ญี่ปุ่น ผวา 'โอมิครอน' แพร่สู่ชุมชน หลังพบคลัสเตอร์ใหม่ ในฐานทัพโอกินาวา 

คลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เชื่อมโยงกับฐานทัพสหรัฐฯ ในญี่ปุ่น ขยายวงกว้างมากขึ้นเป็นอย่างน้อย 180 รายแล้ว จากการเปิดเผยของรัฐบาลญี่ปุ่นเมื่อวันจันทร์ (20 ธ.ค.) ก่อความกังวลว่ามันอาจแพร่กระจายเชื้อไวรัสสู่ชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในนั้นพบเคสตัวกลายพันธุ์โอมิครอนแล้ว 1 ราย

เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นเปิดเผยว่า คนงานชาวญี่ปุ่นรายหนึ่งที่ค่ายแฮนเซน บนเกาะโอกินาวา ทางภาคใต้ของประเทศ มีผลตรวจเชื้อตัวกลายพันธุ์โอมิครอนออกมาเป็นบวกเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (17 ธ.ค.)

ฮิโรคาสึ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีกล่าวระหว่างแถลงข่าวประจำวัน ว่าเวลานี้คลัสเตอร์ที่เชื่อมโยงกับฐานทัพพบแล้ว 180 เคส แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าในนั้นมีจำนวนมากน้อยแค่ไหนที่ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์โอมิครอน ที่แพร่กระจายเชื้อได้ง่ายมาก

"รัฐบาลญี่ปุ่นขอเรียกร้องอีกครั้งให้ฝ่ายสหรัฐฯ รับประกันว่าพนักงานทุกคนที่ฐานทัพสหรัฐฯ ในญี่ปุ่น จะปฏิบัติตามคำสั่งและใช้มาตรการที่หนักหน่วงหากมีการฝ่าฝืนใดๆ" มัตสึโนะ กล่าว

โอกินาวา จังหวัดทางใต้สุดของญี่ปุ่น เป็นที่ตั้งของฐานทัพสหรัฐฯ ราวๆ 70% ที่อยู่ในญี่ปุ่น และก่อนหน้านี้ เคยเผชิญการแพร่ระบาดที่เชื่อมโยงกับค่ายทหารเหล่านี้มาแล้วหลายครั้ง

จังหวัดโอมิกานา ถึงขั้นต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเดือนมกราคม ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในขณะที่คลัสเตอร์ล่าสุดนั้นมีทั้งคนงานชาวญี่ปุ่น และบุคลากรของสหรัฐฯ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่น

เดนนิ ทามากิ ผู้ว่าราชการจังหวัดโอกินาวาบอกกับพวกผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์ (17 ธ.ค.) ว่าเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนการแพร่ระบาดของโอมิครอน และร้องขอให้กองทัพสหรัฐฯ ดำเนินการตรวจวิเคราะห์สารพันธุกรรม เพื่อสรุปว่าผู้ที่ติดเชื้อนั้นเป็นตัวกลายพันธุ์โอมิครอนหรือไม่

สำนักงานกิจการสาธารณะของกองทัพสหรัฐฯ ในญี่ปุ่น ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้

ญี่ปุ่น มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมแล้ว 1,733,323 ราย และเสียชีวิต 18,391 คน นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น แต่อัตราการติดเชื้อใหม่ลดลงมาแล้ว

ท่ามกลางความกังวลมากขึ้นต่อตัวกลายพันธุ์โอมิครอน ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลกแห่งนี้ ยกระดับคุมเข้มชายแดนเข้มงวดขึ้นและสัญญาจะเร่งโครงการฉีดเข็มกระตุ้น

นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ เปิดเผยว่าได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไฟเซอร์ อิงค์ เมื่อวันศุกร์ (17 ธ.ค.) เพื่อรับประกันการเข้าถึงยาเม็ดชนิดรับประทานรักษาโควิด-19 และประกาศว่าจะเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแก่คนชรา


(ที่มา : รอยเตอร์)
https://mgronline.com/around/detail/9640000126197