด้วยระบบออนไลน์ และโครงการคัดเลือกนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของ กองทัพบก และนักเรียนนายสิบทหารบก ด้านการข่าว สนับสนุนการปฏิบัติของกองกำลังป้องกันชายแดน และหน่วยที่เกี่ยวข้องทั้งในและนอกกองทัพบก พร้อมทั้งเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านการทหารกับมิตรประเทศ ผ่านการเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการของผู้บัญชาการทหารบก และการรับการเดินทางเยือนของผู้บัญชาการทหารบกมิตรประเทศ ด้านยุทธการ สนับสนุนยุทโธปกรณ์พิเศษเพิ่มเติมให้กับกองกำลังป้องกันชายแดน พร้อมทั้งสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การลักลอบนำเข้า/ส่งออกทรัพยากรธรรมชาติ สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ และการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดน นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ยังได้อนุมัติแนวความคิด ในการปรับการจัดหน่วย กองพลทหารราบที่ ๗ และกองพลทหารม้าที่ ๓ ให้เป็น กองพลทางยุทธศาสตร์ของกองทัพบก โดยนำแนวความคิดด้านการพัฒนากิจการกำลังพลสำรองมาปรับใช้ ด้านการส่งกำลังบำรุง ได้ปรับปรุงเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป แบบ ๑๔๕ ให้มีขีดความสามารถในการเป็นเฮลิคอปเตอร์พยาบาล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการส่งกลับสายแพทย์ ด้านกิจการพลเรือน กองทัพบก ได้บูรณาการและประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการจัดกิจกรรมจิตอาสาพระราชทานเพื่อสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานโครงการจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” รวม ๒,๖๐๐ พื้นที่ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน ๔๐๐,๐๐๐ คน และได้จัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์เพื่อเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยการประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงาน/ส่วนราชการอื่น ๆ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างบูรณาการและมีประสิทธิภาพ 

กองทัพเรือ ได้สรุปผลการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๖๕ ซึ่งเป็นการบูรณาการการฝึกของหน่วยต่าง ๆ ภายในกองทัพเรือ เพื่อให้ทุกหน่วยสามารถปฏิบัติงานร่วมกันได้อย่างประสานสอดคล้อง และมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย การอบรมก่อนการฝึก การฝึกปัญหาที่บังคับการ และการฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล โดยใช้โครงสร้างจริง ของหน่วยทุกระดับเพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิด “รบอย่างไร ฝึกอย่างนั้น” และถ่ายทอดความรู้จากรุ่นสู่รุ่นตามแนวคิด “พี่สอนน้อง ครูสอนศิษย์” รวมทั้งมีการฝึกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ โดยใช้ขีดความสามารถของกำลังทางเรือเข้าช่วยเหลือประชาชนจากทางทะเล ร่วมกับ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา หน่วยงานราชการพลเรือน และภาคเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนและเสริมสร้างความเข้าใจในการปฏิบัติงาน รวมทั้งมีการฝึกขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันในทะเล และการฝึกให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล

