บ.เทคยักษ์ใหญ่มะกันแตะเบรคจ้างงานใหม่ หลังเห็นพ้องวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่กำลังมา

สัญญาณเศรษฐกิจส่อเค้าไม่ดี! ‘แอปเปิล-กูเกิล-ไมโครซอฟท์’ พร้อมใจเลิกรับคนเข้าทำงานชั่วคราว เชื่อวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่กำลังมา

เอเจนซีส์ - กระแสความกลัวเศรษฐกิจถดถอยจากสงครามยูเครน และภาวะเงินเฟ้อที่เกิดจากวิกฤตโรคติดต่อระดับโลกที่ยังคงส่งผล ล่าสุด โรคฝีดาษลิงถูก WHO ประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินทั่วโลกแล้ว สิ่งเหล่านี้กลายเป็นปัจจัยทำให้บริษัทไฮเทคชื่อดังสหรัฐฯ ล่าสุด รวม "กูเกิล" "ไมโครซอฟท์" และ "แอปเปิล" รวมกลุ่มบริษัทใหญ่อื่นๆ ประกาศยกเลิกจ้างงานใหม่ชั่วคราว และสั่งประกาศลดตำแหน่งงานที่มีอยู่เดิม

สื่อมินท์ของอินเดียรายงาน เมื่อวันศุกร์ (21 ก.ค.) ว่า ดูเหมือนพนักงานอินเดียบริษัทไฮเทคยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ จากทั้งกูเกิล ไมโครซอฟท์ และแอปเปิล จะรอดจากกระแสการประกาศลดตำแหน่งงานเดิม แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญของอุตสาหกรรมชี้ว่า มาตรการหยุดการจ้างงานใหม่ชั่วคราวและการสั่งปลดพนักงานที่ออกมาจากบรรดาบริษัทไฮเทคสหรัฐฯ เชื่อจะกระทบในระดับทั่วโลกอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ บลูมเบิร์กรายงานวันพุธ (20) ว่า ทั้งกูเกิล ไมโครซอฟท์ และแอปเปิลเดินตามรอยบริษัทไฮเทคสหรัฐฯ ยักษ์ใหญ่ก่อนหน้าที่ชะลอการจ้างงานใหม่ ปลดพนักงานเดิมออกบางส่วน และให้ความสนใจไปที่การเพิ่มประสิทธิผลแทน

บลูมเบิร์กชี้ว่า แอปเปิล (Apple Inc.) มีนโยบายสั่งลดต้นทุนและการเติบโตตำแหน่งงานลงในบางแผนก ขณะที่สื่ออื่นรายงานว่า ไมโครซอฟท์อาจสั่งปลดพนักงานออกถึง 1% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด 180,000 คน ด้านกูเกิล (Google Inc.) จะมีการจ้างงานใหม่ช้าลงภายในปี 2022 อ้างอิงบันทึกภายในบริษัทที่ออกมาจากผู้บริหารระดับสูง ซันดาร์ พิชัย (Sundar Pichai)

บลูมเบิร์กชี้ว่า อีลอน มัสก์ ซึ่งก่อนหน้าเคยออกมาแสดงความวิตกและย้ำว่าเทสลา (Tesla) จำเป็นต้องประกาศเลิกจ้างพนักงานลง โดยเฉพาะพนักงานแผนกขับขี่อัตโนมัติ (Auto pilot) ลง 200 คน จากการที่โรงงานเทสลาในเมืองซานเมเทโอ (San Meteo) รัฐแคลิฟอร์เนียปิดลง

ซึ่งในการให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์ก มัสก์ยืนยันว่าพนักงานกินเงินเดือนจำนวนราว 10% จะต้องตกงานภายใน 3 เดือน ซึ่งบริษัทเทสลามีพนักงานทั่วโลกสิ้นสุดปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 100,000 คน

ทวิเตอร์ อิงค์ (Twitter Inc.) ซึ่งกำลังมีปัญหาทางกฎหมายกับมัสก์ เรื่องดีลการซื้อขายบริษัทที่เดินหน้าสู่ชั้นศาลแล้วได้ประกาศเริ่มการหยุดการจ้างงานชั่วคราวเช่นกัน และเริ่มต้นการสั่งปลดพนักงานในเดือนพฤษภาคม โดยอ้างอิงจากบันทึกภายในบริษัทเมื่อปี 2021 ซึ่งพบว่าบริษัทมีพนักงานทั้งหมด 7,500 คน

เมตา อิงค์ (Meta Inc.) บริษัทแม่ของเฟซบุ๊กของผู้ก่อตั้งมาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก ยกเลิกแผนการจ้างวิศวกรภายในไม่ต่ำกว่า 30% โดยซักเกอร์เบิร์ก ได้บอกกับพนักงานเมตา อิงค์ว่า เขาคาดการณ์ว่ากำลังจะเกิดวิฤตทางเศรษฐกิจครั้งร้ายแรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ที่จำเป็นทำให้บริษัทต้องสั่งถอยการจ้างงานลง

