‘ยูเครน’ ดี๊ด๊า!! ประกาศชัยเหนือรัสเซีย หลัง ‘ซุปบอร์ช’ กลายเป็นมรดกของยูเครน

เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2022 ที่ผ่านมา องค์การ UNESCO (ยูเนสโก) แห่งสหประชาชาติ ได้ขึ้นทะเบียนซุปผัก ที่เรียกว่า ‘Borscht Soup’ เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเครน ต้องได้รับการคุ้มครองอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเหตุปัจจัยจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่อาจทำให้ ซุปบอร์ช ต้นตำรับดั้งเดิมของยูเครนสูญหายไป 

ข่าวนี้สร้างความยินดีแก่ชาวยูเครนเป็นอย่างมาก โดยนาย โอเล็กซานเดอร์ ทคาเชงโก้ รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของยูเครนได้ออกมาประกาศว่า “ชัยขนะในสงครามซุปบอร์ชเป็นของพวกเราแล้ว!”

ขณะที่ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ได้ออกมาตอบโต้ว่า ซุปบอร์ชเป็นของรัสเซียและไม่จำเป็นต้องให้ใครมาปกป้อง

สำหรับ ซุปบอร์ช นั้น เป็นซุปผักชนิดหนึ่งที่ทำจากบีทรูท เคี่ยวจนได้เป็นน้ำซุปสีแดงเข้ม แต่บางครั้งก็พบซุปบอร์ชที่ทำจากมันฝรั่ง และกะหล่ำปลี ที่ทำให้น้ำซุปมีสีเขียว หรือขาวได้เช่นกัน มักนิยมบริโภคในกลุ่มประเทศฝั่งยุโรปตะวันออก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่เคยอยู่ในเครือสหภาพโซเวียต ที่หล่อหลอมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และอาหารการกินซึ่งกันและกัน จนยากที่จะแยกได้อย่างชัดเจนว่าถิ่นกำเนิดที่แท้จริงมาจากไหน 

อย่างไรก็ตาม ซุปบอร์ช ได้กลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างร้อนแรงมาหลายปีระหว่างรัสเซีย และยูเครน ที่ต่างก็ต้องการอ้างสิทธิ์ว่าซุปดังกล่าวเป็นอาหารประจำชาติของตน 

โดยยูเครนเคยอ้างสิทธิ์การเป็นต้นกำเนิดของซุปบอร์ช ที่มีแพร่หลายไปทั่วทุกบ้านของชาวยูเครน ที่มีแม้แต่เมืองชื่อ ‘บอร์ช’ และยูเครนยังเป็นแหล่งปลูกบีทรูทที่ใช้เป็นวัตถุดิบพื้นฐานของการทำซุปบอร์ช และเชื่อว่าซุปบอร์ชเผยแพร่เข้าไปในรัสเซียตั้งแต่ยูเครนยังเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต ซึ่งมีการอ้างถึงตำราทำอาหารในยุคสมัยของผู้นำ โจเซฟ สตาลิน ยังเคยเรียกมันว่า ‘ซุปยูเครน’ 

แต่การอ้างอิงต้นกำเนิดของสิ่งใด ด้วยชื่อเมือง หรือความเป็นแหล่งปลูกวัตถุดิบอาจไม่เพียงพอเสมอไป โดยฝ่ายรัสเซียค้านว่า ซุปบอร์ช ก็มีสูตรเฉพาะของรัสเซียเหมือนกัน และมีการบริโภคกันอย่างแพร่หลายมานานแล้ว และมีประวัติศาสตร์ย้อนไปไกลถึงสมัยยุคกลาง ที่ได้เชื่อว่าเป็นอาหารของชาวบ้านรากหญ้าทั่วไป และมีความผูกพันกับชาวรัสเซียจนสามารถยกให้เป็นอาหารประจำชาติได้ 

ประเด็นความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย และยูเครน ที่เถียงกันในเรื่องซุปบอร์ช นี้ ทวีความร้อนแรงขึ้น เมื่อรัฐบาลยูเครนตัดสินใจยื่นเรื่องถึงองค์การ UNESCO ขอขึ้นทะเบียนซุปบอร์ช เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของยูเครนเมื่อปี 2020 ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่รัสเซีย จนเกิดประเด็นสงครามซุปบอร์ชในสังคมโซเชียลของทั้ง 2 ประเทศ 

แน่นอนว่าการตัดสินเรื่องการขึ้นทะเบียนซุปบอร์ชนี้ สร้างความหนักใจแก่องค์การ UNESCO อย่างมาก เพราะไม่อยากให้กลายเป็นประเด็นขัดแย้งบานปลาย และได้กำหนดผลการตัดสินไว้ที่ปี 2023

แต่ด้วยเหตุสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่เกิดขึ้นในปีนี้ ทำให้ UNESCO ตัดสินใจลัดคิว พิจารณาเรื่องซุปบอร์ชให้เป็นกรณีพิเศษ และตัดสินใจให้ซุปผักนี้ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของยูเครนไปในที่สุด 

นับเป็นชัยชนะของยูเครนในการอ้างสิทธิ์การเป็นเจ้าของภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ที่ยูเครนเคยร้องเรียนว่า รัสเซียมีความพยายามที่จะกลืนกินวัฒนธรรมของชาวยูเครนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของตนผ่านการรุกรานทางทหาร จนทำให้ภูมิปัญญาเรื่องการทำซุปบอร์ชแบบดั้งเดิมของชาวยูเครนมีความเสี่ยงที่จะสูญหาย

อันที่จริงแล้ว แม้เรื่องซุปบอร์ช จะแลดูเป็นเรื่องประเด็นเล็กน้อย หากเทียบกับระดับของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่สู้รบกันอย่างหนักหน่วงอยู่ในขณะนี้ แต่นี่คือศึกแห่งศักดิ์ศรีในเชิงของชาตินิยมที่ฝังลึกมานาน

ชัยชนะครั้งนี้ จึงยิ่งใหญ่!! ไม่แพ้สงครามใหญ่ แม้จะอยู่ในถ้วยซุปใบเล็กๆ ก็ตาม!!


เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์ 

อ้างอิง: BBC / Eurasian Times / Wikipedia