'จุฬาฯ' คิดค้นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิดใน 1 นาที ฉีดพ่นไม่ระคายเคืองผิว - จดสิทธิบัตรแล้ว

4 พ.ย. 64 - ผศ.ดร.นพ.อมรพันธุ์ เสรีมาศพันธุ์ ผู้อํานวยการศูนย์นวัตกรรมทางการแพทย์คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะ หัวหน้าหน่วยวิจัย Nanomedicine Research Unit จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วย ผศ.ดร.โรจน์ฤทธิ์ โรจนธเนศ ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จับมือร่วมกันคิดค้น ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมน้ำยาฆ่าเชื้อจุลชีพก่อโรค Medical Antiseptic and Moisturizing Spray นวัตกรรมน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ผลการทดสอบการฆ่าเชื้อโควิด-19 พบว่า สามารถฆ่าเชื้อตายภายใน 1 นาทีพร้อมทั้งได้รับคัดเลือกให้เป็นนวัตกรรมเพื่อสุขภาพเป็นของที่ระลึก ในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2564 หรือ Thailand Research Expo 2021 และได้รับการจดแจ้งสิทธิบัตรระดับชาติแล้ว

ผศ.ดร.โรจน์ฤทธิ์ กล่าวว่าการล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันโควิด-19 ที่ใช้อย่างแพร่หลาย ทดแทนการล้างมือด้วยน้ำและสบู่ แต่แอลกอฮอล์ที่นิยมใช้เป็นองค์ประกอบหลักคือ เอทานอล (Ethanol หรือ Ethyl alcohol) มีคุณสมบัติ เป็นสารทำให้เกิดการคายน้ำ เมื่อใช้เป็นเวลานาน จะทำให้เกิดการระคายเคืองผิวแห้งแตก และหยาบกระด้าง จึงเกิดแนวคิดพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำยากำจัดเชื้อจุลชีพก่อโรคที่ปราศจากแอลกอฮอล์แต่ยังคงมีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อจุลชีพก่อโรค จึงเป็นที่มาของการพัฒนาน้ำยาฆ่าเชื้อจุลชีพก่อโรค Medical Antiseptic and Moisturizing Spray ขึ้น

น้ำยาฆ่าเชื้อจุลชีพก่อโรคที่พัฒนาขึ้นนี้ เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่ไม่ใช่แอลกอฮอล์ ไม่ก่อให้เกิดการติดไฟ เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อแบบสัมผัสผิวหนังได้ สูตรละลายน้ำ กลิ่นหอม ผ่านการทดสอบ พบว่าไม่เกิดการระคายเคืองต่อผิว มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสได้ดี และจากผลการทดสอบการฆ่าเชื้อโควิด-19 พบว่า สามารถฆ่าเชื้อภายใน 1 นาที โดยโครงการการวิจัยนวัตกรรมนี้ ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาสูตรน้ำยาฆ่าเชื้อจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) คณะผู้วิจัย จึงได้จดแจ้งทรัพย์สินทางปัญญาเป็นสิทธิบัตรระดับชาติ และอยู่ในระหว่างการดำเนินการทำการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับบริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด เพื่อนำไปจัดจำหน่ายให้แก่ประชาชนทั่วไปได้

“น้ำยาฆ่าเชื้อนี้อยู่ในรูปแบบสเปรย์ ใช้พ่นผิวกายและบริเวณอื่น ๆ ที่ต้องการ โดยจะให้ความชุ่มชื้น และทำความสะอาดโดยไม่ต้องล้างน้ำออก สามารถพ่นซ้ำ ๆ ได้ทุก 4 ชั่วโมง แต่ให้หลีกเลี่ยงการพ่นบริเวณดวงตา เยื่อบุผิวช่องปากและจมูก โดยสามารถเก็บไว้ใช้ได้นานถึง 2 ปี ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line: @cmic.chula” ผศ.ดร.โรจฤทธิ์ กล่าว