“บิ๊กตู่” หนุนการรีไซเคิลรถยนต์เก่าหวังลดปัญหาฝุ่น PM 2.5  

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รับทราบการดำเนินการสนับสนุนการรีไซเคิลซากรถทั่วประเทศ ตามมาตรการรองรับขยะจากซากรถยนต์เก่าที่หมดอายุการใช้งานในประเทศ อีกทั้งช่วยลดปริมาณการนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศ และช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ช่วยผลักดันการทำงานตามนโยบายเพื่อร่วมพัฒนาประเทศ

สำหรับสถิติประเทศไทยมีรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 20 ปี ทุกประเภท รวมทั้งสิ้น 5,033,307 คัน ซึ่งหากไม่ได้รีไซเคิลให้ถูกต้องเหมาะสม ในอีก 20 ปีข้างหน้า รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 20 ปี จะเพิ่มเป็น 16 ล้านคัน รถยนต์เก่าเหล่านี้หากนำมาใช้งาน และขาดการบำรุงรักษาตามมาตรฐานจะเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของปัญหาฝุ่น PM 2.5 ประกอบกับ การรีไซเคิลที่ถูกต้อง มีประสิทธิภาพ จะสามารถนำทรัพยากรจากการแยกซากรถมาหมุนเวียนให้กลายเป็นชิ้นส่วนที่เป็น ประโยชน์ต่ออุตสาหกรรม ซึ่งจะลดปริมาณการนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศ ซึ่งในรถยนต์หนึ่งคันมีสัดส่วนเหล็กมากถึง 69% 

ทั้งนี้กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการสาธิตสำหรับการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนที่คำนึงถึงการอนุรักษ์พลังงานเพื่อการรีไซเคิลทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และเหมาะสมสำหรับซากยานพาหนะที่หมดอายุใช้งานในประเทศไทย (ELV Project) ร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ องค์การพัฒนาพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น (NEDO) 

โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า จะเป็นโอกาสสร้างศักยภาพ และการแข่งขันให้ไทย โดยไทยจะเป็นต้นแบบการรีไซเคิลทั้งในประเทศ และในภูมิภาคเอเชีย ต่อไปในอนาคต โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการการทำงานหาแนวทางการทำงานร่วมกันเพื่อให้ธุรกิจเกี่ยวกับการรีไซเคิลรถยนต์ที่หมดอายุการใช้งานขยายตัว ซึ่งนอกจากจะสร้างงานสร้างอาชีพ เกิดโอกาสการเติบโตของประชาชน ยังสามารถแก้ปัญหาลดขยะซากรถ นำรถยนต์ที่หมดอายุการใช้งานมาหมุนเวียนให้กลายเป็นชิ้นส่วนที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรม และสามารถต่อยอดแนวความคิดให้ไทยเป็นต้นแบบเกิดระบบจัดการซากรถยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