เมื่อมีเวลาได้พักร้อน หากวี่ไม่เลือกไปต่างประเทศตั้งแต่แรก วี่ก็ไม่มีแพลนใดๆ เลย สาเหตุก็เพราะในสวิสมีสภาพอากาศค่อนข้างแปรปวนและไม่แน่นอน ถึงแม้พยากรณ์อากาศของสวิสอย่าง MeteoSwiss จะทำนายได้แม่นยำ แต่ก็แม่นยำเพียง 1-2 อาทิตย์เท่านั้น ดังนั้นหากวี่จะไปพักร้อนในประเทศวี่ก็จะจองเอาในตอนนาทีสุดท้ายเสมอ

ครั้งนี้ก็เช่นกันค่ะ วี่เห็นสภาพอากาศแล้วก็เกิดความไม่แน่ใจ เลยตัดสินใจจองห้องในวันที่ออกเดินทางซะเลย สถานีปลายทางของวี่คือ เมือง Locarno รัฐ Tessin หรือ Ticino เพราะทางตอนใต้ของเมืองนี้ติดกับชายแดนอิตาลี อีกทั้งที่นี่มีอากาศค่อนข้างร้อน ถึงแม้ว่าจะมีเมฆหรือฝนตก อากาศที่สัมผัสได้ก็จะไม่หนาวเท่าฝั่งบ้านของวี่นั่นเองค่ะ

แรกเริ่มเดิมทีวี่มีแพลนว่าจะตื่นแต่เช้าเพื่อไปล่องเรืองที่ทะเลสาป Lago Maggiore แต่ฝนเจ้ากรรมดันตกลงมาตั้งแต่เช้า จึงต้องจำใจเปลี่ยนแผนกะทันหัน (แอบเสียดายเหมือนกันนะเนี่ย) ครั้งที่แล้วที่วีมีโอกาสได้มาที่รัฐ Tessin วี่ได้เขียนเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับหุบเขา Verzascatal หรือ Verzasca Valley เอาไว้ (ตามอ่านได้ที่ : https://thestatestimes.com/post/2021061308) สำหรับทริปนี้วี่ก็มาที่หุบเขาอีกเช่นเดิม แต่ครั้งนี้หุบเขาที่วี่จะพาไปเป็นหุบเขา Bavonatal หรือ Bavona Valley ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่มหัศจรรย์อย่างมาก ไม่แพ้ที่ Verzascatal กันเลยทีเดียว

การเดินทางมาที่ Bavonatal หรือ Bavona Valley ถ้าขับรถยนต์จาก Locarno ก็จะใช้เวลา 45 นาทีโดยประมาณ แต่หากอยากเปลี่ยนบรรยากาศโดยการขึ้นรถโดยสารประจำทางก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยนั่งรถบัสสีน้ำเงินสาย 315 จากหน้าสถานีรถไฟ Locarno ไปลงที่ป้าย Bignasco จากตรงนี้เราจะต่อรถบัสสีเหลือง (Postauto) สาย 333 เพื่อไปลงที่หมู่บ้าน Foroglio แต่ขอเตือนกันไว้สักนิดว่ารถสายนี้จะวิ่งไม่กี่เที่ยวต่อวัน ต้องดูเวลากันให้เป๊ะๆ เลยนะทุกคน

พอมาถึงหมู่บ้าน Foroglio ก็ทำเอาวี่เซอร์ไพรส์หนักมาก เพราะที่นี่เป็นหมู่บ้านที่เหมือนพาเราเข้าไปสู่โลกแห่งเทพนิยาย เป็นหมู่บ้านที่เสมือนหยุดกาลเวลาเอาไว้ เพราะบ้านของที่นี่สร้างด้วยหิน แถมยังมีฉากหลังเป็นน้ำตกที่ชื่อเดียวกับหมู่บ้านแห่งนี้ นั่นก็คือ น้ำตก Foroglio โดยน้ำตกนี้มีความสูงถึง 110 เมตร ใครที่มาเที่ยวที่นี่ก็ต่างต้องการเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกกันทั้งนั้น (สวยมากจริงๆ)

