ลูกสาวสนิทกับพ่ออย่างเหมาะสม จะทำให้เด็กผู้หญิงมั่นใจมากขึ้น มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในการเรียนและชีวิต!!

ผลวิจัยล่าสุดจาก University of Illinios พบว่า ลูกสาวที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อ มักเป็นเด็กผู้หญิงที่มีความมั่นใจ, พึ่งพาตัวเองได้, เห็นคุณค่าของตัวเอง, มีความมั่นคงทางอารมณ์, รู้จักรักษาสิทธิ์ของตัวเอง (Assertive), รู้สึก relax กว่าในการมีปฏิสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม รู้ว่าควรวางตัวอย่างไรจึงจะเหมาะสม และมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในการเรียนและชีวิตด้วย 

พ่อจึงเป็น Role Model และ "รักแรก" ของลูกสาว ลูกสาวอาจขอคำปรึกษาพ่อในเรื่องที่ใหญ่ๆ มากกว่า เช่น การเลือกมหาวิทยาลัย การตั้งเป้าหมาย การบริหารเงิน การตัดสินใจครั้งสำคัญๆ หรือทัศนคติในการใช้ชีวิต เป็นต้น

คำชื่นชมของพ่อ มักมีน้ำหนักและมีค่าต่อใจลูกเพราะโดยมาก แม่มักจะชื่นชมลูกบ่อยๆ และมักใช้ประโยคยาวๆ แต่โดยธรรมชาติของผู้ชายมักชมสั้นๆ และไม่ชมพร่ำเพรื่อ ทำให้เวลาชมแล้วลูกจะรู้สึก proud มากแสดงว่าเรื่องนี้มันคงสำคัญจริงๆ

ลูกสาวมักเอาพ่อเป็นแบบอย่างในการเลือกคู่ครอง ถ้าความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกสาวดี พ่อให้เกียรติแม่ ยอมรับลูก ลูกสาวก็มักจะเลือกผู้ชายที่รัก, ยอมรับและให้เกียรติเธอเหมือนพ่อ 

ผลวิจัยยังพบว่า ลูกสาววัยรุ่นที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อ มักจะมีความเสี่ยงในการมีเพศสัมพันธ์น้อยกว่าลูกสาวที่มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อ

สิ่งที่พ่อควรทำเพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับลูกสาว

1. หาเวลาเล่นและทำกิจกรรมกับลูก
เล่นกับลูก เช่น เล่น block ไม้ LEGO สอนลูกขี่จักรยาน ว่ายน้ำ ปีนเขา camping เดินป่า ตกปลา ล้างรถ ขับรถ เปลี่ยนหลอดไฟ ซ่อมของ etc. ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ผู้ชายชอบทำอยู่แล้ว แต่การชวนลูกสาวทำกิจกรรมเหล่านี้ จะช่วยฝึก soft skills หลายอย่าง เช่น ความเข้มแข็ง อดทน กล้าตัดสินใจ กล้าเสี่ยง การวางแผน การแก้ปัญหา สิ่งเหล่านี้ล้วนสำคัญต่อเด็กๆ ในศตวรรษที่ 21 ทั้งสิ้น
 

2. รับฟังและเป็นพื้นที่ปลอดภัย
รับฟังอย่างตั้งใจและไม่ตัดสินเมื่อลูกมาปรึกษา อย่าพยายามรีบช่วยลูกแก้ปัญหา ซึ่งโดยธรรมชาติผู้ชายมักจะมุ่งไปที่การแก้ปัญหาทันที แต่ลูกสาววัยรุ่นของคุณอาจแค่ต้องการคนรับฟัง "ความรู้สึก" ของเธอเท่านั้น

3. รักและให้เกียรติภรรยา
เป็นตัวอย่างที่ดีของสุภาพบุรุษที่ลูกสาวจะจดจำเป็นแบบอย่างในการเลือกคู่ครองของเธอ

นอกจากทำกิจกรรมกับพ่อ ลูกสาวก็สามารถเรียนรู้กิจกรรมของผู้หญิงจากแม่ ซึ่งมักเป็นกิจกรรมที่ทำประจำวันอยู่แล้ว เช่น การทำกับข้าว เย็บกระดุม ทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า รีดผ้า เป็นต้น

การที่ลูกถูกเลี้ยงดูและมีกิจกรรมกับพ่อและแม่อย่าง balance เด็กๆ ก็จะเติบโตอย่างมั่นใจ มีความมั่นคงทางอารมณ์ มีความสุข และมีทักษะที่หลากหลาย พร้อมทั้งมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งพ่อและแม่ด้วย
 

ทั้งลูกชายและลูกสาวล้วนมองพ่อเป็น Role model ของเค้า แต่ในบทบาทที่ต่างกันคือ พ่อเป็นแบบอย่างให้ลูกชายว่าควรจะเป็นพ่ออย่างไรเมื่อเขาโตขึ้น และผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษควรปฏิบัติตัวอย่างไร ส่วนลูกสาวก็จะเรียนรู้ว่าผู้ชายที่ดีเป็นอย่างไร เพื่อเธอจะได้เลือกคู่ครองที่เหมาะสมนะคะ

เรื่อง: ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา Program Director THE STUDY TIMES


อ้างอิง: https://www.facebook.com/1603322976605216/posts/3052459688358197/?d=n