โฆษกทบ. ยืนยันกองทัพบกร่วมกับจังหวัดชายแดนพร้อมรองรับปัญหาผู้หนีภัยจากการสู้รบ ตามแนวชายแดนไทยเมียนมาพร้อมย้ำเหตุการณ์ปะทะใกล้ชายแดนจังหวัดตากยุติแล้ว ประชาชนจากประเทศเพื่อนบ้านทยอยเดินทางกลับแล้ว

พล.อ.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ เสนาธิการทหารบก ในฐานะโฆษกกองทัพบกระบุถึงเหตุปะทะ บริเวณแนวชายแดนจังหวัดตาก ทำให้มีประชาชนจากประเทศเพื่อนบ้านข้ามมาฝั่งไทยว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลา 10 นาฬิกาเมื่อวานนี้ บริเวณพื้นที่ตรงข้ามอำเภอแม่สอดจังหวัดตาก

โดยเป็นการปะทะกันของกำลังประเทศเพื่อนบ้านในระยะที่ติดกับแนวชายแดนทำให้ประชาชนจากประเทศเพื่อนบ้านส่วนหนึ่งข้ามมายังฝั่งไทยเพราะคิดว่ามีความปลอดภัย 

สำหรับแนวทางปฏิบัติตามแนวชายแดนจะมีพื้นที่ความปลอดภัยรองรับให้ประชาชนจากประเทศเพื่อนบ้านในจุดต่างๆ โดยการปฏิบัติตามหลักการมนุษยธรรม แต่ส่วนใหญ่แล้วเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ประชาชนในประเทศเพื่อนบ้านก็จะเดินทางกลับไปอย่างเช่นในกรณีที่เกิดขึ้นปะทะเมื่อวานนี้ใกล้ชายแดนจังหวัดตาห ประชาชนไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้ามาพักค้างแรมในฝั่งไทย เพียงแค่เข้ามาเพื่อต้องการพื้นที่ปลอดภัย และเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นก็ทยอยเดินทางกลับ ซึ่งจากการติดตามเหตุปะทะเมื่อวานนี้สิ้นลงในเวลา 17 นาฬิกา และ ไม่มีการสูญเสียใดๆ

สำหรับการตรวจสอบและแยกการดำเนินระหว่างกรณีผู้หนีภัยจากการสู้รบ กับผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ถ้าเป็นเรื่องของการฉีดวัคซีนนั้นเป็นเรื่องที่ผู้ว่าราชการจังหวัดดูแลโดยตรง ซึ่งจะให้ความสำคัญกับคนในประเทศเป็นลำดับแรก ส่วนการดูแลประชาชนในประเทศเพื่อนบ้านก็จะเป็นลักษณะของการดูแลตามหลักมนุษยธรรมเป็นหลัก

โฆษกกองทัพบกย้ำถึงกรณีปัญหาผู้หนีภัยจากการสู้รบ ว่า ฝ่ายความมั่นคงดูแลตามหลักการโดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการดูแลประชาชนจากประเทศเพื่อนบ้านที่ข้ามมาฝั่งไทยแต่ถ้าเป็นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจะใช้กลไกการปฏิบัติของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองผลักดันตามกระบวนการทางกฎหมายและพยายามสืบสวนไปถึงผู้นำพาเพื่อเอาผิดทั้งขบวนการ

ส่วนที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับให้เตรียมรองรับกรณีปัญหาผู้หนีภัยจากการสู้รบนั้น ทางจังหวัดมีแผนรองรับไว้แล้ว ส่วนทหารจะดูแลพื้นที่ตามแนวชายแดนเป็นหลัก และผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นๆ จะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในฐานะผู้ใหญ่ที่สุดในพื้นที่