ตายมากกว่าตอนรบ!! โควิดทำยอดตาย ‘มะกัน’ ทะลุ 7 แสนราย สูญเสียรวม ‘หนักกว่า’ ยอดตายในสงคราม

ยอดผู้เสียชีวิตสะสมจาก Covid-19 ในสหรัฐ ณ วันนี้ยังพุ่งไม่หยุด และกำลังจะทะลุ 7 แสนรายในเดือนตุลาคม 2021 นี้ กว่าครึ่งหนึ่งเสียชีวิตในช่วงเวลาเพียง 9 เดือนนับตั้งแต่พบการระบาดของสายพันธุ์เดลตาในสหรัฐอเมริกา

ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากสาเหตุของ Covid-19 ในวันนี้มากกว่า ผู้เสียชีวิตจากทุกสงครามของสหรัฐฯ นับตั้งแต่สงครามปฏิวัติอเมริกาไล่มาจนถึงล่าสุดสงครามอัฟกานิสถานรวมกัน 

ทั้งนี้ สงครามที่มีชาวอเมริกันเสียชีวิตมากที่สุดคือ สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีการบันทึกไว้ที่ 281,557 ราย 

ส่วนเคสผู้ติดเชื้อรายวันในสหรัฐฯ เพิ่มกลับมาเฉลี่ยเกิน 120,000 รายต่อวันอีกครั้ง และมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 2,000 รายต่อวัน 

รัฐบาลกลางสหรัฐฯ พยายามที่จะผลักดันให้มีการฉีดวัคซีนบูสเตอร์เข็ม 3 ให้กับชาวอเมริกันทุกคนที่รับวัคซีนมาแล้วเกิน 6 เดือน เพียงแต่องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐ ยังไม่เห็นชอบ และแนะนำให้ฉีดบูสเตอร์ให้เฉพาะผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรังเท่านั้น 

เนื่องจากปัญหาการระบาดที่สกัดไม่อยู่เสียทีในสหรัฐฯ ไม่ได้เกิดจากการขาดแคลนวัคซีน หรือฉีดแล้วภูมิคุ้มกันลดลง แต่เกิดจากกลุ่มคนที่ไม่ยอมไปฉีดวัคซีนอีกกว่าร้อยล้านคนทั่วประเทศ และความไม่ใส่ใจในความเสี่ยงจากการระบาดของ Covid-19  ของชาวอเมริกันเอง

จากข้อมูลการฉีดวัคซีน Covid-19 ทั่วประเทศ พบว่ามีชาวอเมริกันเพียง 55% ที่รับวัคซีนครบโดสไปแล้ว และอัตราการเข้ารับวัคซีนใหม่เริ่มน้อยจนน่าเป็นห่วงจากเดิมที่เคยฉีดวัคซีนได้ถึง 14 ล้านคนต่อสัปดาห์ ในวันนี้เหลือเพียง 1.5 ล้านคนต่อสัปดาห์เท่านั้น จนไม่แน่ใจว่ารัฐบาลสหรัฐจะสามารถผลักดันให้ชาวอเมริกันมาฉีดวัคซีนให้ได้ถึงเป้า 75% ของประชากรภายในปีนี้ได้หรือไม่ 

และยังมีกลุ่มต่อต้านการฉีดวัคซีน ที่ออกมาประท้วงมาตรการบังคับฉีดวัคซีนของรัฐ รวมถึงมาตรการบังคับสวมหน้าอนามัย หรือเว้นระยะห่าง ว่าละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล

ทุกวันนี้ชาวอเมริกันเข้าไปเชียร์ฟุตบอลแน่นเต็มความจุสนามนับหมื่นคน โดยแทบไม่มีใครสวมหน้ากากอนามัยกันอีกแล้ว ไม่ใช่เพราะ สามารถ สกัดการระบาดของ Covid-19 ได้ หรือผู้คนฉีดวัคซีนกันหมด แต่เป็นเพราะชาวอเมริกันส่วนใหญ่ไม่สนใจการระบาดของโรค Covid-19 อีกต่อไปแล้ว

และหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป สหรัฐอเมริกาอาจเป็นชาติแรกในโลกที่มีผู้เสียชีวิตจาก Covid-19 ถึง 1 ล้านคนภายในระยะอันใกล้ก็เป็นได้ 

ดังนั้น สิ่งที่ป้องกันการแพร่ระบาดที่ดีที่สุด ไม่ใช่การฉีดวัคซีนที่ดีที่สุด แต่เป็นความร่วมมือของประชาชนที่ตระหนักรู้ถึงภัยของโรคระบาด ป้องกันตัวเองด้วยการไปรับวัคซีน สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง จึงสามารถลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดได้อย่างแท้จริง


เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์

อ้างอิง: USA Today