ขึ้นชื่อว่า "สงครามเย็น" เหล่าชาติมหาอำนาจย่อมพร้อมจะทะเลาะกันได้ที่ทุก ที่เวลา ตั้งแต่บนพื้นผิวโลกยันนอกชั้นอวกาศ 

ล่าสุดรัฐบาลจีนปักกิ่งส่งเรื่องฟ้องร้องถึงองค์การสหประชาชาติ อันเนื่องมาจากดาวเทียม Starlink ของ อีลอน มัสก์ ถึง 2 ดวง ได้เคลื่อนตัวเข้าใกล้วงโคจรของสถานีอวกาศเทียนกงของจีนมากเกินไป และหวุดหวิดที่จะชนกันอยู่ถึง 2 ครั้งในเดือนกรกฎาคม และ ตุลาคม 2021 ที่ผ่านมา จนต้องย้ายตำแหน่งสถานีอวกาศหนี ทางรัฐบาลจีนไม่ไหวจะทน ต้องส่งหนังสือร้องเรียนถึงหน่วยงานด้านอวกาศขององค์การสหประชาชาติ ให้สหรัฐอเมริกาออกมาแสดงความรับผิดชอบในเรื่องนี้ 

ซึ่งสถานีอวกาศเทียนกง ถือเป็นความสำเร็จก้าวใหญ่ของการพัฒนาด้านอวกาศของจีน หลังจากที่จีนประสบความสำเร็จในการส่งยานอวกาศฉางเอ๋อ - 5 ไปลงบนดวงจันทร์ด้านที่ไม่เคยมีชาติใดสำรวจมาก่อน และ ส่งยานสำรวจจู้หรง ลงพื้นผิวดาวอังคารได้สำเร็จเป็นชาติที่ 2 ของโลกต่อจากสหรัฐอเมริกา โดยสถานีอวกาศเทียนกงมีกำหนดพร้อมปฏิบัติการจริงอย่างเป็นทางการในกลางปี 2022 

แต่จากเหตุการณ์ที่สถานีอวกาศจีนต้องหลบวงโคจรของดาวเทียมเอกชนของค่าย SpaceX ถึง 2 ครั้งภายในระยะเวลาห่างกันไม่ถึง 3 เดือน ทำให้จีนไม่พอใจอย่างมาก ที่อาจนำไปสู่เหตุการณ์ไม่คาดฝัน และความปลอดภัยของนักบินอวกาศจีนที่ต้องไปปฏิบัติหน้าที่บนสถานีเทียนกงในอนาคตได้ 

ทางฝ่ายจีนได้ระบุในจดหมายร้องเรียนถึงเลขาธิการองค์การสหประชาชาติให้สหรัฐอเมริกาปฏิบัติตามสนธิสัญญาอวกาศสากล แม้จะอยู่ในพื้นที่นอกโลกก็ตาม 

แต่ทั้งนี้ โจนาธาน แมคโดเวล ศาสตราจารย์ด้านดาราศาสตร์ฟิสิกส์ จากสถาบัน ฮาร์วาร์ด-สมิธโซเนียน ให้ความเห็นว่า ไม่ค่อยมีประเทศไหนที่จะส่งเอกสารร้องเรียนด้วยเรื่องไม่พอใจเกี่ยวกับอวกาศไปถึงหน่วยงานสากลลักษณะนี้มาก่อน และอุบัติเหตุเฉี่ยวชนวัตถุอวกาศ หรือดาวเทียม เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ อยู่แล้ว เพราะบนชั้นบรรยากาศของโลกเรา มีดาวเทียมลอยอยู่เป็นจำนวนมาก แค่เฉพาะดาวเทียมของ SpaceX บริษัทเดียว ก็มีมากถึง 1,600 ดวงแล้ว และทางรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ก็ได้อนุมัติให้ SpaceX ส่งดาวเทียมได้อีกถึง 12,000 ดวงในระยะเวลาอันใกล้

และยังชี้ว่า จีนก็เป็นประเทศหนึ่งที่ก่อให้เกิดขยะอวกาศจำนวนมากมายมหาศาล ด้วยดาวเทียมคุณภาพต่ำ ล้าสมัย และก็เคยมีปัญหาที่เกือบเฉี่ยวชนกับสถานีอวกาศของสหรัฐฯ หลายครั้งมานานกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งทางองค์การอวกาศของสหรัฐฯ ก็ต้องคอยหลบให้ตลอดเหมือนกัน

แต่ทั้งนี้หากดูข้อมูลจำนวนดาวเทียมทั้งหมดของทุกชาติทั่วโลกที่ล่องลอยอยู่บนชั้นบรรยากาศนอกโลกในปัจจุบันนี้ มีมากถึง 24,763 ดวง ซึ่งสหรัฐอเมริกาเป็นชาติที่มีดาวเทียมอยู่มากที่สุดถึง 3,945 ดวง รองลงมาคือ รัสเซีย 1,533 ดวง และจีน 501 ดวง 

และหากนับรวมดวงเทียมของ SpaceX ที่กำลังจะส่งขึ้นไปเพิ่มอีกนับหมื่นดวง ก็จะทำให้สหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าของดาวเทียมมากกว่าทุกประเทศในโลกรวมกัน ที่อาจจะต้องคอยหลบวงโคจรกันให้ดีๆ เพราะน่าจะมีปัญหากันอย่างแน่นอนในอนาคต

ส่วนด้าน อีลอน มัสก์ และผู้บริหาร SpaceX ต้นเหตุของเรื่อง ยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นใดๆ ในเหตุการณ์ครั้งนี้ 

---

เรื่อง: ยีนส์​ อรุณรัตน์
อ้างอิง: Aljazeera / The Guardian / Y2YO.com