"แรมโบ้"ยกผลโพล สวน"ทักษิณ" หน้าหงาย คนไทย ยังไว้ใจ"บิ๊กตู่" บริหารประเทศต่อ ส่วนทักษิณ หากรอไม่ไหว ก็รีบจองตั๋วกลับประเทศไทย มากักตัวในเรือนจำเข้าคุกได้ทันที

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีทางด้าน โทนี่ วู้ดซัม หรือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมเสวนาในรายการ CARE Talk ตอน : “หมูแพง ของแพง ค่าแรงถูก”  โดยนายทักษิณกล่าวว่า สำหรับราคาหมูแพง กระทรวงพาณิชย์ปล่อยให้ของขึ้นราคา ต้องจัดการให้เรียบร้อย ไม่ใช่ของบกลางไปซื้อแพงมาปล่อยถูก สินค้าตัวนี้ กำไรเท่าไหร่ แต่ละช่วงต้องสมเหตุสมผล หากตรงไหนมากไป เอาเปรียบก็ต้องคุย วันนี้มี 2 อย่าง คือ รู้ไม่เท่าทัน หรือ ถูกเขาทำให้โง่ ซึ่งไม่ดีทั้ง 2 อย่าง นอกจากนั้นนายทักษิณ ยังได้บอกว่า เห็นรัฐบาลแล้วอึดอัดแทน เห็นใจนายกฯ เพราะรัฐธรรมนูญทำให้ได้รัฐบาลที่มีองค์ประกอบที่แย่ ยังบอกว่าถ้าเป็นตัวเองนั้นจะไม่แก้ปัญหาด้วยเงิน แต่จะแก้ปัญหาด้วยสติปัญญา

ปัญหาภายในรัฐบาล พรรคร่วม ปัญหาในการแก้ไขเหมือนไม่ได้แก้ไขอะไรเลย คนรับไม่ไหว เศรษฐกิจกับโควิด ทำให้รัฐบาลนี้เป๋ แล้วยังแก้ปัญหาไม่เป็น ช่วงท้ายนายทักษิณยังแสดงความมั่นใจว่าปีนี้ได้เลือกตั้งแน่อน เพราะสิ่งที่เป็นอยู่นั้นประชาชนไม่ทนแล้ว

ดร.เสกสกล กล่าวว่าเรื่องของแพงนั้นปัจจุบันนี้จะเห็นได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ นั้นเอาใจใส่กับเรื่องนี้อย่างจริงจังมาโดยตลอด มีการเรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามารายงานให้รับทราบและกำชับถึงการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการที่นายทักษิณกล่าวหาว่า พล.อ.ประยุทธ์นั้นไม่สนใจนั้นเป็นการกล่าวหาที่หวังผลทางการเมืองเท่านั้น นายทักษิณ อยู่ต่างประเทศ ก็รู้ว่าเวลานี้ทั่วทุกมุมโลกนั้น เกิดภาวะราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างที่สหรัฐฯ เองนั้นราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นกว่า 40 เปอร์เซ็นต์

ส่วนที่มาเลเซีย ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกับไทย รัฐบาลต้องใช้เงินกว่า 5 พันล้านบาทเพื่อพยุงราคาสินค้า ไม่ให้กระทบกับผู้บริโภค เช่นเดียวกับประเทศไทย ที่มีราคาสินค้าราคาแพงขึ้น แต่ใช่ว่ารัฐบาล จะนิ่งนอนใจ ทุกภาคส่วนก็ช่วยกันในการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญทุกภาคส่วนได้ลงมือทำไปแล้ว ไม่ได้ดีแต่นั่งวิจารณ์ นั่งโม้ โป้ปดอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ แบบนายทักษิณ ที่โม้รายวัน ว่าตัวเองเก่งอย่างนั้น เก่งอย่างนี้ แต่สุดท้ายตัวเองยังเอาตัวไม่รอด ต้องหนีคดีหัวซุกหัวซุนไปอยู่ต่างประเทศ ถ้าเป็นคนเก่งจริง คงไม่ต้องหนีอยู่แบบนี้ 

ส่วนกรณีที่นายทักษิณ บอกว่าจะมีการเลือกตั้งแน่ เห็นเพราะประชาชนไม่ทนต่อการบริหารงานของพล.อ.ประยุทธ์นั้น  เห็นนายทักษิณ โม้เรื่องนี้มาตั้งแต่ปลายปี 2563 จนผ่านเลยปี 2564 จนตอนนี้ ปี 2565 แล้วนายทักษิณ ก็ยังคุยเรื่องนี้ อยู่เป็นวรรคเป็นเวร ท่าทางนายทักษิณ จะแก่จริง ๆ ที่ลืมทุกเรื่องที่ตัวเองพูด ว่าเคยพูดอะไรไว้บ้าง กลืนน้ำลายตัวเองไปไม่รู้กี่พันรอบแล้ว กับการคาดการเรื่องยุบสภา เลือกตั้งใหม่ สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คาดสักครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกัน นายทักษิณ บอกว่าประชาชนไม่ทนต่อรัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ ก็อยากให้นายทักษิณนั้นกลับไปดูผลสำรวจความคิดเห็นของ สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) ที่ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทุกสาขาอาชีพกระจายทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ระหว่างวันที่ 10 - 15 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา

โดยส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.0 ยังต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้ถือธงนำ เพราะกล้าเปลี่ยนแปลงการเมืองใหม่ การบริหารงานใหม่ ๆ กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง หลุดออกจากการบริหารประเทศแบบรัฐราชการ นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 74.3 ยังระบุว่า ให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี ที่กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง เลือกประชาชนมากกว่าผลประโยชน์ และการเกรงใจทางการเมือง  นอกจากนั้นประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 69.9 ระบุด้วยว่า ในเวลานี้ยังไม่เห็นใครที่เหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมากกว่า พล.อ.ประยุทธ์  ดร.เสกสกล กล่าวอีกว่า ผลโพลยังชี้ให้เห็นว่า เสียงส่วนใหญ่หรือร้อยละ 71.3 นั้น ทราบถึงการบริหารประเทศตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาของ พล.อ.ประยุทธ์ว่า นายกรัฐมนตรีกล้าที่จะออกมารับผิดชอบทุกเรื่องวิกฤตในฐานะผู้นำรัฐบาล 

“นี่เป็นการพิสูจน์ ให้เห็นว่า ประชาชนยังให้การสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่นายทักษิณ พยายามสร้างกระแสกดดัน  วันนี้นายกรัฐมนตรีจะยังคงทำงานหนักเพื่อประชาชน ช่วยเหลือประชาชนเพื่อฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไม่ตอบโต้ทางการเมือง ไม่ว่านายทักษิณ และลิ่วล้อ จะพูดอะไรมา พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ใส่ใจ เดินหน้าทำงานเพื่อประเทศชาติ และประชาชน ปล่อยให้คนแดนไกล คอยชะเง้อ รอเวลากลับบ้านต่อไป แต่ถ้ารอไม่ไหว ก็ไปจองตั๋วเครื่องบินกลับมาได้ทันที มากักตัวอยู่ในเรือนจำ ที่ประเทศไทย ก็คงไม่มีใครว่า” ดร.เสกสกลกล่าว