'รัสเซีย' เย้ย ตะวันตกจ่อยิงหัวตัวเอง หลังร่วมแบนน้ำมันรัสเซีย แต่ได้ผลลัพธ์ตรงกันข้าม

รัสเซียในวันพุธ (15 มิ.ย.) ระบุว่าตะวันตก "จ่อยิงศีรษะตนเอง" ด้วยการพยายามจำกัดนำเข้าพลังงานจากบ่อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในไซบีเรีย สืบเนื่องจากความขัดแย้งในยูเครน สวนทางโดยสิ้นเชิงกับจีน ซึ่งเพิ่มนำเข้าพลังงานจากมอสโก

สงครามในยูเครน และความพยายามของตะวันตกที่หวังโดดเดี่ยวรัสเซีย ตอบโต้ปฏิบัติการรุกรานดังกล่าว ผลักให้ราคาธัญพืช น้ำมันประกอบอาหาร ปุ๋ยและราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้น ในขณะที่ยุโรปประกาศลดพึ่งพิงน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย

มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่า ความเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ระหว่างรัสเซียกับจีน สามารถต้านทานความพยายามหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความไม่ลงรอยของตะวันตก ในขณะที่สหรัฐฯ และพันธมิตรยุโรปได้ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับมอสโกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"อุปทานพลังงานกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จีนรู้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการและไม่ยิงเท้าตัวเอง ส่วนในฝั่งตะวันตกของมอสโก พวกเขายิงตัวเองที่ศีรษะ" ซาคาโรวาบอกกับผู้สื่อข่าว "ตะวันตกโดดเดี่ยวตัวเองจากเรา"

เธอให้คำจำกัดความมาตรการของสหภาพยุโรปว่าเป็น "การวางแผนฆ่าตัวตาย" ในความพยายามกระจายหนทางปลีกตัวเองออกจากพลังงานของรัสเซีย ซึ่งป้อนอุปทานแก่เยอรมนีมาตั้งแต่ช่วงตึงเครียดสุดของสงครามเย็น

รัสเซียเป็นชาติผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก รองจากซาอุดีอาระเบีย และเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในโลก

ซาคาโรวา บอกว่าทรัพยากรด้านการทูตของรัสเซีย ได้เบี่ยงเส้นทางเรียบร้อยแล้ว บ่ายหน้าจากยุโรป สหรัฐฯ และแคนาดา สู่เอเชีย แอฟริกาและอดีตสหภาพโซเวียต

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวว่าความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกกับจีนถือว่าดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา และยกย่องความเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ที่มีเป้าหมายตอบโต้อิทธิพลของสหรัฐฯ

สหรัฐฯ และมหาอำนาจยุโรป กล่าวโทษการตัดสินใจรุกรานยูเครนของปูติน ว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับตะวันตกดำดิ่งสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วิกฤตขีปนาวุธคิวบาปี 1962 ในนั้นรวมถึงการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วงที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคสมัยใหม่
 

ปูติน กล่าวโทษสหรัฐฯ หยามเกียรติรัสเซีย ตามหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียตปี 1991 และข่มขู่มอสโก ด้วยการแผ่ขยายเขตแดนของพันธมิตรทหารนาโต้

รัสเซียส่งทหารรุกรานยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ โดยอ้างว่าเพื่อตัดทอนศักยภาพด้านการทหารของประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ทางใต้แห่งนี้ ขุดรากถอนโคนในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าพวกชาตินิยมที่เป็นอันตราย และปกป้องพลเมืองที่พูดภาษารัสเซียใน 2 แคว้นทางภาคตะวันออกของยูเครน

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน บอกกับ ปูติน ระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์ในวันพุธ (15 มิ.ย.) ว่าปักกิ่งและมอสโก มีความตั้งใจเดินหน้าสนับสนุนกันและกันในประเด็นอื่น ๆ ในนั้นรวมถึงผลประโยชน์สำคัญ และความกังวลหลัก ๆ อย่างเช่นประเด็นด้านอำนาจอธิปไตยและความมั่นคง ตามรายงานของซีซีทีวี สื่อมวลชนแห่งรัฐของจีน

"ผู้นำทั้งสองเน้นย้ำว่าความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับจีนอยู่ในระดับสูงที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนและกำลังดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง" เครมลินระบุ "ประธานาธิบดีจีน เน้นย้ำว่าความเคลื่อนไหวของรัสเซียมีความชอบธรรม เพื่อป้องผลประโยชน์ของประเทศ ในขณะที่ต้องเผชิญกับความท้าทายด้านความมั่นคงที่เกิดจากกองกำลังภายนอก"


(ที่มา : รอยเตอร์) https://mgronline.com/around/detail/9650000057138