สื่อบารอนรายงานเมื่อวันที่ 3 ก.ค.โดยอ้างอิงรายงานของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สว่า ซักเกอร์เบิร์ก กล่าวผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในวันพฤหัสบดี (30 มิ.ย.) กับพนักงานเมตา อิงค์จำนวน 77,800 คน ประกาศคำเตือนวิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐฯ ครั้งนี้ สื่อรีพับบลิกเวิลด์ของอินเดียรายงานวันที่ 3 ก.ค.ว่า โพลสำรวจของไฟแนนเชียลไทมส์รายงานกว่า 70% ของนักเศรษฐศาสตร์โลกชั้นนำลงความเห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในต้นปี 2024 และบริษัทต่างๆ จำเป็นต้องเตรียมพร้อมเพื่อเผชิญหน้าเศรษฐกิจขาลงครั้งใหญ่ที่คาดว่ากำลังจะเริ่มภายในสิ้นปี 2022

นอกเหนือจากซักเกอร์เบิร์ก พบว่า ผู้บริหารเมตา อิงค์คนอื่นออกมาแสดงคำเตือนคล้ายกันว่า บริษัทกำลังเผชิญหน้าต่อช่วงเวลาที่ร้ายแรง และปัจจัยภายนอกกระทบทางเศรษฐกิจนั้นรุนแรง

ด้านแอมะซอน อิงค์ (Amazon Inc.) แถลงก่อนหน้าเมื่อเมษายนว่า บริษัทมีจำนวนพนักงานมากเกินความต้องการหลังก่อนหน้าช่วงวิกฤตโควิด-19 ทางบริษัทได้เพิ่มกำลังในกระบวนการและปัจจุบันทางบริษัทของผู้ก่อตั้ง เจฟฟ์ เบโซส (Jeff Bezos) ต้องการลดกำลังพนักงานลง

บลูมเบิร์กชี้ว่า ในเวลานี้ แอมะซอนกำลังอยู่ระหว่างกระบวนการเช่าพื้นที่โกดังชั่วคราวและยุติชั่วคราวสำหรับการพัฒนาพื้นที่สำนักงานสำหรับพนักงานออฟฟิศ โดยทางบริษัทชี้ต่อว่า กำลังอยู่ระหว่างการประเมินว่า ทางบริษัทจำเป็นต้องใช้พื้นที่มากเพียงใดสำหรับพนักงานแบบไฮบริดที่ทำงานจากทั้งที่บ้านและบริษัท

โดยตัวเลขเมื่อมีนาคม แอมะซอนมีพนักงานทั้งหมด 1.6 ล้านคน ส่งผลทำให้เป็นบริษัทไฮเทคที่มีพนักงานมากที่สุดในโลก

ทั้งนี้ ที่ปรึกษานโยบายทางเทคโนโลยีของอินเดีย ปราซานโต เค.รอย (Prasanto K.Roy) ให้สัมภาษณ์กับมินท์ของอินเดียโดยชี้ว่า แรงงานในอินเดียยังคงมีความหลากหลาย บริษัททั้งหลายต้องกระทำด้วยความระมัดระวังจากการที่ความได้เปรียบด้านต้นทุน (Cost Advantage) ยังคงอยู่ในทิศทางลง ซึ่งในเวลานี้อินเดียไม่ได้มีราคาถูกแต่ทว่ายังคงเป็นศูนย์รวมของคนที่มีความสามารถจำนวน และมีความหลากหลายมากกว่า อย่างไรก็ตาม เขาชี้ว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทคทั้งหลายยังไม่สามารถย้ายโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ มาที่อินเดียเพราะจะกลายเป็นเผือกร้อนทางการเมือง

ขณะที่ CBS news รายงานเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ว่า การที่บริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทคของสหรัฐฯ แห่กันเหยียบเบรกเลิกว่าจ้างพนักงานใหม่ชั่วคราวเป็นผลมาจากกลัวการเผชิญหน้าวิกฤตเศรษฐกิจครั้งร้ายแรงมากที่สุดในรอบ 20 ปีนี้ การประกาศเลิกจ้างจากจากบริษัทไฮเทคเกิดขึ้นมากที่สุดในเดือนพฤษภาคม โดยการประกาศเลิกจ้างครั้งใหญ่ที่สุดเกิดในเดือนพฤษภาคม สูง 10 เท่าของตัวเลข 4 เดือนแรกของปีนี้ กลายเป็นกระแสความกลัวเศรษฐกิจถดถอยจากสงครามยูเครน วิกฤตราคาเชื้อเพลิงพุ่ง และภาวะเงินเฟ้อที่เกิดจากวิกฤตโรคติดต่อระดับโลกที่ยังคงส่งผล ล่าสุด โรคฝีดาษลิงถูก WHO ประกาศเป็นโรคติดต่อระดับโลก


ที่มา : https://mgronline.com/around/detail/9650000070456