"สาธิต" รับ โอมิครอน มีโอกาสแพร่ในไทย  เล็งระดมฉีดบูทเข็ม 3 ด้าน  ชี้ ชิงลต.ซ่อมเป็นสิทธิ์แต่ละพรรค ระบุ พรรคใหญ่แข่งกัน ต้องประเมินผลได้-ผลเสีย-คุ้มค่าหรือไม่

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาธิตปิตุเตชะ รมช. สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)ว่า ที่ประชุมเห็นชอบ ตามที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอ เกี่ยวกับมาตรการการท่องเที่ยว การทำโซนสีจังหวัด จากสีแดงมาเป็นสีส้ม ให้มากที่สุด และแผนการบริหารจัดการวัคซีนในปี 65 ซึ่งจะมีการบูทเข็ม 3 ให้เร็วขึ้น รวมถึงการจัดงานเทศกาลปีใหม่ ที่จะต้องมีการฉีดวัคซีน 2 เข็ม 

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ประชุมเป็นห่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19สายพันธุ์โอมิครอน ที่อาจจะรวมกับสายพันธุ์เดลต้าหรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า ไม่มีข้อมูล เรื่องการกลายพันธุ์ เพราะปัจจุบันเชื้อโอมิครอน ยังไม่สามารถทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรง ยังสามารถควบคุมได้ เพราะเรามีมาตรการที่เข้มข้น แต่หากมีอาการรุนแรง หรือสัดส่วนคนติดเชื้อสูงก็เป็นสิ่งที่น่ากังวล ทั้งนี้เราต้องเร่งฉีดวัคซีนให้เยอะที่สุด
 
เมื่อถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงหรือสั่งการอะไรในที่ประชุมหรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า นายกฯไม่ได้เป็นห่วงอะไร แต่ให้ระมัดระวังไม่ให้การ์ดตก

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้ยอดติดเชื้อในประเทศไทยมีทั้งหมดกี่ราย นายสาธิต กล่าวว่า ขณะนี้ยืนยันแล้วมีผู้ติดเชื้อโอมิครอน 8 ราย และอีก 3 ราย มีความเสี่ยงสูง ซึ่งหากตรวจกลุ่มนี้อย่างละเอียดแล้ว ผลยืนยันก็จะเป็นเชื้อโอมิครอน 

เมื่อถามว่ายังไม่มีนัยยะยืนยันว่าจะมีการแพร่เชื้ออย่างรวดเร็วใช่หรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า มีข้อมูลว่ามีการแพร่เชื้ออย่างรวดเร็ว แต่ผู้ติดเชื้อโอมิครอน 3 พันรายทั่วโลก ทางองค์การอนามัยโลก (WHO)ก็ไม่ได้รายงานว่ามีผู้เสียชีวิต หากจะมีความรุนแรงก็เป็นไปตามเกณฑ์ของผู้ติดเชื้อ covid 19 ทั่วไป เช่นกลุ่ม 608 ที่มีโรคประจําตัว หรือเป็นผู้สูงอายุ ทั้งนี้ทั้ง 8 รายที่พบในประเทศไทยล้วนมาจากต่างประเทศทั้งหมด ยังไม่มีการพบการแพร่ระบาดเชื้อโอมิครอนในประเทศไทย แต่สุดท้ายโดยธรรมชาติ ก็จะมีการระบาดในประเทศ เพราะมีบางประเทศที่พบมีการระบาดในประเทศแล้ว เพราะโรคระบาดมีการปิดกั้นลำบาก เมื่อเจอจากนอกประเทศก็จะต้องเจอในประเทศ แต่สำหรับประเทศไทยยังไม่เจอในขณะนี้

นอกจากนี้ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข  ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)เตรียมส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อมจ.ชุมพร เขต 1 และจ.สงขลา เขต 6 ว่า โดยหลักการ พรรคการเมืองต้องส่งผู้สมัคร แต่โดยมารยาทของพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องมีการประเมินว่าการส่งผู้สมัครแข่งกันเอง ในช่วงที่จะมีโอกาสได้ส.ส.แค่ 1-2 คน ผลได้และผลเสียของการรณรงค์เลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ฉะนั้นจะต้องดูในหลายมิติพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องไปพิจารณาว่ากรณีการเลือกตั้งซ่อมส.ส.ในแต่ละพื้นที่ว่าที่ผ่านมาส.ส.พรรคไหนเป็นเจ้าของพื้นที่ แต่ทั้งหมดก็เป็นสิทธิ์ของพรรคการเมืองที่จะต้องประเมินความคุ้มค่าของผลดีและผลเสียที่จะส่งผู้สมัครลงแข่งกันเองในพรรคร่วมรัฐบาล  ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นหน้าที่ของหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคไปเจรจาพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล 

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากพรรคแกนนำรัฐบาล ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อมจะกระทบความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า แน่นอนที่สุดเวลาลงเลือกตั้งมีกระทบกระทั่ง แต่วุฒิภาวะของพรรคการเมืองเรามีอยู่แล้ว เพียงแต่การรณรงค์เลือกตั้งในพื้นที่คุ้มค่ากับการแย่งกันหรือไม่