'พาณิชย์' ยัน! ภาพรวมราคาสินค้ายังทรงตัว

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังประชุมคณะทำงานกำกับติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าว่า ภาพรวมราคาสินค้าส่วนใหญ่ทรงตัวเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะเนื้อหมู ปรับลดลงชัดเจน ราคาหมูเนื้อแดง เฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่กิโลกรัมละ 175 บาท และในห้างต่างๆ เหลือเพียงกิโลกรัมละ 164-170 บาท จากสัปดาห์ที่แล้วเฉลี่ยถึงกิโลกรัมละ 187 บาท เพราะผู้บริโภคเปลี่ยนไปบริโภคเนื้อไก่แทน ขณะที่เนื้อไก่ ยังอยู่ในการกำกับดูแล ราคาน่องติดสะโพก มาห้างเฉลี่ยกิโลกรัมละ 65 บาท ส่วนในตลาดเฉลี่ยกิโลกรัมละ 70-75 บาท

ส่วนราคาผักแตกต่างกันไปแต่ละจังหวัด เนื่องจากแหล่งเพาะปลูกเฉพาะพื้นที่ ทำให้บางพื้นที่ต้องมีต้นทุนขนส่ง แต่คาดว่าจะไม่ปรับสูงขึ้นไปกว่านี้แล้ว เช่นเดียวกับราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวด เริ่มเห็นมีการปรับลดลงเล็กน้อย ในห้างค้าปลีก เหลือขวดละ 61-62 บาท ร้านสะดวกซื้อ ขวดละ 64-65 บาท โดยราคาน่าจะทรงตัวไปอีกประมาณ 2 สัปดาห์ จากสตอกเก่า ก่อนจะทยอยปรับลดลง เพราะผลปาล์มเริ่มออกสู่ตลาด จะมีการเก็บเกี่ยวมากขึ้นในเดือนมีนาคม ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มน่าจะลดลงชัดเจนในเดือนมีนาคมนี้ รวมไปถึงสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป ราคายังทรงตัว โดยภาคใต้จะสูงกว่าภาคอื่นเล็กน้อยจากการขนส่งที่ไกลกว่า

นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์มีชุดสายตรวจเฉพาะกิจในส่วนกลาง และมีทีมพาณิชย์จังหวัดออกตรวจสอบทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า และกำกับดูแลให้ปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคตัดสินใจก่อนซื้อ ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบห้องเย็นสินค้าปศุสัตว์ ตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือ กกร. ที่ให้ห้องเย็นรายใหญ่ ที่มีสตอกเกิน 5,000 กิโลกรัม ให้แจ้งปริมาณ และราคาจำหน่ายทุกสัปดาห์นั้น กระทรวงพาณิชย์ ได้ตรวจสอบห้องเย็นทั้งหมด ไม่เฉพาะรายใหญ่เท่านั้นตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น จำนวนทั้งหมด 616 ราย พบปริมาณเนื้อหมูในสตอก รวมกันกว่า 19 ล้าน 5 แสนกิโลกรัม 

ทั้งนี้พบผู้กระทำความผิดรวม 12 ราย ใน 6 จังหวัด ในความผิด 2 ลักษณะคือ ไม่แจ้งปริมาณสตอกตามประกาศที่กำหนด และพบห้องเย็นที่ไม่ได้จดทะเบียนประกอบกิจการกับกรมการค้าภายใน ตาม พรบ.คลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินคดีส่งฟ้อง 9 ราย ส่วนอีก 3 ราย คดีสิ้นสุด ศาลสั่งปรับและจำคุกตามโทษสูงสุดแล้ว โดย 1 รายมีโทษไม่แจ้งสตอก ได้รับโทษปรับสูงสุดเป็นเงิน 10,000 บาท อีก 2 ราย มีโทษปรับสูงสุด แต่ได้ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือปรับรายละ 5,000 บาท โดย  1 ราย มีโทษปรับรายวันเพิ่มด้วย นับแต่วันกระทำความผิด วันละ 500 บาท จำนวน 13 วัน และรายนี้มีโทษจำคุกแต่รอลงอาญา 1 ปี ส่วนอีก 1 รายสุดท้าย เพิ่มโทษรายวัน อีกวันละ 500 บาท 10 วันเช่นเดียวกัน