'เฟซบุ๊ก'​ ไฟเขียว!! ปล่อยพ่น​ 'คำเกลียดชัง-รุนแรง'​ กับรัสเซีย ชี้!! บางประเทศ​ ถึงขั้นขู่อาฆาต​ 'ปูติน-ทหารรัสเซีย' ได้

เฟซบุ๊กประกาศผ่อนคลายกฎข้อบังคับมาตรฐานชุมชนว่าด้วยคำพูดเกลียดชังยั่วยุใช้ความรุนแรงชั่วคราว โดยต่อไปนี้ผู้ใช้บริการในบางประเทศจะสามารถใช้ถ้อยคำยุยงข่มขู่อาฆาตกับทหารรัสเซียผู้รุกราน หรือแม้แต่ขู่อาฆาต "ปูติน" ได้

รายงานของเอเอฟพี/รอยเตอร์/ดิอินดีเพนเดนต์เมื่อ 11 มี.ค.65 กล่าวว่า บริษัท เมตาแพลตฟอร์มส์ ประกาศเปลี่ยนแปลงนโยบายเกี่ยวกับคำพูดที่แสดงความเกลียดชังเป็นการชั่วคราว โดยต่อจากนี้จะอนุญาตให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กและอินสตาแกรมในบางประเทศ เรียกร้องให้ใช้ความรุนแรงกับชาวรัสเซียและทหารรัสเซียที่มีส่วนร่วมในการรุกรานยูเครนได้

เมตา​ ระบุในถ้อยแถลงว่า ผลจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย เมตา ยอมผ่อนปรนรูปแบบการแสดงออกทางการเมืองที่ปกติแล้วจะละเมิดกฎของเรา เช่น คำพูดรุนแรง อาทิ "รัสเซียผู้รุกรานจงพินาศ" แต่ "เรายังคงไม่อนุญาตการเรียกร้องอย่างน่าเชื่อถือให้ใช้ความรุนแรงต่อพลเรือนรัสเซีย"

ในอีเมลที่ชี้แจงต่อรอยเตอร์ เมตากล่าวด้วยว่า จะอนุญาตโพสต์ที่สาปแช่งประธานาธิบดี​ วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย หรือประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ของเบลารุส แต่จะต้องไม่มีการอ้างถึงเป้าหมายรายอื่นหรือมีสิ่งบ่งชี้ที่น่าเชื่อถือ 2 อย่าง เช่น พิกัด หรือ​ วิธีการสังหาร

เอเอฟพีกล่าวว่า เมื่อเดือนกรกฎาคม 2564 เฟซบุ๊ก​ ก็เคยอนุญาตให้มีข้อยกเว้นเช่นนี้กับโพสต์ที่สาปแช่ง​ อยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เช่น "คาเมเนอีจงพินาศ" ระหว่างที่เกิดการชุมนุมประท้วงในอิหร่านตอนนั้น

การเปลี่ยนแปลงนโยบายชั่วคราวของเฟซบุ๊ก​ จะมีผลกับประเทศ อาร์เมเนีย, อาเซอร์ไบจาน, เอสโตเนีย, จอร์เจีย, ฮังการี, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย, โปแลนด์, โรมาเนีย, รัสเซีย, สโลวาเกีย และยูเครน

ทั้งนี้​ นับตั้งแต่รัสเซียส่งกำลังทหารรุกรานยูเครน แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย​ ก็กลายเป็นเวทีโต้แย้งหรือระบายความโกรธแค้นของผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ทั่วโลก ทำให้บริษัทผู้ให้บริการต้องหาหนทางจัดการกับประเด็นที่เป็นข้อถกเถียงเกี่ยวกับสงครามในยูเครน เช่นเมื่อครั้งที่ ส.ว.ลินซีย์ แกรห์ม ของสหรัฐ เรียกร้องให้ลอบฆ่าปูตินระหว่างการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์และการโพสต์ทางทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 3 มีนาคม

ถึงกระนั้น​ รัฐบาลรัสเซีย​ ก็อาจจะไม่ได้กังวลอะไรมากมาย​ เพราะก่อนหน้านี้ได้มีการสั่งปิดกั้นเฟซบุ๊กและจำกัดการใช้งานทวิตเตอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในวันเดียวกับการออกกฎหมายกำหนดโทษจำคุกสื่อที่เผยแพร่ "ข้อมูลเท็จ" เกี่ยวกับกองทัพ

อย่างไรก็ตาม​ ทางสถานทูตของรัสเซียประจำสหรัฐฯ​ ก็ได้ออกแถลงการณ์ทางทวิตเตอร์ภายหลังปรากฏข่าวการเปลี่ยนนโยบายของเฟซบุ๊ก เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐหยุด "กิจกรรมสุดโต่ง" ของบริษัทเมตา โดยกล่าวว่า ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมไม่ได้ให้สิทธิ์เจ้าของแพลตฟอร์มเหล่านี้ในการกำหนดเกณฑ์ของความจริง และเสี้ยมให้ประเทศขัดแย้งกัน

ที่มา: https://www.thaipost.net/abroad-news/102337/

https://www.independent.co.uk/tech/facebook-instagram-russia-ukraine-violence-b2033444.html