โซเชียลแชร์สนั่น #ไม่เอาพรบคู่ชีวิต หนุนสมรสเท่าเทียมให้สิทธิ์ทุกรักเท่ากัน

กลายเป็นข้อพิพาทในโลกโซเชียลขึ้นมาทันที ภายหลังจาก แฮชแท็ก #ไม่เอาพรบคู่ชีวิต ได้รับการพูดถึงอย่างมากในหมู่ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะทวิตเตอร์ในไทยเมื่อวันอังคาร (7 มิ.ย.) ต่อเนื่องมาถึงวันพุธ (8 มิ.ย.) เพื่อแสดงการคัดค้านความพยายามของรัฐบาลในการผลักดันร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิตเพื่อใช้กับคู่รักกลุ่มเพศหลากหลาย

การแสดงเสียงคัดค้านนี้เกิดขึ้นหลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันอังคาร (7 มิ.ย.) เห็นชอบให้กระทรวงยุติธรรมนำร่าง พ.ร.บ. คู่ชีวิต ดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ทั้งที่ร่างแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่พรรคก้าวไกลผลักดัน หรือที่เรียกกันว่า ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม กำลังกลับเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ในวันพุธ (8 มิ.ย.)

กระแสในโซเชียลมองว่า สำหรับคู่หลากหลายเพศที่ต้องการสร้างครอบครัว ไม่ได้หยุดที่สิทธิประโยชน์ของคนสองคนเท่านั้น แต่หมายถึงการมีบุตร มีคนที่เรารักเพิ่มเข้ามาในครอบครัวเล็กๆ นั้นด้วย 

แต่ พ.ร.บ.คู่ชีวิต ริดรอนสิทธิ์ในข้อนี้ ซึ่งสำคัญอย่างมาก เนื่องจากในปัจจุบัน พ.ร.บ.อุ้มบุญ ที่ควบคุมการเข้าถึงบริการด้านอนามัยเจริญพันธุ์อนุญาตให้เฉพาะคู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น และจะมีสิทธิ์มีบุตรได้ด้วยเทคโนโลยีเหล่านั้น คู่ชีวิตไม่มีสิทธิ์ 

ฉะนั้นถ้ามีเพียง พ.ร.บ. คู่ชีวิต สิ่งที่พ่อแม่หลากหลายเพศมักจะถามไถ่เข้ามาเสมอและเป็นความต้องการเป็นสิทธิ์ในฐานะมนุษย์และพลเมืองคือการมีบุตร ก็จะไม่สามารถทำได้ และยังเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายยสำหรับพวกเขา จะทำได้เพียงการรับบุตรบุญธรรมมาเลี้ยงเท่านั้น

คำถาม คือ ทำไมถึงถูกกีดกัน ทำไมมีบุตรไม่ได้ ทำไมต้องยอมรับกฎหมายที่เลือกปฏิบัติที่เขียนขึ้นโดยรัฐ ที่ไม่ได้ปกป้องสิทธิ์ LGBTIQN+ อย่างแท้จริง 

ทำไม จึงไม่ได้มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และเข้าถึงการมีบุตรด้วยเทคโนโลยีการแพทย์อย่างที่คู่สมรสพึงมี

ทำไม LGBTIQN+ เป็นได้เพียง 'คู่ชีวิต' ไม่ใช่ 'คู่สมรส'? 

สำหรับ พ.ร.บ. คู่ชีวิต คู่รักเพศเดียวกัน จะไม่มีสิทธิ์ตามนี้...

#ไม่มีสิทธิ์ ใช้นามสกุลร่วมกัน
#ไม่มีสิทธิ์ เซ็นอนุญาตรักษาพยาบาลให้อีกฝ่าย
#ไม่มีสิทธิ์ จัดการศพอีกฝ่าย
#ไม่มีสิทธิ์ ในกองทุนประกันสังคม
#ไม่มีสิทธิ์ ในกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
#ไม่มีสิทธิ์ ขอสัญชาติ กรณีอีกฝ่ายเป็นชาวต่างชาติ
#ไม่มีสิทธิ์ การอุ้มบุญ

โดยสรุปแล้ว ในมุมมองของ LGBTQIN+ จึงมองว่า พ.ร.บ. คู่ชีวิต แทบไม่มีความหมายอะไรเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การไม่มีสิทธิ์เซ็นอนุญาตรักษาพยาบาล หรือแม้กระทั่งจัดการศพ

ฉะนั้นวันที่ 8 มิถุนายน 2565 ชาวหลากสีจึงน่าจับตาดูว่ารัฐสภานี้จะฟังเสียงของพวกเขาหรือไม่ จะโหวดรับหรือปัดตก #สมรสเท่าเทียม #ไม่เอาพรบคู่ชีวิต กฎหมายเลือกปฏิบัติที่น่าอับอาย


ที่มา: https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0CGUP3pSajSvA3t7j4SwWhbYCUZATcp6JxQco6PR4G8VWo4Ux2ky1ArUcSea3jy2hl&id=642820935762203

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0Je3GTeTvLPHsHVcCLvERcihyC4dz72B3JYSb5Yd1zB1qGgk4SsjEQzDUU5PVSaATl&id=100054122112172