‘ซัมซุง’ เผย 'ไทย' ฐานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ‘ใหญ่สุดในโลก’ ชี้!! 32 ปี ลงทุนร่วม​ 5​ แสนล้านดอลฯ

“ไทยซัมซุง” ฉลอง 32 ปี เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจในไทย ชูฐานการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่สุดในโลก หลังลงทุนแล้วกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์ นายจุนฮวา ลี ประธาน บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน ไทยซัมซุงฯ ถือเป็นฐานการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ามีกำลังผลิตสูงสุดใน 28 ประเทศทั่วโลก และมีจำนวนประเภทสินค้า (SKU) มากที่สุด แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ เตาอบ และเครื่องล้างจาน

โดยมีกำลังการผลิตรวมสูงถึง 10 ล้านยูนิตต่อปี คิดเป็นสัดส่วนสินค้าส่งออกถึง 90% เรียกได้ว่ากว่าครึ่งหนึ่งของเครื่องใช้ไฟฟ้าซัมซุงในครัวเรือนทั่วโลกถูกผลิตและส่งออกจากโรงงานแห่งนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มเตาอบและเครื่องล้างจานที่ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกเพียงรายเดียวในโลก

“ซัมซุงดำเนินธุรกิจเคียงคู่ประเทศไทยมาแล้วกว่า 32 ปี นับเป็นบริษัทสาขาที่ดำเนินกิจการนอกประเทศเกาหลีใต้ยาวนานที่สุด ซึ่งการที่เราสามารถพัฒนาและเติบโตอย่างมั่นคงดังเช่นทุกวันนี้ เกิดขึ้นจากแรงสนับสนุนอย่างดีของคนไทย

ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ (โรงงานศรีราชา) มีมูลค่าการลงทุนในประเทศไทยรวมแล้วกว่าห้าแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจของประเทศมาอย่างยาวนาน มีการสร้างโอกาสการจ้างงาน สร้างรายได้หมุนเวียนที่สู่ 4,000 ครอบครัว รวมถึงพนักงานจากบริษัทคู่ค้าอีกกว่า 50,000 คนทั่วประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีโครงการส่งพนักงานไปแลกเปลี่ยนความรู้และศึกษางานจากสำนักงานใหญ่ที่ประเทศเกาหลีใต้และบริษัทสาขาอื่นๆ รวมถึงจัดกิจกรรมแข่งขันทักษะภายในเพื่อคัดเลือกผู้ชนะไปแข่งขันในระดับภูมิภาค เป็นการสร้างแรงบันดาลใจและความภาคภูมิใจแก่พนักงานทุกคนด้วยวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้าง พร้อมเปิดรับไอเดียใหม่ๆ จากพนักงานทุกคนอยู่เสมอเพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับกระบวนการผลิตหรือการจัดการอื่นๆ ภายในโรงงานได้อย่างอิสระ

ทำให้ทุกภาคส่วนในระบบห่วงโซ่อุปทานสามารถจับมือเดินหน้าเอาชนะวิกฤติร่วมกันมาได้ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตามค่านิยมหลักขององค์กรหรือ “Co-prosperity” ที่ซัมซุงยึดถือมาโดยตลอด ควบคู่ไปกับวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งพัฒนาสู่ความเป็นเลิศอย่างไม่หยุดนิ่ง จึงทำให้ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ แห่งนี้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ขับเคลื่อนธุรกิจเคียงคู่ประเทศไทยด้วยความใส่ใจตลอด 32 ปี


ที่มา : https://www.facebook.com/1233859410089681/posts/2310287755780169/