กองทัพอากาศ ได้นำเสนอการพัฒนาขีดความสามารถเพื่อมุ่งสู่การปฏิบัติการร่วม ด้วยการผนึกกำลังของแต่ละเหล่าทัพเข้าด้วยกันในการบูรณาการและใช้ยุทโธปกรณ์ร่วมกัน คือ ระบบอากาศยานไร้คนขับ และระบบบัญชาการและควบคุม ซึ่งมีการพัฒนาระบบบัญชาการและควบคุมทางอากาศ (ACCS: Air Command And Control System) และการเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี (Tactical Data Link) เพื่อให้เกิดเป็นระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีระดับกองทัพไทย Royal Thai Armed Forces Link และระบบบัญชาการและควบคุมระดับของกองทัพไทยต่อไป นอกจากนี้ กองทัพอากาศ ได้มีการพัฒนา Platform สำหรับการบูรณาการด้านการข่าวกรองที่ทันสมัย เข้าถึงง่าย สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูง ได้แก่ ระบบ GEOINT GEOspatial INTelligence และระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ประยุกต์เพื่อการติดตามอากาศยานและยานพาหนะทางยุทธการ GPS Tracking 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้นำเสนอผลการปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๕ ในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ด้านการพัฒนาบุคลากร มีการสร้างศูนย์ Digital Forensics ศูนย์ FBI Training Academy ใน Quantico ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นต้นแบบ มีการฝึกอบรมตำรวจทุกสายงานให้มีความรู้ด้านเทคโนโลยี พร้อมทั้งจัดสอบวัดมาตรฐานวิชาชีพในทุก ๆ ด้าน ปรับการฝึกยุทธวิธีตำรวจในการระงับเหตุที่เกิดขึ้นเป็นประจำ พัฒนาระบบการวัด Attitude Test เพื่อใช้ในการสอบเข้านักเรียนนายร้อยตำรวจ และนักเรียนนายสิบ ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน พัฒนาการรับแจ้งความออนไลน์และระบบจัดการคดีอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ติดตั้งกล้องวงจรปิดครอบคลุมจุดล่อแหลมและจุดเสี่ยง จัดทำโครงการ “Smart Safety Zone 4.0” เพื่อสร้างความปลอดภัยชุมชน พัฒนาระบบงานพิสูจน์หลักฐานให้ได้รับการรับรองระบบมาตรฐานสากล พัฒนาการตรวจสอบประวัติอาชญากร สร้างโรงงานผลิตกระสุน พัฒนารูปแบบการตั้งด่านตรวจและจุดตรวจทั่วประเทศให้เป็นรูปแบบมาตรฐานสากล จัดหาเครื่องออกใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ ร่วมแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศจนได้รับการปรับระดับขึ้น Tier2 ประจำปี ๒๕๖๕ จัดตั้งศูนย์นวัตกรรมด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์และการพิสูจน์ทางดิจิทัล เน้นการวิจัยเชิงประยุกต์ การสร้างรูปแบบนวัตกรรมให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม สร้างเมืองแห่งนวัตกรรมของตำรวจ Police Innopolis และศูนย์นวัตกรรมด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์และการพิสูจน์ทางดิจิทัลเพื่อเป็นต้นแบบการทดลองนวัตกรรมต่าง ๆ ด้านการพัฒนาระบบการบริหารจัดการ จัดทำแอปพลิเคชัน แทนใจ เพื่อเป็นการสื่อสารสองทางระหว่างผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชา อีกทั้งมีการเชื่อมข้อมูลกับหน่วยงานต่าง ๆ จำนวน ๓๗ หน่วยงาน กับระบบ Crimes เช่น

กรมคุมประพฤติ กรมขนส่งทางบก กรมราชทัณฑ์ เพื่อใช้ในการสืบสวน สอบสวน ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้กล่าวเน้นย้ำให้เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้มงวดกวดขันวินัยกำลังพลในสังกัดให้ประพฤติปฏิบัติตนด้วยความเหมาะสมตามกฎ ระเบียบ คำสั่ง ข้อบังคับ และแบบธรรมเนียมต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด ตลอดจนการคัดเลือกกำลังพลที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมไปช่วยราชการภายนอกหน่วย และหน่วยที่รับตัวไปช่วยราชการและหน่วยที่ส่งไปช่วยราชการ ต้องกำกับดูแลกำลังพลในสังกัดอย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้ดำรงความต่อเนื่องในการบริจาคโลหิตให้กับสภากาชาดไทยในโครงการกองทัพไทย ร้อยดวงใจ สู้ภัย COVID บริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗๒ พรรษา นอกจากนี้ได้เน้นย้ำให้เหล่าทัพติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองและความมั่นคงระหว่างประเทศทั้งในระดับโลกและในระดับภูมิภาคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทย โดยยึดกรอบการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลบนพื้นฐานของการรักษาสมดุลด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พร้อมทั้งขอบคุณเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้ทุ่มเท เสียสละ ร่วมแรง ร่วมใจ ตลอดระยะเวลา ๑ ปีที่ผ่านมาในการทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน และขอให้ดำรงความร่วมมือระหว่างเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่างแน่นแฟ้นและต่อเนื่องตลอดไป


กองประชาสัมพันธ์ สำนักประชาสัมพันธ์ กรมกิจการพลเรือนทหาร
๘ กันยายน ๒๕๖๕