อินโดฯ ไฟเขียวใช้วัคซีนโควิด 'โนวาแว็กซ์' ผลทดลองพบป้องกันติดเชื้ออาการรุนแรง 100%

อินโดนีเซีย ชาติที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อย่างหนัก กลายเป็นประเทศแรกที่อนุมัติวัคซีนใหม่ต้านโควิด-19 ที่ผลิตโดยโนวาแวกซ์ (Novavax) บริษัทยาสัญชาติสหรัฐฯ จากคำแถลงของทางบริษัทเมื่อวันจันทร์ (1 พ.ย.)

ความเคลื่อนไหวอนุมัติครั้งนี้ จะเปิดทางให้ อินโดนีเซีย ซึ่งกำลังดิ้นรนอย่างหนักในการควานหาอุปทานวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ให้เพียงพอสำหรับประชากร 270 ล้านคน เป็นชาติแรกที่เข้าถึงวัคซีนตัวนี้ ที่ผลิตในอินเดีย ภายใต้แบรนด์ "โนวาแว็กซ์"

วัคซีนของโนวาแว็กซ์ใช้เทคโนโลยีที่ต่างจากบรรดาวัคซีนที่ได้รับความเห็นชอบและถูกกระจายไปทั่วโลกในปัจจุบัน ไม่เหมือนกับเทคโนโลยี mRNA ของไฟเซอร์/ไบออนเทค โมเดอร์นาและเคียวร์แวค ซึ่งวัคซีน 2 เข็มของโนวาแว็กซ์ พึ่งพิงเทคนิคดั้งเดิมกว่า โดยใช้โปรตีนจากส่วนของเชื้อไวรัสที่ไม่ก่อให้เกิดโรค ผสมกับตัวกระตุ้นภูมิ ฉีดเข้าไปในร่างกายเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

นอกเหนือจากนี้แล้ว วัคซีนโนวาแว็กซ์ยังสามารถจัดเก็บไว้ในอุณหภูมิที่สูงกว่าวัคซีนตัวอื่น ๆ ที่ราว ๆ 2-8 องศาเซลเซียส ทำให้สามารถขนส่งและจัดเก็บได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในบรรดาประเทศกำลังพัฒนา

"การอนุมัติครั้งแรกวัคซีนโควิด-19 ของโนวาแว็กซ์ เป็นตัวอย่างในคำสัญญาของเราเกี่ยวกับการเข้าถึงอย่างเท่าเทียมทั่วโลก และจะเติมเต็มความต้องการที่สำคัญยิ่งสำหรับอินโดนีเซีย ในกำลังเดินหน้าทำงานจัดหาวัคซีนให้เพียงพอแก่ประชาชนของพวกเขาทุกคน แม้จะมีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลกก็ตาม"

วัคซีนจะผลิตโดยสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย และการส่งมอบจะเริ่มขึ้นในทันที ถ้อยแถลงของโนวาแว็กซ์ระบุ

ก่อนหน้านี้ ในเดือนมิถุนายน ทางบริษัทรายงานว่าผลการทดลองวัคซีนในอาสาสมัคร 30,000 คน ในสหรัฐฯ และเม็กซิโก พบว่ามันมีประสิทธิภาพ 90.4% ในการป้องกันการติดเชื้อแบบแสดงอาการ และมีประสิทธิภาพ 100% ในการป้องกันการติดเชื้ออาการปานกลางและรุนแรง

เวลานี้ทางบริษัทยื่นขออนุมัติใช้วัคซีนในหลายประเทศ รวมถึงองค์การยาแห่งยุโรป และกำลังขอขึ้นบัญชีใช้ในกรณีฉุกเฉินกับองค์การอนามัยโลก

ส่วนการยื่นคำร้องต่อสำนักงานอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ ผู้ควบคุมกฎระเบียบของสหรัฐฯ จะดำเนินการในช่วงปลายปี

วัคซีนโนวาแว็กซ์ มีคำสั่งซื้อในเบื้องต้น ระหว่างรอการอนุมัติ 200 ล้านโดสจากคณะกรรมาธิการยุโรปและอีก 150 ล้านโดสจากญี่ปุ่น


(ที่มา:เอเอฟพี)
https://mgronline.com/around/detail/9640000108383