วี่คิดว่าหากมาเที่ยวช่วงหน้าร้อนก็คงเดินเที่ยวได้สบายๆ เลยล่ะ นักท่องเที่ยวไม่น่าจะเยอะเท่าไหร่ ตอนแรกวี่ก็แอบคิดว่าคนจะเยอะ แต่พอมาจริงๆ วี่เจอแค่กลุ่มเดียวเอง แล้วก็มากันไม่กี่คนด้วย และหากมาที่นี่ในช่วงหน้าหนาว ขอบอกเลยว่าเป็นช่วงที่ Unseen สุดๆ และวี่ก็ยังไม่เห็นใครเขียนถึงนะ โดยช่วงหน้าหนาวของที่นี่จะมีความพิเศษคือ เหมือนหมู่บ้านแห่งนี้ถูกหลงลืมจากโลกภายนอก ไม่มีแสงส่องลงมา เพราะหมู่บ้านนี้อยู่ท่ามกลางภูเขาที่แสนจะสูงใหญ่ แถมนักท่องเที่ยวก็น้อยมากๆ ถือว่า Unseen สุดๆ ไปเลย

สาเหตุที่หมู่บ้านแห่งนี้เต็มไปด้วยบ้านที่สร้างด้วยหิน นั่นก็เพราะที่ Bavonatal เป็นหุบเขาที่เต็มไปด้วยหินและแห้งแล้งที่สุด อีกทั้งยังมีความชันมากที่สุดในเทือกเขาแอลป์ จึงถือว่าหินเป็นทรัพยากรที่มีอย่างเหลือเฟือ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้คนในสมัยก่อนจะนิยมใช้หินเป็นวัสดุหลักในการสร้างบ้าน แถมการใช้หินสร้างบ้านยังทำให้อุณหภูมิของบ้านไม่สูงมากในช่วงหน้าร้อนด้วยล่ะ

เราสามารถเดินเข้าไปชมหมู่บ้านได้อย่างใกล้ชิดเลยนะ แต่ก็ไม่ควรเสียงดัง เพราะที่นี่มีคนอาศัยอยู่จริงๆ เท่าที่เห็นส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนมีอายุ นอกจากนี้ก็ไม่ควรเดินเข้าไปในบริเวณบ้านด้วยนะทุกคน ที่นี่เขามีทาง hiking หลากหลายเส้นทางให้เลือกเดินด้วยนะ ส่วนตัวหมู่บ้านเล็กนิดเดียว เดินแป๊บเดียวก็ทั่วถึงหมดแล้ว แต่ทุกมุมคือสวยจนร้องว๊าวได้ตลอดจริงๆ และบ้านหลายๆ หลังในหมู่บ้านนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เลยนะ (นานมากจริงๆ) ส่วนด้านหน้ามีร้านอาหารที่เป็นอาหารพื้นเมือง ด้านในมีบ้านที่เปิดเป็นร้านขายของที่ระลึก ขอบอกเลยว่าน่ารักมาก!!!

พูดมาถึงตรงนี้ทุกคนคงสนใจบ้างไม่มากก็น้อยใช่ไหมล่ะ ส่วนตัววี่เองหลงรักหมู่บ้านนี้มาก วี่ชอบความ Unique และความเก่าแก่ เพราะมันมีรากแห่งวัฒนธรรมซ่อนอยู่ หากใครชอบโลกเสมือนเทพนิยาย ลองมาปล่อยใจล่องลอยไปในหมู่บ้าน Foroglio สักครั้งเถอะ เพราะมันคุ้มค่ากับความรู้สึกจริงๆ

---

👍 ติดตามผลงาน วีวี่ เซเลบภูเขา เพิ่มเติมได้ที่ : https://thestatestimes.com/author/วีวี่%20เซเลบภูเขา