ผลวิจัย “บุหรี่ไฟฟ้าเสี่ยงเซ็กส์เสื่อม” ไม่ถูกต้อง เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้าโวย ให้ข้อมูลผิด อันตรายยิ่งกว่า

เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า ECST เผยแพทย์ออสซี่ โต้ข้อสรุปว่าใช้บุหรี่ไฟฟ้าเสี่ยงเซ็กส์เสื่อมไม่ถูกต้อง ชี้การวิจัยไม่ได้แบ่งกลุ่มผู้ทำการศึกษาว่าเป็นผู้สูบบุหรี่มาก่อนหรือไม่ วอนกลุ่มต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้าเลิกให้ข้อมูลที่ผิดๆ กับสังคมหรืออ้างงานวิจัยแค่ฉบับเดียวมาทำข่าว เพราะจะทำให้คนใช้บุหรี่ไฟฟ้าหันกลับไปสูบบุหรี่อีก ซึ่งอันตรายกว่าเดิม แนะนโยบายบุหรี่ไฟฟ้าไทยควรขับเคลื่อนด้วยข้อมูลที่ถูกต้องดีกว่าการสร้างความหวาดกลัว

นายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า “ลาขาดควันยาสูบ” หรือ ECST และแอดมินเพจ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน กล่าวว่า “ผลวิจัยที่สรุปว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศไม่ถูกต้อง ซึ่ง ดร.คอลิน เมนเดลซอห์น แพทย์ชาวออสเตรเลีย ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาผู้ป่วยติดบุหรี่ ชี้แจงว่าความจริงแล้วอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศเป็นผลมาจากการสูบบุหรี่ เนื่องจากผู้ที่เปลี่ยนมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เคยสูบบุหรี่มาก่อน แต่งานวิจัยชิ้นนี้ไม่ได้มีการแยกกลุ่มตัวอย่างเป็นคนที่สูบบุหรี่อย่างเดียว คนที่เลิกสูบบุหรี่แล้วเปลี่ยนมาใช้บุหรี่ไฟฟ้า และคนที่ใช้แต่บุหรี่ไฟฟ้า ทำให้การสรุปผลมีความคลาดเคลื่อนได้”

ดร. เมนเดลซอห์น ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการร่างแผนควบคุมบุหรี่แห่งชาติของออสเตรเลีย ยังเสริมว่าการศึกษานี้สอบถามผู้ชายจำนวน 13,700 คนซึ่งมีเพียง 4.8% เท่านั้นที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้า แต่การศึกษานี้มีข้อที่กังขาหลายประการ อันดับแรก รูปแบบการศึกษาที่เป็น cross sectional study ที่เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลของกลุ่มตัวอย่าง ไม่ได้เป็นการทำการทดลองเพื่อหาความสัมพันธ์กัน อีกทั้งไม่มีการเปรียบเทียบอัตราการเกิดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) ในกลุ่มผู้ใข้บุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่เคยสูบบุหรี่ กับผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่เคยสูบบุหรี่มาก่อน เพื่อดูว่าแนวโน้มการเกิดอาการ ED ที่มากขึ้น นั้นที่แท้แล้วมาจากการสูบบุหรี่หรือเปล่า และอีกประการคือการศึกษายังพบว่าอัตราการเกิด ED ในผู้ชายที่สูบบุหรี่และไม่สูบบุหรี่มีสัดส่วนที่พอกัน ซึ่งน่าแปลกใจ เพราะเป็นทราบกันดีอยู่แล้วว่าการสูบบุหรี่ทำให้เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

“ที่พวกเราเลิกสูบบุหรี่แล้วเปลี่ยนมาใช้บุหรี่ไฟฟ้า เพราะพวกเราก็กังวลต่อสุขภาพของตัวเองและคนใกล้ชิด จึงเปลี่ยนมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่มีอันตรายน้อยกว่า แต่การที่ฝ่ายรณรงค์ต่อต้านบุหรี่ด่วนสรุปว่าบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เซ็กส์เสื่อม และเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องออกมาจะสร้างความเข้าใจผิดในสังคมได้ ทำให้คนที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าอยู่ในปัจจุบันเกิดความหวาดกลัว และอาจจะหันกลับไปสูบบุหรี่แทน ซึ่งเท่ากับผลักไสให้พวกเราต้องกลับมารับกรรมกับควันบุหรี่ที่มีความอันตรายอีกครั้ง” 

“เมื่อปลายปี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมต. ดีอีเอส อยากผลักดันให้บุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนทางเลือกถูกกฎหมาย ซึ่งข้อมูลงานวิจัยและการศึกษาจากต่างประเทศเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการพิจารณากฎหมายบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานรณรงค์ต่อต้านบุหรี่มีความรับผิดชอบมากกว่านี้ในการเผยแพร่ข้อมูล เพราะเข้าใจว่าทางกระทรวง ดีอีเอสเอง ก็จ้องดำเนินคดีเรื่องเฟคนิวส์ที่หลอกลวงและสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน”