'บิ๊กตู่' เร่งจัดหารถเมล์ EV ให้บริการประชาชน ชี้!! พร้อมสนับสนุนการปรับโฉมรถตุ๊กตุ๊กไทย

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพรถโดยสารสาธารณะในการให้บริการประชาชน โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรี นายกฯ มีข้อสั่งการติดตามให้มีการใช้รถเมล์ไฟฟ้า EV ซึ่งนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยืนยันว่าภายในปีนี้ คาดหมายให้มีรถเมล์ไฟฟ้าออกมาให้บริการประชาชน ประมาณ 1,000 คัน 

ล่าสุดกระทรวงคมนาคม ได้ดำเนินการตามนโยบายสนับสนุนให้เกิดกระแสการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยได้อนุมัติให้ ขสมก. ดำเนินโครงการจ้างเหมาบริการรถโดยสารปรับอากาศที่ใช้พลังงานสะอาด (รถไฟฟ้า) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเดินรถและลดมลภาวะเป็นพิษในเขตเมือง จำนวน 224 คัน เพื่อให้บริการประชาชนให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด  

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม ได้ดำเนินการจัดหาจ้างเหมาบริการรถเมล์ไฟฟ้าเร่งด่วน มารองรับกรณีที่รถเมล์ ขสมก. ไม่เพียงพอต่อการบริการประชาชนในปัจจุบัน รวมถึงรถที่นำมาใช้เพื่อรองรับการที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน หรือ เอเปก ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งปัจจุบันรถเมล์ ขสมก. มีวิ่งให้บริการอยู่ 2,885 คัน ใน 107 เส้นทาง วิ่งให้บริการอยู่ 17,000 เที่ยวต่อวัน และได้มีการปรับประสิทธิภาพให้วิ่งเพิ่มได้ถึง 19,000 เที่ยวต่อวันโดยการเพิ่มรอบความถี่

จากปัจจัยความต้องการต่าง ๆ ขสมก. จึงได้เตรียมดำเนินการโครงการจ้างเหมาบริการรถไฟฟ้าจำนวน 224 คัน มาเสริมการบริการ โดยเป็นการดำเนินการระยะสั้นไม่เกิน 2 ปี ในช่วงทดแทนที่แผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. ยังไม่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ จะสามารถรับมอบรถเข้ามาวิ่งให้บริการในลอตแรกเดือน พ.ย. จำนวน 90 คัน 

นอกจากนี้ ตามแผนจะมีรถเมล์ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกอีกใน 77 เส้นทางใหม่ ลอตแรกจะออกมาวิ่งให้บริการจำนวน 175 คัน ในเดือน ส.ค. 65 และจะออกมาวิ่งในระบบอีกในเดือน ต.ค. 65 รวมเป็น 750 คัน ซึ่งจะทำให้รถเมล์บริการทั้งระบบรวมรถไฟฟ้าวิ่งให้บริการรวมไม่น้อยกว่า 25,000 เที่ยวต่อวัน จากปัจจุบันวิ่งให้บริการประชาชนที่ 17,000-19,000 เที่ยวต่อวัน ทำให้รองรับผู้โดยสารได้ถึง 1 ล้านคนต่อวัน 

“นายกรัฐมนตรียังมีข้อสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า อยากเห็นการปรับโฉมรถตุ๊กตุ๊กไทย โดยรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนการปรับเปลี่ยนสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลเดินหน้าส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างอย่างจริงจัง ทั้งสนับสนุนผู้ประกอบการให้ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ลดภาระของประชาชนในการพึ่งพิงน้ำมัน และยังถือเป็นการปรับตัวเพื่อเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำที่หวังว่าจะเกิดขึ้นในไทยได้ในอนาคตอันไม่ไกลจากนี้” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว